หลังจากนปช.ยื่นเงื่อนไขให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ผู้อำนวยการ ศอฉ.เข้ามอบตัวกับตำรวจ ไม่ใช่กับDSIแล้วจึงจะยุติการชุมนุม ช่วงสายวันนี้ศอฉ.ได้แสดงท่าทีกดด้นต่อผู้ประท้วง โดยระบุว่าเวลาเที่ยงคืนวันนี้จะมีการตัดน้ำตัดไฟที่ชุมนุม จากนั้นมีกระแสข่าวลือว่า ศอฉ.อาจจัดการสลายการชุมนุมในคืนวันนี้ ต่อเนื่องถึงพรุ่งนี้เช้า
หลังศอฉ.แสดงท่าทีแข็งกร้าวดังกล่าวนำไปสู่การแพร่กระจายข่าวลือในหมู่ผู้สนับสนุนรัฐบาลที่เป็นพวกฮาร์ดคอร์ขึ้นตลอดช่วงบ่ายวันนี้
โดยกลุ่มฮาร์ดคอร์ที่สนับสนุนรัฐบาลได้พากันแพร่กระจายข่าวทางface bookและทางอีเมล์ว่า
"ศอฉ.จะสลายการชุมนุมภายในเที่ยงคืนนี้ !" โดยระบุว่า "ทีม ศอฉ.ได้ไปลาดตระเวณดูพื้นที่รอบใน มีทหารพร้อมบังเกอร์ โล่ เตรียมพร้อมจำนวนมาก บริเวณแยกมักกะสัน และราชปรารถ และกระจายโดยรอบเป็นหย่อมๆ !และส่าสุดข่าวตรงจากคนในทำเนียบ จะมีการปิดการจราจรรอบในกรุงเทพฯ ประมาณ 4 โมงเย็น ! และล่าสุดทางสินธร ขอให้ทุกคนออกจากตึกก่อน 5 โมงเย็น !ประมวลจากสถาณการณ์ทั้งหมด ทำให้วันนี้เป็นอีกวันที่อาจเกิดความรุนแรงได้ ดังนั้นขอให้ทุกคนรีบกลับบ้านด่วน ขอให้ทุกคนระวังและเดินทางโดยปลอดภัยทุกคน"
กลุ่มฮาร์ดคอร์ที่สนับสนุนรัฐบาล และเรียกร้องให้มีการปราบปรามผู้ประท้วง ยังได้ขยายข่าวนี้เพิ่มเติมว่า "สรุป ขั้นตอนต่างๆ หลังจากพ้น 24.00 ของคืนนี้ (12 พ.ค.)"
1) พ้น 24.00 น.วันที่ 12 พ.ค 53 ประกาศยกเลิกแผนปรองดอง เข้าเจรจาแกนนำครั้งสุดท้าย ตามคำสั่งศาล
2) ตีห้าครึ่งเริ่มปิดด่านเข้า-ออก ให้ออกได้อย่างเดียว
3) เตรียมการดับเพลิง ก่อการร้าย การปฐมพยาบาล หน่วยแพทย์ นักข่าว สื่อต่างๆ
4) ปิดกั้นการสื่อสาร สาธารณูประโภค อาหารทุกชนิด
5) ประกาศ สื่อสารให้คนที่ต้องการออก ออกได้ภายใน 6 ช.ม. มิฉะนั้นจะมีความผิด พรก. รอไปจนกว่า ผู้ชุมนุมลดลง ถึงจุดเข้าจับแกนนำ การ์ด และสลายการชุมนุม โดยใช้กำลังติดอาวุธ พร้อมรถหุ้มเกราะ
ขณะเดียวกัน 31 องค์กรประชาธิปไตยได้ออกแถลงการณ์ฉบับหนึ่ง ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้
จดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาลอภิสิทธิ์ ,องค์กรด้านกฎหมาย-ยุติธรรมและองค์กรสื่อสารมวลชน:รัฐจริงใจปรองดอง สุเทพต้องมอบตัวตำรวจ พีเพิลแชลแนลต้องมีเสรีภาพ
วิกฤตการเมืองไทย มีแนวโน้มสู่ความปรองดอง โดยรัฐบาลอภิสิทธิ์กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2553 ภายหลังการยุบสภา เป็นการคืนอำนาจอธิปไตยให้กับประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศพึงปรารถนาอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม ข้อเรียกร้องของแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)เพื่อให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะผู้อำนวยการศอฉ.เข้ามอบตัวกับทางตำรวจมิใช่ดีเอสไอ ในฐานะเป็นผู้ต้องหาที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจากญาติวีรชนไพร่ที่ต้องสูญเสียชีวิตจากคำสั่งบัญชาการปราบปรามผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงของนายสุเทพ ตลอดทั้งนปช.ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลอภิสิทธิ์มีคำสั่งเปิดทีวีพีเพิลแชลนั่ลของคนเสื้อแดงด้วย
เราในฐานะกลุ่ม องค์กร เครือข่ายภาคประชาชนที่มีจุดยืนเพื่อสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและเพื่อประชาธิปไตย มีความคิดเห็นและข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลอภิสิทธิ์ และองค์กรที่เกี่ยวข้องดังนี้ คือ
1. เราขอเรียกร้องให้ องค์กรด้านกฎหมายและองค์กรด้านยุติธรรม เช่น สภาทนายความแห่งประเทศไทย สมาคมทนายแห่งประเทศไทย และองค์กรอื่นๆ ตลอดทั้งนักกฎหมาย ทนายความ นักวิชาการด้านกฎหมาย ในฐานะที่มีภาระหน้าที่และเจตนารมณ์ในผดุงความยุติธรรมสังคมไทย สร้างบรรทัดฐานที่เสมอภาคในกระบวนการยุติธรรม ไม่ให้เกิดสองมาตรฐาน ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบในการผลักดันให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ มอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมิใช่ดีเอสไอ เนื่องจากตามหลักของกระบวนการยุติธรรมนั้นต้องมอบตัวคดีอาญาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น ตลอดทั้งดีเอสไอ เป็นส่วนหนึ่งของศอฉ. หรือเป็นพวกเดียวกับนายสุเทพ จึงไม่มีความชอบธรรมแต่อย่างใด และมิอาจจะไว้ใจให้ดำเนินคดีเพื่อให้เกิดความยุติธรรมต่อญาติวีรชนไพร่และสังคมไทยได้
2.เราขอเรียกร้องให้องค์กรสื่อสารมวลชน เช่น สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย เครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคเหนือ เครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคอีสาน เครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคใต้ เครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคกลางและภาคตะวันออก สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ตลอดทั้งนักข่าว นักสื่อสารมวลชน นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน ผู้เคารพสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน โดยเฉพาะเมื่อสี่วันที่ผ่านมา ได้นำเสนอวาระให้มีการปฎิรูปสื่อมวลชนในการปฏิรูปประเทศไทย ต้องแสดงจริยธรรมของนักสื่อสารมวลชน มีความเป็นอิสระ เป็นกลาง มีความรับผิดชอบต่อสังคมไทย และถ้ามีความจริงใจต่อการปฏิรูปสื่ออย่างไม่ลำเอียง มีจิตใจที่เป็นธรรม ต้องการให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้จากทุกกลุ่มไม่เพียงสื่อของรัฐ หรือสื่ออย่างASTV เท่านั้น ต้องร่วมผลักดันให้รัฐบาลอภิสิทธิ์มีคำสั่งเปิดทีวีพีเพิลแชลนั่ลโดยทันที
3. เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ แสดงความจริงใจในแนวทางปรองดองอย่างไม่มีวาระซ่อนเร้น ไม่มีเลห์เพทุบายต่อการชุมนุมของคนเสื้อแดง และสร้างความยุติธรรมในกระบวนการด้านคดี ตลอดทั้งให้เสรีภาพกับสื่อสารมวลชนทุกกลุ่ม โดยการยอมรับข้อเรียกร้องของนปช.โดยทันที มิใช่สร้างเงื่อนไขเพื่อการปราบปรามคนเสื้อแดงด้วยความรุนแรงอย่างที่ผ่านมาอีก
ลงนามโดย
1. เครือข่ายองค์กรชุมชนแก้ปัญหาที่ดินภาคอีสาน (คอป.อ.)
2. เครือข่ายองค์กรชาวบ้านอนุรักษ์น้ำเซิน (คอซ.)
3. เครือข่ายองค์กรชาวบ้านลุ่มน้ำปาว (คอป.)
4. เครือข่ายอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภูค้อ-ภูกระแต จังหวัดเลย
5. เครือข่ายคนรุ่นใหม่ภาคอีสาน (คอส.)
6. แนวร่วมเกษตรกรภาคอีสาน (นกส.)
7. เครือข่ายคนรุ่นใหม่ลุ่มน้ำโขง จังหวัดอุบลราชธานี
8. กลุ่มสร้างสรรค์ชีวิตและสังคมอีสาน (กสส.)
9. กลุ่มดงมูลเพื่อการพัฒนา จังหวัดกาฬสินธุ์
10. เครือข่ายอนุรักษ์ภูผาเหล็ก จังหวัดอุดรธานี
11. กลุ่มภูพานเพื่อการพัฒนา จังหวัดสกลนคร
12. เครือข่ายวิสาหกิจชุมชน จังหวัดชัยภูมิ
13. กลุ่มประชาชนไทยแวงน้อย-แวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น
14. กลุ่มเยาวชนมิตรภาพ จังหวัดขอนแก่น
15. กลุ่มเยาวชนอนุรักษ์น้ำพรมตอนต้น จังหวัดชัยภูมิ
16. กลุ่มเยาวชนอนุรักษ์ลุ่มน้ำบัง จังหวัดนครพนม
17. เครือข่ายคนรุ่นใหม่ยโสธร จังหวัดยโสธร
18. สหพันธ์เยาวชนอีสาน (สยส.)
19. แนวร่วมเกษตรกรภาคเหนือ (นกน.)
20. ชมรมส่งเสริมการเรียนรู้ภาคเหนือตอนล่าง
21. เครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมพู จังหวัดพิษณุโลก
22. เครือข่ายส่งเสริมสิทธิการจัดการทรัพยากรภาคเหนือตอนล่าง (คสปล.)
23. สหพันธ์เยาวชนคลองเตย (สยค.)
24. เครือข่ายองค์กรชุมชนคลองเตย
25. เครือข่ายชุมชนเมืองบ่อนไก่ กทม.
26. กลุ่มประชาธิปไตยเพื่อรัฐสวัสดิการ
27. เครือข่ายอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชุมชนเขลาโคก จังหวัดร้อยเอ็ด
28. เครือข่ายองค์กรชาวบ้านนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์
29.กลุ่มคนรุ่นใหม่ภาคใต้
30กลุ่มนักศึกษาภาคเหนือเพื่อประชาธิปไตย
31.ชมรมนักข่าวเพื่อเสรีภาพไทย
Posted by นักข่าวชาวรากหญ้า at 5/12/2010 02:55:00 หลังเที่ยง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น