แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ความย่อยยับจากน้ำมืออำมาตย์ - รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์



Group: เสรีชน
Posts: 491
Joined: 20-November 07
Posted Today, 07:51 AM

วิกฤตการเมืองของเรา ยังไม่จบหากเผด็จการอำมาตย์ยังคงอยู่และยังครอบงำบ้านเมืองอยู่อย่างนี้ ประชาชนก็จะลุกขึ้นมาต่อต้าน และก็จะยิ่งรุนแรงกว่าครั้งนี้เป็นเท่าทวีคูณ ทางที่ดีที่สุดคือต้องคืนเสรีภาพและความยุติธรรมให้กับประชาชน เมื่อนั้นบ้านเมืองจะสงบสุข นี่คือความคิดเห็นของ รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งรายละเอียดมีดังนี้

วิกฤตการณ์ทางการเมือง

แม้เผด็จการ อำมาตย์และรัฐบาลหุ่นเชิดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะกดดันจนแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดินต้องเข้ามอบตัวและประกาศยุติการชุมนุม แต่วิกฤตการเมืองก็ยังไม่จบลงง่ายๆ เพราะตราบใดที่มีความอยุติธรรม ความไม่เป็นธรรม และการกดขี่ข่มเหง มีการใช้กระบวนการตุลาการ 2 หรือ 3 มาตรฐานเล่นงานศัตรูทางการเมืองฝั่งตรงข้ามฝ่ายเดียว รวมทั้งการใช้กำลังอาวุธฝ่ายเดียวอย่างนี้ สุดท้ายความขัดแย้งและความโกรธจะปะทุกลับมาอีก และขอเตือนว่าการปะทุในแต่ละครั้งจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

การ เคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงครั้งหน้าจะยิ่งรุนแรงกว่าเหตุการณ์ครั้งนี้อีก ถ้ารากฐานของปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไขคือ ระบอบเผด็จการอำมาตย์ที่ครอบงำการเมืองไทย ไม่ยอมให้มีประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ยอมให้มีรัฐธรรมนูญที่ถูกต้อง ไม่ยอมให้กระบวนการยุติธรรมเดินไปตามครรลองของมัน และไม่ยอมให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย ต่อให้กำจัดคนเสื้อแดงในครั้งนี้ได้ ตายเจ็บจำนวนมาก เอาแกนนำไปใส่คุก เรื่องก็ไม่จบ เพราะมวลชนที่โกรธแค้นมีถึง 10 ล้านคน พร้อมที่จะออกมาเคลื่อนไหวต่อสู้อีกไม่เป็นเดือนก็เป็นปี และจะใหญ่กว่าเดิมทุกครั้งอย่างแน่นอน


ปัญหาจะขยายวงกว้าง
ถ้า เหตุการณ์ยังเป็นอย่างนี้ โดยเผด็จการอำมาตย์ที่ชักใยรัฐบาลประชาธิปัตย์และชักใยหุ่นเชิดนายกฯ อภิสิทธิ์ยังคงดำเนินการปราบปรามกดขี่ ใช้ทั้งกระบวนการตุลาการหรือนอกตุลาการ และใช้กำลังทหารปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรงอย่างนี้ต่อไป สิ่งที่จะได้รับกลับมาคือการต่อสู้ที่รุนแรงของประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครต้องการ เพราะถ้าเกิดความรุนแรงขึ้นมาฝ่ายเสียหายก็คือประชาชน คนตายคนเจ็บส่วนใหญ่ก็คือประชาชนธรรมดาที่ออกมาต่อสู้ทั้งสิ้น แต่พวกเขาก็ไม่กลัว แม้จะมีการใช้อาวุธสงครามเต็มรูปแบบเขายังไม่กลัวและไม่ถอย

รัฐบาล และทหารมีแต่จะใช้ความรุนแรงมากขึ้นๆ และคนก็ตายและบาดเจ็บเพิ่มขึ้น แน่นอนว่าถึงจุดๆหนึ่งแล้วฝ่ายประชาชนอาจจะเหนื่อยและอาจยอมพักตัวออกมา และแม้คุณจะชนะในรอบนี้แต่สุดท้ายคนเสื้อแดงก็จะกลับมาอีก แกนนำชุดเก่าติดคุกไปมันก็มีแกนนำใหม่ขึ้นมาทดแทนได้ เพราะตราบใดที่ความไม่พอใจ ความโกรธแค้น อาฆาตแค้น และความรู้สึกที่ความอยุติธรรมยังอยู่ มันก็ต้องกลับมาอีก ให้ลองดูประวัติศาสตร์ทั่วโลก มันมีหรือไม่ที่จบง่ายๆ ไม่มี แม้แต่พม่าก็ยังระเบิดขึ้นมาเป็นพักๆ และประเทศไทยก็ไม่ใช่พม่า คุณจะทำแบบนั้นไม่มีทาง

ปัญหาความขัดแย้งและความรุนแรงจะแผ่ขยายแผ่ ซ่านออกไปทั่วประเทศ และจะออกมาในรูปแบบที่แตกต่างจากปัจจุบัน เมื่อคนเสื้อแดงออกมาเรียกร้องอย่างถูกต้อง สันติ ปราศจากอาวุธ สงบ เรียกร้องดีๆบนท้องถนน แต่รัฐบาลเอาอาวุธสงครามมายิงเขาตายบาดเจ็บจำนวนมาก คราวหน้ากลุ่มผู้ชุมนุมก็จะไม่ทำแบบเดิม จะหันไปใช้วิธีอื่น เพราะคิดว่าวิธีการนี้ทำแล้วไม่ได้ผล และจะมาโทษเขาก็ไม่ได้ เผด็จการอำมาตย์และรัฐบาลหุ่นเชิดนายกฯอภิสิทธิ์จะต้องรับผิดชอบ เมื่อความขัดแย้งมันแผ่ซ่านจนไม่สามารถควบคุมได้ทำให้ประเทศชาติไม่มีความ สงบสุข

ผมขอฟันธงว่าในที่สุดแล้วการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงจะกลับมา ไม่ช้าก็เร็ว และวิกฤตทางการเมืองครั้งนี้คงกินระยะเวลาเป็นปีจนกว่าเผด็จการอำมาตย์จะถอย ไป จนกว่าจะได้ประชาธิปไตยแท้จริง และจนกว่าจะได้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 กลับคืนมา โดยจะคืนมาด้วยการเอารัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 มาแก้หรือยกเลิกปี 2550 แล้วนำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาใช้ทั้งฉบับแล้วแก้บางมาตรา ขึ้นอยู่กับอนาคตและกระบวนการตุลาการที่ดำเนินไปตั้งเยอะแยะที่เป็นการเมือง ทั้งหลายก็ต้องมารื้อฟื้นกันใหม่

ตรงนี้ต้องใช้ระยะเวลาและต้องมา ชำระล้างองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่เผด็จการอำมาตย์ไปแทรกแซง ไปครอบงำไว้ ต้องชำระล้างสื่อมวลชนกระแสหลัก ซึ่งที่ผ่านมารับใช้เผด็จการอย่างเต็มตัว และการนองเลือดบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก สื่อมวลชนกระแสหลักไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ พวกนี้ปากกาและไมโครโฟนเปื้อนเลือด ทุกคนจะต้องรับผิดชอบไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม นอกจากนี้อาจารย์ในมหาวิทยาลัย นักวิชาการ บุคลากรในองค์กรตุลาการที่มีส่วนขบวนการหลายๆสิ่ง ผู้นำเอ็นจีโอที่ผันตัวเป็น ส.ว. ทุกคนต้องร่วมรับผิดชอบด้วย

ไม่ เว้นราษฎรอาวุโสทุกคนที่มีส่วนร่วมตรงนี้เพราะมือเปื้อนเลือด จะต้องชดใช้ทุกคน ซึ่งถึงเวลานั้นจะต้องมีการชำระสะสาง อาจจะเรียกว่าต้องล้างประเทศกัน ผมมั่นใจว่าเหตุการณ์ตรงนี้จะต้องเกิดขึ้นเพราะความขัดแย้งมันลึก หลายคนอาจจะเริ่มพูดสิ่งที่เรียกว่าการปฏิวัติของประชาชน เพราะจากเหตุการณ์วันนี้ความเป็นไปได้มีสูง ยิ่งการที่รัฐบาลปราบปรามคนเสื้อแดงในรอบนี้มีการนองเลือดอยู่ และดำเนินการจับคุมขังดำเนินคดีต่างๆโดยไม่ได้ดำเนินการกับความไม่ยุติธรรม ในหลายปีที่ผ่านมา ผมกลัวว่ามันอาจจะเกิดเป็นการปฏิวัติของประชาชนโดยที่ไม่มีใครต้องการและจะ เสียหายมาก

รูปแบบปฏิวัติประชาชน

อาจจะเป็นการก่อเหตุการณ์ ความไม่สงบ ซึ่งการต่อต้านรัฐบาลจะกระจัดกระจายทั้งบนดินและใต้ดินไปทั่วประเทศ ส่วนจะรุนแรงมากกว่าปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ยังประเมินไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องในอนาคต แต่ถ้าหากเคลื่อนไหวออกมาแล้วรัฐบาลยังใช้กำลังปราบปรามเหมือนทุกวันนี้มัน ก็จะตอบโต้แรงเพราะเป็นกฎทางกายภาพ คุณไปแรงเขาก็แรงตอบ คุณใช้ปืนเขาก็ใช้ปืน ในเมื่อคุณไม่ตอบสนองการเรียกร้องเรื่องความยุติธรรมให้เขาแถม ยังใช้วิธีการที่รุนแรงและไม่รุนแรงกระทำการต่อเขาฝ่ายเดียว ใครจะนั่งให้ทำข้างเดียว อันนี้ไม่มีใครต้องการ

ผมอยากฝากเตือนไปยัง รัฐบาลหุ่นเชิดพรรคประชาธิปัตย์ นายกฯหุ่นเชิดอภิสิทธิ์ และบุคคลทั้งหลายที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ว่า ถ้าคุณยังดันทุรังดำเนินการอย่างนี้ต่อไปอีก มันก็ไม่มีอะไรอื่นไกลนอกจากความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นเรื่อยๆ แม้รัฐบาลหุ่นเชิดจะปราบปรามคนเสื้อแดงสำเร็จรอบนี้ไปได้ ผมคิดว่ารัฐบาลชุดนี้ก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน การยอมรับของประชาชนจำนวนมากทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ทั้งคนที่เป็นเสื้อแดงและไม่ใช่เสื้อแดงต่างเห็นอกเห็นใจคนเสื้อแดงและรัก ความเป็นธรรม เห็นความสูญเสียครั้งนี้จะไม่ยอมรับรัฐบาลชุดนี้แน่นอน

แม้ ขณะนี้นายกฯอภิสิทธิ์และรัฐบาลชุดนี้อาจจะอยู่ในตำแหน่งและอำนาจต่อไปสัก ระยะหนึ่ง จะกี่เดือนก็แล้วแต่ แต่จะปกครองไม่ได้ บริหารประเทศไม่ได้ ไม่ได้ความชอบธรรม ไม่ได้รับการยอมรับ อาจจะเรียกว่า รัฐบาลขี้เรื้อนที่มีแต่คนรังเกียจ มีแต่คนเกลียดเคียดแค้นชิงชังและรอวันที่จะเอาคืน ในแง่นี้ผมคิดว่ารัฐบาลหุ่นเชิดและนายกฯอภิสิทธิ์คงต้องพ้นสภาพไปในเวลาอัน ไม่นาน ถ้าไม่พ้นไปจากการเคลื่อนไหวหรือการตอบโต้กลับของคนเสื้อแดงในรอบต่อไปก็จะ ต้องถูกเขี่ยทิ้งโดยเผด็จการอำมาตย์เอง

เมื่อหุ้นเชิดนายกฯอภิสิทธิ์ และรัฐบาลชุดนี้หมดประโยชน์ บริหารปกครองควบคุมสถานการณ์ต่อไปไม่ได้ก็ต้องถูกเขี่ยทิ้งในที่สุด เช่น อาจจะยุบพรรคประชาธิปัตย์และทำให้นายกฯอภิสิทธิ์พ้นสภาพไป จะมีนายกฯคนใหม่ในสภา อาจจะเป็นคุณชวน หลีกภัย หรือเป็นใครก็ไม่รู้ หรืออาจจะมีการใช้วิธีการพิเศษแก้รัฐธรรมนูญให้คนนอกมาเป็นรัฐบาลได้ อาจเกิดขบวนการพิเศษ เกิดรัฐบาลแห่งชาติที่เป็นนายกรัฐมนตรีจากคนนอกที่แต่งตั้งโดยเผด็จการ อำมาตย์จากอำนาจที่อยู่เบื้องหลังอภิสิทธิ์ก็ตั้งเข้ามาก็ได้

เผด็จ การอำมาตย์เอาแน่

ใช่ ผมคิดว่าเผด็จการอำมาตย์เขาก็เปิดช่องเอาไว้หลายทางเหมือนกัน เพราะเขาก็มีที่ปรึกษาทางกฎหมายของเขาว่าจะใช้ช่องทางไหนบ้าง จะยุบพรรคหรือใช้สภาที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ เอาคนขึ้นมาเป็นหุ่นเชิด ยังใช้กรอบของรัฐธรรมนูญ ใช้กรอบของรัฐสภาให้ดูว่ายังพอไปได้และดูไม่ให้น่าเกลียดในสายตาของต่างชาติ หรือเอาคนนอกเข้ามาโดยแก้รัฐธรรมนูญบางมาตราให้เป็นรัฐบาลชุดพิเศษ จนกระทั่งท้ายสุดก็อาจจะเกิดการปฏิวัติรัฐประหารได้อีก แล้วใช้กระบวนการอย่างรุนแรง ประกาศกฎอัยการศึกเพื่อกวาดล้างทำความสะอาดประเทศในสายตาของเขา

ถ้า เป็นอย่างนั้นจะยิ่งไปกันใหญ่ สุดท้ายจะเป็นสงครามกลางเมืองและสงครามปฏิวัติของประชาชน โดยที่มันเกิดขึ้นจากการกระทำของเผด็จการอำมาตย์เองไม่ได้เกิดจากฝ่ายเสื้อ แดง ในฐานะที่เป็นนักวิชาการก็ไม่อยากให้เรื่องมาถึงตรงนี้ ไม่อยากให้มีคนเจ็บคนตาย แต่คนที่ทำให้เหตุการณ์มาถึงทุกวันนี้ได้ มีคนตายคนเจ็บจำนวนมากคือระบอบเผด็จการอำมาตย์ รัฐบาลหุ่นเชิดพรรคประชาธิปัตย์ นายกฯอภิสิทธิ์ รองนายกฯสุเทพ เทือกสุบรรณ คนพวกนี้จะต้องรับผิดชอบทั้งหมด โดยเฉพาะนายกฯอภิสิทธิ์สุดท้ายคงอยู่ประเทศไทยไม่ได้

เมื่อคุณ อภิสิทธิ์พ้นจากตำแหน่งนายกฯแล้ว เขาจะเป็นอดีตนายกฯที่คนรังเกียจและแย่ยิ่งกว่าอดีตนายกฯหลายคน เช่น จอมพลถนอม กิตติขจร ที่เกี่ยวพันกับเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ 2519 หรือ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ที่เกี่ยวพันกับเหตุการณ์พฤษภาทมิฬปี 2535 นำมาซึ่งวิกฤตการเมืองและมีคนตายจำนวนมาก แม้ว่าอดีตนายกฯทั้ง 2 คนนี้ไม่ได้รับความนิยมมากมาย แต่ก็เป็นอดีตนายทหารใหญ่ เขายังมีคนเคารพนับถือและมีบารมีในกองทัพ ดังนั้น บุคลากรในกองทัพยังให้ความเคารพนับถือจำนวนมาก

แต่คนอย่างคุณ อภิสิทธิ์เมื่อเป็นอดีตนายกฯแล้วมีใครหรือไม่ที่จะให้ความเคารพนับถือเขา ผมถามหน่อย เชื่อว่าทหารก็ไม่มีเพราะเขาไม่ใช่นายทหาร คนในพรรคประชาธิปัตย์ก็เขี่ยเขาทิ้งแน่นอน เพราะเห็นว่าเขาเป็นตัวการที่ทำให้พรรคล่มสลายและเกิดความเสื่อมเสียจน กระทั่งเกิดยุบพรรค ถ้าเกิดขึ้น ขณะที่ประชาชนทั่วไปก็ไม่ได้ให้ความนับถือเขา เพราะเห็นว่าเขาเป็นตัวการและปัจจัยอันหนึ่งที่นำมาสู่การนองเลือดครั้งนี้ เมื่อคุณอภิสิทธิ์ถึงวันที่เป็นอดีตนายกฯแล้ว เขาจะไม่ได้รับความนับถือจากใครเลย จะเป็นอดีตนายกฯที่ไม่มีเกียรติภูมิ ไม่มีบารมี มีแต่คนรังเกียจ

เวลานั้นถ้าคุณอภิสิทธิ์ยังอยู่เมืองไทยแล้วมีความสุขก็ตามสบาย ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเขาก็เป็นคนไทย มีสิทธิที่จะอยู่เมืองไทย แต่เขาจะอยู่อย่างมีความสุขได้หรือไม่เป็นเรื่องของเขา แต่วิกฤตครั้งนี้ที่จะเกิดขึ้นเขาจะโทษใครไม่ได้ ต้องโทษตัวเขาเอง เพราะเขาเลือกมาอย่างนี้ และว่าตามจริงแล้วถ้าพูดถึงตัวเองในฐานะที่เป็นนายกฯอภิสิทธิ์เขาได้รับ ตำแหน่งมาด้วยต้นทุนราคาที่แพงมาก เพราะต้องฉีกรัฐธรรมนูญปี 2540 เริ่มต้นแต่ต้องบอยคอตเลือกตั้ง 2 เม.ย. 2549 ให้กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ติดคุก เกิดความวุ่นวายบนท้องถนน

ที่สำคัญเกิดรัฐประหารปี 2549 เกิดรัฐธรรมนูญปี 2550 ต้องล้มล้างนายกฯที่มาจากการเลือกตั้งไปถึง 2 คน คือนายกฯสมัคร สุนทรเวช และนายกฯสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องมีการยึดทำเนียบรัฐบาลหลายเดือน มีการยึดสนามบินหลายแห่ง จึงทำให้คุณอภิสิทธิ์ได้เก้าอี้นายกฯในราคาที่แพงมาก และยังเกิดการนองเลือดในวิกฤตการเมืองปัจจุบันอีก อภิสิทธิ์จึงเป็นนายกฯที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย แพงกว่านายกฯถนอม และแพงกว่านายกฯสุจินดาด้วยซ้ำ

จะข้ามวิกฤตได้ อย่างไร

ทางออกที่จะก้าวผ่านวิกฤตการเมืองครั้งนี้มีทางเดียวคือ กลุ่มอำนาจที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านี้ทั้งหมดที่เรียกว่าเผด็จการ อำมาตย์จะต้องยอมรับความจริงว่า โลกเปลี่ยนไปแล้ว ประเทศไทยเปลี่ยนไปแล้ว และคนไทยเสียงข้างมากก็เปลี่ยนไปแล้ว ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่เขาไม่ต้องการอยู่ภายใต้การปกครองที่ตัวเองเป็นไพร่ อยู่ภายใต้ความอุปถัมภ์ การสั่งสอน การครอบงำไม่ให้โงหัว เป็นไพร่หรือผู้ถูกปกครองที่ว่านอนสอนง่าย ผู้ปกครองว่าจะไปทางไหน ซ้ายหันขวาหัน จะให้กินอยู่อย่างไรก็ได้ ไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว

ขณะนี้ คนไทยโตแล้ว ต้องการความทันสมัย มีเศรษฐกิจดี ต้องการประเทศชาติเจริญรุ่งเรืองเทียบเท่ากับอารยประเทศ ก้าวหน้าไปเหมือนกับประเทศต่างๆ คนไทยต้องการตรงนี้ ที่สำคัญคนไทยต้องการปกครองตนเอง ใช้ความคิด การตัดสินใจของตัวเองว่าจะเอารัฐบาลแบบไหน จะเอานายกฯเป็นใคร และถ้าเขาตัดสินใจผิดพลาด เลือกนายกฯผิด เลือกนักการเมืองผิด เขาสามารถรับผิดชอบได้เอง และแก้ไขความผิดพลาดด้วยตัวเขาเองภายใต้การเมืองแบบเลือกตั้งที่เป็น ประชาธิปไตยเต็มใบ

คนไทยไม่ต้องการให้มีใครมาสั่งสอนเขาแล้วมาบอกเขา ว่าการเมืองจะต้องเป็นแบบนี้ จะต้องมีนายกฯคนนี้ บ้านเมืองจะต้องไปแค่นี้ จะต้องเจริญไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ประเทศไทยต้องเป็นแบบไทยๆ อย่าไปเป็นแบบเมืองนอก จะต้องไม่ร่ำรวยเหมือนคนอื่น จะต้องไม่อย่างนั้นอย่างนี้ เขาไม่ต้องการอย่างนั้น เขาต้องการปกครองตนเองและตัดสินใจด้วยตัวเอง มีกินมีใช้ด้วยตัวเอง ดำเนินด้วยการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมตามที่เขาต้องการ ขอย้ำว่าถ้าเกิดความผิดพลาดเขารับผิดชอบ เขาแก้ไขของเขาเอง

ถ้าหาก เผด็จการอำมาตย์ยอมรับตรงนี้ได้และถอยไป ยอมให้มีประชาธิปไตย ยุติการแทรกแซงทางการเมืองทั้งหมด ให้กระบวนการทางการเมืองดำเนินไปด้วยตัวของมันเอง ให้มีการเลือกตั้ง ให้มีสภาชุดใหม่มา ซึ่งสภาชุดใหม่จะเอารัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 กลับมา หรือเอารัฐธรรมนูญปี 2550 ไปแก้แล้วเอาคดีความทางการเมืองทั้งหลายทั้งปวงมาทบทวนกันใหม่ทั้งหมด ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมอย่างไม่เข้าข้างฝ่ายใด ใครผิดก็ว่าผิด ใครถูกก็ว่าถูก เรื่องก็จะสงบ ดังนั้น การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ดีที่สุด รัฐบาลอภิสิทธิ์จะต้องยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่

ฝ่ายเผด็จการ อำมาตย์จะต้องถอยออกไป ผลการเลือกตั้งออกมาเป็นอย่างไร สภาที่มาจากการเลือกตั้งชุดใหม่จะตัดสินใจทำอะไรทุกฝ่ายต้องยอมรับ ถ้าไม่มีตรงนี้และขืนยังดำเนินต่อไป ให้มีรัฐบาลหุ่นเชิดๆคุณอภิสิทธิ์ต่อไป หรือต่อไปอาจจะเขี่ยคุณอภิสิทธิ์ทิ้งแล้วเอาคนใหม่ขึ้นมาแทน ปัญหาวิกฤตการเมืองก็ไม่จบ มันจะลุกลามต่อไปเป็นสงครามกลางเมือง เป็นสงครามการปฏิวัติของประชาชนในที่สุด และเมื่อถึงวันนั้นผมขอเตือนว่าระบอบเผด็จการอำมาตย์จะไม่เหลืออะไรเลย

วันนี้ ดูจากกระแสโลกและดูจากประวัติศาสตร์ทั้งหลายพบว่า ประชาธิปไตยฝ่ายก้าวหน้า ฝ่ายทันสมัยชนะเสมอไม่ช้าก็เร็ว อาจจะแพ้วันนี้แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาอีก และ ณ วันนี้ผมมั่นใจว่าฝ่ายประชาธิปไตย ฝ่ายทันสมัยเราไม่แพ้แน่นอน เพราะขบวนการขยายออกไปทั่วประเทศ เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ประเทศไทยมีขบวนการเคลื่อนไหวมวลชนที่เรียก ร้องกันมากขนาดนี้และยาวนานมาก และยิ่งยาวนานยึดเยื้อเท่าไร ถ้าฝ่ายประชาชนชนะฝ่ายเผด็จการอำมาตย์จะยิ่งไม่เหลืออะไรเลย

วิกฤต ครั้งนี้ให้บทเรียนอะไร

บทเรียนที่สำคัญคือประชาชนต้องการสิทธิ เสรีภาพ และประชาชนต้องการความยุติธรรม อันนี้เป็นบทเรียนสำคัญ ระบอบการเมืองที่ดำรงคงอยู่มีความชอบธรรมและได้รับการยอมรับจากประชาชน ต้องมี 2 ข้อนี้คือ ให้เสรีภาพและให้ความเป็นธรรมกับประชาชน ระบอบเผด็จการอำมาตย์ในอดีตที่ผ่านมาก่อนรัฐประหารปี 2549 ยังดูเหมือนว่าอาจให้ 2 ข้อนี้ได้อยู่บ้าง คือให้เสรีภาพระดับหนึ่ง มีรัฐธรรมนูญ มีการเลือกตั้งเป็นพักๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่ให้เสรีภาพและความเป็นธรรมกับประชาชนค่อนข้างมาก ประชาชนก็มีความสุข ก็อยู่กันได้

อำมาตย์ก็อยู่ฝั่ง ประชาชนก็อยู่ฝั่ง พออยู่กันได้ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญปี 2540 แต่พอคุณยกเลิกตรงนี้ไป เอาเผด็จการอำมาตย์เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญปี 2550 และรัฐบาลชุดปัจจุบันสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าไม่มีประชาธิปไตย ไม่มีเสรีภาพ ไม่มีความเป็นธรรม ประชาชนก็ลุกขึ้นสู้ ดังนั้น ทุกอย่างจะสงบต้องให้ 2 ข้อนี้ นี่คือบทเรียนสำคัญ ระบบการเมืองที่จะเข้ามาแทนระบอบรัฐธรรมนูญปี 2550 จะต้องให้เสรีภาพและความเป็นธรรม ถ้าตราบใดที่ไม่มี 2 ข้อนี้บ้านเมืองก็จะไม่มีวันสงบ และจะเข้าสู่มิคสัญญีอย่างแท้จริง

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ26 พฤษภาคม 2553 เวลา 12:59

    สับสนอะไร รึเปล่า ครับ
    คุณ ก้อ เลือก นายก เลือก รัฐบาลของคุณ ได้ อยู่แล้ว หนิครับ
    คุณ ก้อ เลือก ทักษิณ เลือก สมัคร และ สองคนนี้ ก้อได้เป็น รัฐบาล มาแล้ว
    หนิครับ แต่ เขา ทั้ง สองคน ทำผิด กฎหมาย มีคนรู้ทัน และ พวกเขา ก้อโดน
    กฏหมาย ลงโทษ ผมว่า มันคนละเรื่องกัน อย่าเหวง สิ เขียนดีๆ หน่อย

    มิคสัญญี ที่เกิดขึ้น ที่พึ่งผ่านไป นี่ แค่รัฐบาล สู้ กับ ประชาชนไพร่ นะ ยังหนี แทบไม่ทัน แล้ว ถ้าวันนึง ประชาชนไทย เขาลุกขึ้น มาสู้ กับประชาชน ไพร่ หละ
    จะมีเวลา หนี กันเหรอครับ.....อยากเห็นเหมือนกัน

    ตอบลบ

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน