สดุดีวีรกรรม ของวีรชน เสธ.แดง

คำกล่าวสดุดีวีรกรรม
ของ วีรชนพล.ต.ดร.ขัตติยะ สวัสดิผล
เนื่องในพิธีทำบุญสวดอภิธรรมแด่ดวงวิญญาณของท่าน
และดวงวิญญาณของวีรชนนิรนามทุกๆท่าน
ณ.เวทีประชาธิปไตย หน้าสถานีรถไฟเชียงใหม่
เวลา 20.00 น.
วันจันทร์ ที่ 17 พฤษภาคม 2553
ดำเนินการโดย ศูนย์ประสานงานกลาง นปช.แดงเชียงใหม่
…………………………………………………………………….

ประวัติของ เสธ.แดง พล.ต.ดร.ขัตติยะ สวัสดิผล

พล.ต.ดร.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ เสธ.แดง นายพลทหารบกชาวไทย ผู้รักความยุติธรรม รักประชาชน รักประชาธิปไตย เป็นชาว อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เกิดเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2494 เป็นบุตรชายคนสุดท้องของ ร.อ.สนิท สวัสดิผล และนางสะอิ้ง สวัสดิผล จากจำนวนพี่น้อง 4 คนซึ่งเป็นหญิง 3 คนและชาย 1 คน

ประวัติการศึกษา
จบมัธยมศึกษาจากโรงเรียนศรีวิกรม์ จบโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 11 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 22 และโรงเรียนเสนาธิการทหารบก รุ่นที่ 63
การศึกษาด้านอื่น ได้เรียนต่อปริญญาตรี ครุศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำเร็จการศึกษาปี 2528ปริญญาโท คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ สำเร็จการศึกษาปี 2539 ปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีปทุม สำเร็จการศึกษาปี 2545ปริญญาตรี เศรษฐศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง สำเร็จการศึกษาปี 2547และจบปริญญาเอก สาขาบริหารรัฐกิจ UNIVERSITY OF NORTHERN PHILIPPINES สำเร็จการศึกษาปี 2551

ทางด้านครอบครัว
พล.ต.ดร.ขัตติยะ สวัสดิผล สมรสกับ นาวาเอก (พิเศษ) หญิง จันทรา สวัสดิผล (เสียชีวิตแล้วด้วยโรคมะเร็ง) มีบุตรสาว 1 คน ชื่อ นางสาวขัตติยา สวัสดิผล ปัจจุบันทำงานเป็นทนายความในสำนักกฎหมายเอกชน

ประวัติการทำงาน พล.ต.ดร.ขัตติยะ สวัสดิผล เข้ารับราชการครั้งแรกในกองพันทหารราบที่ 4 ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี และเติบโตมาในสายทหารม้า ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายทหารพิเศษ ประจำกองพันทหารม้าที่ 3 รักษาพระองค์ เมื่อปี 2543 เคยเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าในช่วงปี 2529 เป็นนายทหารติดตามรัฐมนตรีอยู่หลายท่าน เช่น พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก และนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายทหารผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก

พล.ต.ดร.ขัตติยะ สวัสดิผล กับความสัมพันธ์กับคนเสื้อแดง เสธ.แดง เข้ามาร่วมขบวนการกับคนเสื้อแดง ตั้งแต่เหตุการณ์ รัฐประหารยึดอำนาจ 19 กันยายน 2549 ซึ่งท่านไม่เห็นด้วยเพราะเป็นการกระทำรัฐประหารที่มีนายทหารรุ่นพี่ เพื่อนร่วมรุ่น และรุ่นน้องของท่านหลายคน ฟังคำสั่งจากพวกเผด็จการบางคน ก่อการยึดอำนาจจาก พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นรุ่นพี่จากรั้วโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 10 ที่ เสธ.แดงให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก ทั้งในฐานะรุ่นพี่ที่เรียนร่วมกันมา ทั้งความเคารพนับถือในความรู้ความสามารถ ซึ่งทั้งสองท่านนับได้ว่าเป็นผู้มีความรู้ความเพียร และความสามารถอันดับต้นๆของรุ่น ที่สามารถร่ำเรียนจนจบขั้นปริญญาเอกเหมือนกัน

ประกอบทั้ง เสธ.แดง เป็นนายทหารประชาธิปไตยและเข้าใจการเมืองเป็นอย่างดี มีความสามารถในการพูดเจรจาปราศรัย มีจิตใจรักความถูกต้องและรักความยุติธรรม รวมทั้งกับการที่ท่านรักประชาชน จึงทำให้ท่านเดินออกมาเรียกร้องหาความยุติธรรม ซึ่งเป็นอุดมการณ์ร่วมอันเดียวกันกับคนเสื้อแดง จึงทำให้คนเสื้อแดงรักนับถือ เสธ.แดง ว่าเป็นแกนนำการต่อสู้ที่สำคัญผู้หนึ่ง

เสธ.แดงเข้ามามีส่วนร่วมต่อสู้กับพี่น้องเสื้อแดง ตั้งแต่การต่อสู้เริ่มแรก ณ.เวทีท้องสนามหลวง เป็นผู้ให้กำลังใจต่อมวลชน ทำการฝึกอบรมนักรบประชาชนจากท้องสนามหลวง ให้เป็นนักรบที่แข็งแกร่งเป็นการ์ดอาสาที่มีประสิทธิภาพ ทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนคนเสื้อแดงในนามนักรบโรนิน ตั้งแต่เริ่มแรกเป็นเครือข่ายมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นผลงานที่โดดเด่นของท่าน ที่ทำไว้ให้กับขบวนการการ์ดประชาชนอาสา

ไม่แต่เท่านั้น พล.ต.ดร.ขัตติยะ สวัสดิผล ท่านเสธ.แดงขวัญใจของนักรบประชาชนคนเสื้อแดงผู้รักประชาธิปไตยยังมีส่วนร่วมในการให้ความรู้ความเข้าใจต่อสถานการณ์การเมืองไทย แนวทางการต่อสู้ที่ถูกต้อง รวบรวมกำลังใจประชาชนคนเสื้อแดงไปทั่วประเทศ รวมทั้งจังหวัดเชียงใหม่ ที่ท่านเสธ.แดง ได้เดินทางมาหลายๆครั้ง อาจพูดว่าเป็นจังหวัดที่ท่านผูกพัน และเดินทางมาบ่อยมากที่สุดก็เป็นได้ จึงกล่าวได้ว่า เสธ.แดง คือแกนนำและขวัญใจที่ใกล้ชิดสนิทสนมของมวลชนคนเสื้อแดงเชียงใหม่เป็นอย่างมาก

ยุทธวิธีของเสธแดง ที่นำมาสั่งสอนนักรบประชาชน และเป็นหัวใจของการฝึกฝนก็คือ
เข้าตี ตั้งรับ รุกรับ ร่นถอย รบรั้งหน่วง ลวงทำลาย
มึงมากูมุด มึงหยุดกูแหย่ มึงแย่กูตี มึงหนีกูตาม
ปรับทุกข์ ผูกมิตร รับใช้ใกล้ชิด ปักหลักฝังแกน

แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อ พล.ต.ขัตติยะ ถูกลอบยิงระหว่างการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวต่างประเทศในสวนลุมพินี บริเวณแยกศาลาแดง เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. ของวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 โดยได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกกระสุนเข้าที่ศีรษะด้านขวาทะลุท้ายทอย กลุ่มคนเสื้อแดงนำตัวส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว และได้ย้ายไปรับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาลในกลางดึกของวันเดียวกัน โดยทางแพทย์ได้ให้การรักษาอย่างใกล้ชิด โดยมวลชนคนเสื้อแดงทั้งหลายต่างตั้งจิตอธิษฐานขอให้ท่านพ้นเคราะห์และปลอดภัยจากภยันตรายในครั้งนี้ แต่ท่านก็ได้เสียชีวิตลงในนี้ วันที่ 17 พฤษภาคม 2553 เวลา 09.15 น.

จากการเสียชีวิตของท่านในครั้งนี้ นำความโศกเศร้าเสียใจมาสู่พี่น้องเสื้อแดง และคนที่รักและเคารพต่อท่าน พล.ต.ดร.ขัตติยะ สวัสดิผล ไปทั่วประเทศ การเสียชีวิตของท่านครั้งนี้นับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของการต่อสู้เพื่อเรียกร้องหาความยุติธรรมและประชาธิปไตย การเสียชีวิตของท่าน พล.ต.ดร.ขัตติยะ สวัสดิผล และวีรชนคนเสื้อแดงอีกจำนวนมากมายในการต่อสู้ครั้งนี้ จะจารึกไว้ในจิตใจของพวกเราคนเสื้อแดงตลอดไป และจะจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของชาติไทยไปตลอดกาลนาน.

ปัจฉิมลิขิต...

พวกท่านวีรชนคนเสื้อแดงผู้เสียสละจากไปทั้งหลาย พวกท่านได้ต่อสู้กับหลักการมีชีวิตอย่างเสรีชน ผู้ไม่ยอมก้มหัวให้แก่อำนาจเผด็จการ พวกท่านได้ต่อสู้จนกระทั่งเสียเลือดเสียชีวิตไป ขอให้พวกท่านจงสงบสุขในสวรรค์ชั้นฟ้าเถิด อย่าได้ห่วงพะวงด้านหลังทางนี้ เพราะพวกเราคนเสื้อแดงผู้รักความยุติธรรม ซึ่งเป็นประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ จะต่อสู้กับอำนาจความ อยุติธรรม ต่อสู้กับอำนาจเผด็จการจากปลายกระบอกปืน ของเหล่ามารครองเมืองทั้งหลายที่กดขี่ข่มเหงจิตใจประชาชนในประเทศนี้ ซึ่งพวกเราประชาชนจะประสบกับชัยชนะในอีกไม่นาน เมื่อนั้นพวกเราประชาชนจะพิจารณา ค้นหาผู้กระทำความผิด มีจิตใจหยาบช้าทั้งหลาย มาลงโทษในความผิดที่พวกเขาได้กระทำต่อคนเสื้อแดง เพื่อเซ่นสรวงดวงวิญญาณของเหล่าวีรชนคนเสิ้อแดงผู้กล้าทั้งหลาย ที่ท่านได้เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องความยุติธรรม และปกป้องประชาธิปไตย เพื่อลูกหลานไทยในอนาคตข้างหน้า จะได้อยู่เย็นเป็นสุขตลอดไป...

พวกเราขอบูชาและสดุดี.....

แด่ดวงวิญญาณของนักรบผู้กล้าคนเสื้อแดงทั้งหลาย พวกท่านคือ

วีรชนของพวกเราชาวไทย.