นปช. 3 จังหวัดแห่ร่วมไว้อาลัย 'ตัวเล็ก' 1 ใน 6 เหยื่อวัดปทุมฯ
เมื่อวันที่ 23 พ.ค.53 แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อำเภอต่างๆ ในจังหวัดกาฬสินธุ์ สกลนคร มุกดาหาร นับพันคนร่วมไว้อาลัยในพิธีเผาศพอัครเดช ขันแก้ว หรือตัวเล็ก 1 ใน 6 ศพ ที่ถูกยิงเสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม หลังการประกาศยุติการชุมนุมของแกนนำ นปช.
รายงาน ข่าวแจ้งว่า ศพของอัครเดชได้ถูกนำกลับจากโรงพยาบาลตำรวจถึงบ้านที่เขาพักอาศัยที่บ้าน หนองผือ ต.หนองผือ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ กลางดึกของคืนวันที่ 21 พ.ค. หลังจากที่เขาถูกยิงเข้าที่แก้ม ท้อง และขา เสียชีวิตในคืนวันที่ 19 พ.ค.ภายในวัดปทุมวนาราม ในขณะกำลังช่วยเหลือทีมแพทย์อาสาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บซึ่งเขาทำมาตลอดเวลา กว่า 1 เดือน ที่เข้าร่วมการชุมนุมกับ นปช.
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้นายประสาท ภิมเภา ผู้ใหญ่บ้านหนองผือ ผู้นำรถมารับศพนายอัครเดชที่โรงพยาบาลตำรวจเปิดเผยว่า แพทย์ได้ระบุถึงสาเหตุการเสียชีวิตไว้ว่าเกิดจากศีรษะกระทบกับของแข็ง แต่เมื่อโดนท้วงติงว่าไม่ตรงกับข้อเท็จจริงจึงแก้ไขเป็นถูกยิงเข้าที่บริเวณ ศีรษะโดยกระสุนทะลุออกบริเวณแก้ม
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณบ้านที่ตั้งศพประดับด้วยธงแดง ส่วนศพของอัครเดชถูกบรรจุอยู่ในโลงซึ่งแต่เดิมบรรดาญาติพี่น้องตั้งใจให้ เป็นสีแดง แต่หาไม่ได้จึงใช้โลงสีชมพูแทน มี นปช.พื้นที่ต่างๆ ในเขต 3 จังหวัด คือ กาฬสินธุ์ สกลนคร มุกดาหารเข้าร่วมนับพันคน รวมถึง ส.ส.กาฬสินธุ์ ส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีพวงหรีดจากทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยด้วย
จาก นั้นศพของอัครเดชถูกเคลื่อนย้ายขึ้นสู่เมรุวัดป่า ต.หนองผือ หลังเสร็จสิ้นพิธีทางศาสนา มีพิธีมอบเงินช่วยเหลือจากหลายภาคส่วน และ นปช.ในพื้นที่ต่างๆ แก่ญาติผู้ล่วงลับ จากนั้นเป็นการกล่าวสดุดีการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของอัครเดชและคนเสื้อแดง รวมถึงประณามการปราบปรามประชาชนของรัฐบาล ก่อนเปิดให้ผู้เข้าร่วมพิธีศพขึ้นวางดอกไม้จันทน์ ซึ่งตลอดพิธีดังกล่าวผู้จัดงานได้เปิดเพลงนักสู้ธุลีดิน ของ จิ้น กรรมาชน และเพื่อนตาย ที่แต่งโดยณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
ก่อน หน้านี้ในช่วงบ่ายวันที่ 22 พ.ค. ญาติพี่น้องและคนเสื้อแดงได้แห่รูปภาพของอัครเดชและพวงหรีดไปตามท้องถนนใน อำเภอเขาวงและนาคู เพื่อบอกเล่าการตายอย่างโหดเหี้ยมและไม่เป็นธรรมในการไปเรียกร้อง ประชาธิปไตยของอัครเดช พร้อมทั้งประณามรัฐบาลผู้สั่งการให้เข่นฆ่าประชาชน แต่เนื่องจากนายอำเภอได้ขอร้องให้งดการใช้เครื่องเสียง ขบวนแห่จึงใช้การบีบแตร แจกใบปลิว และการบอกเล่าปากต่อปากแทน
“แค่ ทวงสิทธิ์ทวงศักดิ์ศรีให้มีเหมือน อำนาจเถื่อนก็เชือดเฉือนเหมือนผักปลา ร่างร่วงหล่นเหมือนใบไม้ในพนา เลือดน้ำตาท่วมท้นบนแผ่นดิน” บทกวีบทหนึ่งจากพวงหรีดงานศพนายอัครเดช ระบุ
เสียงของ แกนนำ ณ สะพานผ่านฟ้า 11 เมษายน ช่วงเช้า
ตอบลบพี่น้องที่เคารพครับ กรุณา ปิดเพลง บนรถ โมบายทุกคัน และ อย่าแสดง
อาการ สนุกสนาน ร่าเริง ครับ พี่น้อง พวกเรากำลังจะแห่ขบวนศพไปทั่วกรุงเทพ
ขอให้ทุกคน อยู่ใน อาการโศกเศร้า นะครับ กรุณา ฟังรถ แกนนำ คันเดียวเท่านั้น
ขอให้ท่านปิดเพลง ในเวลานี้ ทันที
สงสัยจัง...ความโศกเศร้า ต้องขอร้องกันให้ ทำเลยเหรอ..
ถามหน่อยเถอะ เสียใจ...กันจริงรึเปล่า เศร้าใจ