เกิดอย่างไพร่ - เราจึงตายอย่างไพร่?
ตายบนแดนศิวิไลซ์อันขื่นขม
เกิดบนดิน - ตายบนดินทุกข์ระทม
ทับถมอยู่กับดินทั้งวิญญาณ
เกิดอย่างไพร่จึงเข้าใจใดคือทุกข์
ใดคือสุขใครสร้างไว้ - ใครล้างผลาญ
ใครสู้พลีตัวเป็นงัวงาน
สร้างทิพย์วิมานเปรอปรนใคร
เกิดอย่างไพร่ - เป็นไพร่ทั้งโคตรเหง้า
หาค่ำกินเช้ามายาไส้
หาเดือนชนเดือนตะบันไป
ยังต้องหาเลี้ยงนายอีกหลายคน
เกิดเป็นไพร่ - ไม่ได้เกิดเป็นข้า
ลงแรงหาเลี้ยงมาจนปี้ป่น
ก้มหัวกลัวเกรงมากี่ชั่วคน
เหลือจะทุกข์เหลือจะทนให้หยามใจ
เกิดเป็นไพร่ - ไม่ได้เกิดเป็นทาส
เพียงสองมือจึงประกาศความฝันใฝ่
เพียงสองตีนจึงทวงหาอธิปไตย
กลับคืนเป็นของไพร่ทั้งยากดี
เกิดเป็นไพร่ - ไม่ได้เกิดเป็นทาส
จะทายท้าทุกอำนาจเคยกดขี่
กี่กระบอกปืนมาจะต่อตี
จะพลิกดินผืนนี้ให้ไพร่เดิน
เกิดเป็นไพร่ - จะขอตายอย่างไพร่
ไม่ร้องขอเกียรติ-ยศใดมาสรรเสริญ
เกิดอย่างไพร่ - ตายให้ไพร่ได้ก้าวเดิน
เป็นเชิงเทินทัพหน้าประชาชน
เกิดอย่างไพร่ - พี่น้องจึงตายเพื่อไพร่
อีกแสนล้านอสงไขยทุกแห่งหน
ตายปลุกไพร่ขึ้นเป็นไททุกผู้คน
ลุกราวีอภิชนทุกชั้นไป
ขอเดินตามปณิธานวีรชน
จะราวีอภิชนทุกชาติไป!
กานต์ ณ กานท์
10 พฤษภาคม 2553
ในโอกาสงาน 'รำลึกวีรชนผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน 2553'
**********
กิจกรรมรำลึกวีรชน10เมษาฯ
-วันนี้ 10 พ.ค.53 เวลา 19.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เชิญร่วมงานรำลึกครบ 1 เดือน ผู้เสียชีวิตจากเหตการณ์ 10 เมษายน 53 จัดโดยกลุ่ม อ.ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์
-วันนี้เวลา 16.00น.เป็นต้นไป เชิญร่วมงาน“รำลึก วีรชนนิรนาม” วัน ในโอกาสครบรอบหนึ่งเดือนการสังหารประชาชน สถานที่ คณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ จัดโดยกลุ่มประกายไฟ สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0866604010 (ร่วมแต่งชุดดำเพื่อไว้อาลัยแก่เหตุการณ์ วันที่10เมย.53)***
***เพียงหนึ่งเดือนให้หลัง สังคมดูจะลืมเลือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในวันที่10เมษายนที่ผ่านมา เมื่อกองกำลังทหารภายใต้คำสั่งของรัฐบาลได้ทำการสลายการชุมนุม ที่บริเวณสะพานผ่านฟ้า ก่อนหน้านั้นรัฐบาลได้ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่มีการใช้อาวุธจริงในการปฏิบัติหน้าที่ แต่สิ่งที่ปรากฏกลับตรงกันข้าม มีผู้บาดเจ็บหลายร้อยคน และเสียชีวิตหลายสิบคน รัฐบาลพยายามเบี่ยงเบนประเด็นการสลายการชุมนุมดังกล่าวโดยการโยนความผิดให้กับผู้ก่อการร้าย แต่ภาพที่สื่อมวลชนถ่ายทอดรวมถึง การบันทึกเหตุการณ์ในชุมนุมันไม่ใช่เช่นนั้น รัฐบาลไม่อาจปฏิเสธได้อีกแล้วว่า “ทหารของรัฐบาลไม่ได้ยิงประชาชน”
เรื่องที่น่าเศร้าคือเช้าวันที่ 11 ทุกอย่างดำเนินต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ประชาชนบริสุทธิ์ที่เสียชีวิตดูไม่มีค่าไม่มีความหมาย สื่อรัฐบาลพยายามประโคมข่าวทหารกล้าที่เสียชีวิต แต่สำหรับประชาชนธรรมดาหาเช้ากินค่ำ และต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยด้วยใจบริสุทธิ์....เหตุใดเล่าชีวิตของพวกเขาจึงไม่เป็นที่พูดถึง...สังคมเพิกเฉยกับสิ่งที่เกิดขึ้น ราวกับว่า “พวกเขาสมควรตาย?” เพราะมาอยู่ผิดที่ผิดทางเอง หรือความตายสำหรับคนจน อาจไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่นัก เพราะพวกเราอยู่ใกล้ความตายเหลือเกิน เราเสี่ยงต่อการตกงานและอดตาย บ่อยครั้งเราทำงานที่เสี่ยงอันตราย และไม่มีหลักประกันใดๆ สำหรับประเทศนี้ ชัดเจนว่าถ้าคนจนป่วยก็มีแนวโน้มที่จะตายเหมือนหมาข้างถนนอยู่ดี.....ความตายเป็นเรื่องปกติสำหรับคนจนอย่างพวกเรา
คนึง ฉัตรเท วีรชนผู้พลีชีพเพื่อประชาธิปไตย เสียชีวิต ด้วยกระสุนปืน ที่ซื้อด้วยเงินภาษีของเขาเอง ไม่กี่วันถัดมาคณาจารย์ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ยังออกมายืนยันว่า “การสลายการชุมนุมของรัฐบาลเป็นสิ่งที่ถูกต้องและสมควร ตามพรก.ฉุกเฉิน” ชีวิตของคุณคนึง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ดูไร้ค่าในสายตาย อภิสิทธิ์ชนที่อาศัยชีวิตอยู่บนการกดขี่ขูดรีดและทำนาบนหลังชนชั้นล่างอย่างพวกเรา
เราจะไม่ปล่อยให้การตายของเพื่อนเราไร้ค่า วันนี้เราจะยืนยันว่าไม่ว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะเป็นเช่นไร เหตุการณ์วันที่10เมษายน ต้องมีผู้รับผิดชอบ และการจากไปของเพื่อนเราต้องเป็นอุทาหรณ์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวต้องเป็นเหตุการณ์ครั้งสุดท้าย เราขอประณามทุกคนที่สนับสนุนการสลายการชุมนุมในวันที่10เมษายน ที่ผ่านมา และขอระลึกถึงวีรชนเพื่อต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยผู้จากไปทุกท่าน.....***
***กำหนดการ
16.00 เริ่มปราศรัย เข้าชมนิทรรศการเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน 2553
16.30 เสวนาเหตุการณ์วันที่ 10เมษายน อาชญากรรรมรัฐ จากผู้ชำนาญการ และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์
วิทยากร
– อ.พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์
- อ.สุดา รังกุพันธ์
– คุณชัยธวัช ตุลาฑน
17.15 ญาติวีรชน กล่าวถึงเหตุการณ์วันที่10เมษายน และการเสียชีวิตของวีรชน
17.45 กล่าวไว้อาลัย วีรชนผู้เสียชีวิต
18.00 อ่านแถลงการณ์ ร่วมร้องเพลงระลึกถึงเพื่อนที่จากไป***
Posted by นักข่าวชาวรากหญ้า at 5/10/2010 03:27:00 หลังเที่ยง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น