แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

สถานการณ์แดงในภูมิภาค พร้อมพื้นที่ประกาศเขตฉุกเฉินน้องใหม่ "กาฬสินธุ์-มุกดาหาร"

สถานการณ์แดงในภูมิภาค พร้อมพื้นที่ประกาศเขตฉุกเฉินน้องใหม่ "กาฬสินธุ์-มุกดาหาร"

Thu, 2010-05-20 02:53

แดงกาฬสินธุ์ประกาศยุติความเป็นคนไทย ตั้งโต๊ะรับคืนบัตรประชาชนเป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้เพื่อความสงบ ที่มุกดาหารฮือเผาศาลากลางทั้งเก่า-ใหม่ แดงเชียงใหม่เผารถดับเพลิงเทศบาล ยิ่งวุ่นหนักหลังประกาศเคอร์ฟิว ส่วนอุดรฯ ทหารส่งหน่วยลาดตระเวนเขตเทศบาล

เสื้อแดงกาฬสินธุ์ ตั้งโต๊ะรับคืนบัตรประชาชน สัญลักษณ์ในการต่อสู้เพื่อความสงบ

เดลินิวส์: เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 พ.ค. กลุ่มคนเสื้อแดงที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งยังปักหลักตั้งเป็นเวทีคู่ขนานพร้อมกันถึง 3 เวที ทั้งนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงนำโดย นายประภาส ยงคะวิสัย แกนนำคนเสื้อแดงกาฬสินธุ์ ยังได้รวบรวมบัตรประชาชนคนเสื้อแดง เพื่อไปมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยอ้างว่า เป็นการต่อสู้ในเชิงสัญลักษณ์ จากผลการล้อมปราบประชาชนของรัฐบาลทำให้คนเสื้อแดงไม่ยอมรับความเป็นไทย เพราะไม่มีความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ทั้งนี้ ยังได้เรียกร้องให้ทั่วประเทศคืนบัตรประชาชน เพื่อร่วมกดดันรัฐบาลในการปฏิเสธความเป็นคนไทย เชื่อว่าหากรัฐบาลยุติความรุนแรงประกาศนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมาบริหารประเทศ ก็จะทำให้ประเทศชาติกลับสู่ภาวะปกติได้

สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่กาฬสินธุ์ ขณะนี้เริ่มมีความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติมากขึ้น เนื่องจากมีรายงานว่า กลุ่มคนเสื้อแดงที่อยู่จังหวัดข้างเคียงได้ทยอยเดินทางเข้าไปสมทบกันที่ศาลากลางจังหวัดมากขึ้น และเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ตรวจยึดยางรถยนต์จำนวน 50 เส้น และน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะเตรียมก่อเหตุ ทั้งนี้ ยังมีรายงานว่า ยังมีทหารจากจังหวัดข้างเคียงได้เริ่มทยอยเข้าไปดูแลความปลอดภัย และคาดว่า จังหวัดกาฬสินธุ์อาจจะถูกประกาศเป็นจังหวัด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ต่อไปด้วย

เสื้อแดงมุกดาหารเผาศาลากลางทั้งเก่า-ใหม่

มติชน: เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 19 พฤษภาคม กลุ่มคนเสื้อแดงมุกดาหาร ได้รวมตัวกันประมาณ 300 คน ที่ประตูด้านทิศตะวันตกของศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร จากนั้นได้นำยางรถยนต์ที่เตรียมมาวางกองบนถนน 2 กอง แล้วได้จุดไฟเผา โดยมีคนเสื้อแดงส่วนหนึ่งคอยกั้นเป็นกำแพงไม่ยอมให้รถดับเพลิงของเทศบาลเมืองมุกดาหารเข้าไปทำการดับไฟ

ขณะที่ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัครรักษาดินแดน(อส.) เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่บริเวณด้านในศาลากลางจังหวัด หลังจากนั้นได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงขับขี่รถสามล้อรับจ้างบรรทุกยางรถยนต์เข้ามาสมทบกับผู้ชุมนุมแล้วได้รวมตัวกันบุกพังประตูศาลากลางจังหวัดแล้วนำยางรถยนต์ไปวางกองไว้ที่บริเวณประตูทางเข้าอาคารศาลากลาง

โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนประมาณ 30 นาย ยืนขวางประตูไม่ให้กลุ่มคนเสื้อแดงบุกเข้าไปด้านในอาคารศาลากลางทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจและเรียกร้องให้นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ออกมาพบมิฉะนั้น จะเผาศาลากลางจังหวัด แต่นายบุญส่งไม่ออกมาพบกลุ่มผู้ชุมนุม จึงได้จุดไฟเผายางรถยนต์ที่เตรียมไว้ทำให้ควันและเปลวไฟพัดเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจจนต้องถอยร่นและสลายกำลังไป

จากนั้นกลุ่มคนเสื้อแดงจึงได้นำยางรถยนต์ไปกองไว้รอบศาลากลางแล้วจุดไฟเผา ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงอีกส่วนหนึ่งได้เข้าไปปล่อยน้ำและลมยางรถดับเพลิงที่จอดเตรียมปฏิบัติงานบริเวณด้านข้างศาลากลางจำนวน 4 คัน จนทำให้รถไม่สามารถใช้ดับเพลิงได้

รวมทั้งได้ใช้ก้อนหินและไม้ขว้างใส่กระจกหน้าต่างของศาลากลางจนแตกและนำยางรถยนต์เผาแล้วโยนเข้าไปด้านในศาลากลาง และกลุ่มผู้ชุมนุมอีกส่วนหนึ่งได้นำขวดน้ำพลาสติกไปรองน้ำมันจากรถดับเพลิงที่จอดอยู่แล้วนำมาโยนเข้าไปในศาลากลาง

ระหว่างนั้นได้มีรถดับเพลิงเทศบาลเมืองมุกดาหารวิ่งเข้ามาเพื่อจะดับไฟ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมเห็นและได้วิ่งกรูกันเข้ามาทุบกระจกรถทำให้เจ้าหน้าที่รถดับเพลิงต้องวิ่งออกจากรถไปจนทำให้ไม่สามารถที่จะดับเพลิงได้ ทำให้ยังคงมีไฟลุกไหม้อาคารศาลากลางอยู่ตลอดเวลา

จากนั้นกลุ่มเสื้อแดงได้ระดมใช้รถสามล้อรับจ้างและรถยนต์บรรทุกยางรถยนต์เข้ามาจุดเผาศาลากลางหลังใหม่ที่อยู่ด้านหลังของศาลากลางหลังใหม่ ระหว่างนั้น นายปรัชญา จินต์จันทรวงศ์ ปลัดจังหวัด เดินทางมาพยายามขอร้องกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ให้เผาศาลากลางหลังใหม่อีก แต่ไม่มีใครเชื่อฟังทั้งยังโห่ไล่

ต่อมาได้มีรถดับเพลิงวิ่งเข้ามาในศาลากลางเพื่อจะฉีดน้ำดับไฟแต่ก็ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงเข้าขัดขวางทุบกระจกรถจนไม่สามารถฉีดน้ำดับไฟได้ โดยกลุ่มคนเสื้อแดงที่เป็นวัยรุ่นและชายฉกรรจ์ยังได้นำท่อนไม้ ก้อนหิน ขว้างเข้าใส่กระจกอาคารจนแตกกระจายแล้วจุดไฟใส่ยางรถยนต์แล้วโยนเข้าไปในอาคารสร้างความตื่นตกใจให้กับข้าราชการที่กำลังทำงานอยู่ในศาลากลางวิ่งหนีออกจากศาลากลางอย่างอลหม่าน

ทหารนำกำลังเข้าสลายเสื้อแดง จับได้ 9 คน

มติชน: ต่อมาเวลา 17.00 น. พ.อ.กฤต ผิวเงิน ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 3 จังหวัดสกลนคร พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร เดินทางมาถึงศาลากลาง จากนั้นได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองมุกดาหาร ชุดควบคุมฝูงชน ตชด. อส.จ.มุกดาหาร ตั้งแถวเดินเข้าหากุล่มคนเสื้อแดงจนเกิดการปะทะกันขึ้นปรากฏว่า กลุ่มคนเสื้อแดงสู้ไม่ได้จึงได้ล่าถอยออกไปจากศาลากลางแต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ 9 คน

จากนั้นจึงได้มีการระดมรถดับเพลิงจากเทศบาลทั่วทั้งจังหวัดมุกดาหารเข้ามาทำการดับไฟจนกระทั่งเวลา 18.00 น. ไฟจึงได้สงบลงจากการตรวจสอบเบื้องต้นปรากฏว่าศาลากลางหลังเก่าสูง 3 ชั้น ซึ่งเป็นที่ตั้งส่วนราชการที่สำคัญ อาทิ สำนักงานคลังจังหวัด สรรพากรเขตพื้นที่ พัฒนาชุมชนจังหวัด ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง ส่วนศาลากลางหลังใหม่ซึ่งมีห้องทำงานผู้ว่าราชการจังหวัดอยู่บนชั้น 4 ถูกไฟลุกลามไหม้จนถึงชั้น 4

ต่อมาได้มีการสนธิกำลังของเจ้าหน้าที่ออกตั้งด่านตรวจทุกเส้นทางที่จะเข้ามาในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหารเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มคนเสื้อแดงเข้ามาสร้างสถานการณ์ได้อีก

เชียงใหม่ป่วน แดงเผารถดับเพลิงเทศบาล

เนชั่น: ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.50 น.กลุ่มเสื้อแดงที่ชุมนุมอยู่บริเวณจวนผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ ได้ก่อเหตุเผารถดับเพลิง 2 คัน ของเทศบาลนครเชียงใหม่ ที่มาจอดหน้าโรงเรียนเชียงใหม่คริสต์เตียน เชิงสะพานนวรัฐ เพื่อมาดับเพลิงที่กำลังลุกใหม่ยางรถยนต์ที่กลุ่มคนเสื้อแดงนำมาวางและจุดไฟเผาบริเวณสี่แยกเชิงสะพานนวรัฐ ฝั่งด้านหน้าโบสถ์คริสต์จักรที่ 1 เชียงใหม่

เมื่อรถดับเพลิงมาถึง กลุ่มเสื้อแดงได้กรูกันลากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาซ้อม ก่อนไปเปิดฝาน้ำมันรถนำน้ำมันออกมาราดที่ห้องเครื่องและจุดไฟเผา จนชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ระแวกนั้นต้องช่วยกันเขนรถดับเพลิงที่ถูกไฟไหม้ให้ออกห่างจากตัวอาคารของโรงเรียนเชียงใหม่คริสต์เตียนเพราะเกรงว่าจะลุกลามติดตัวอาคารและบ้านเรือนประชาชนบริเวณดังกว่า โดยรถดับเพลิงเสียหายเพราะถูกเพลิงไหม้แล้ว 1 คัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า มีรายงานว่ามีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบปาระเบิดใส่ห้างบิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาดอนจั่น ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

18.50 น.กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงได้เคลื่อนพลไปที่บริเวณร้านไก่ย่างวนิดารสเลิศ ติดกับมิตรภาพ เขตเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของ นายวิเชียร คุณกิตติ พ่อของนายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จากนั้นมีแผนจะเคลื่อนไปที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น

ขณะที่ พล.ต.ต.ศักดา เตชะเกรียงไกร รักษาการ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เตรียมหารือ นายปราโมทย์ สัจจรักษ์ ผู้ว่าฯ ขอนแก่น ถึงการประกาศเคอร์ฟิว หลังสถานการณ์รุนแรง

เชียงใหม่วุ่นหลังประกาศเคอร์ฟิว

เนชั่น: เวลา 20.50 น. หลังผู้ว่าราชการจังหวัด ประกาศเคอร์ฟิวแล้ว มีผู้ไม่หวังดีจุดไฟเผาหญ้าแห้งสองฝั่งริมถนนสายเลียบทางรถไฟ (โลคอลโรด) ด้านหลังหมู่บ้านปาล์มสปริง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพลิงได้ลุกไหม้หญ้าฝั่งซ้ายมือหากมุ่งหน้าจากตัวเมืองไปทางอำเภอสารภี จ.เชียงใหม่ เป็นแนวยาวกว่า 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำเร่งดับเกรงไฟจะขยายวงกว้าง

ก่อนหน้านี้ 19.50 น.มวลชมเสื้อแดงขี่จักรยานยนต์ประมาณ 50 คัน ปาระเบิดเพลิงและก้อนหินเข้าใส่สำนักงานบริษัท เชียงใหม่ คอนสตรัคชั่น จำกัด ซึ่งตั้งอยู่บนถนนมหิดล ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นกิจการของ นายคะแนน สุภา พ่อตานายเนวิน ชิดชอบ ส่งผลให้กระจกสำนักงานดังกล่าวแตก แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บ นอกจากนี้ยังนำยางรถยนต์ประมาณ 5 เส้นไปวางกองไว้ด้านนอกรั้ว พร้อมขวดน้ำมัน 1 ขวด แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเห็นเข้าระงับเหตุได้ทัน กลุ่มเสื้อแดงพากันหลบหนีไปได้

ระดมตำรวจ 200 คุมเข้มศาลากลางอยุธยา

เนชั่น: 19.17 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบก.ภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย พ.ต.อ.กรเอก เพชรไชยเวส รองผบก.ภ.พระนครศรีอยุธยา ได้นำกำลังตำรวจปราบจลาจล 200 นาย ไปรักษาความปลอดภัยบริเวณศูนย์ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับกำลัง อ.ส.อีก 50 นาย โดยกระจายกำลังอยู่รอบบริเวณศูนย์ราชการฯ มีรถดับเพลิงของเทศบาลเมืองอโยธยา รถปั่นไฟของสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดฯ มาจอดเตรียมพร้อม

วันเดียวกันมีกลุ่มคนเสื้อแดง จำนวนกว่า 100 คนเดินทางมายังศูนย์ราชการ โดยเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เข้าไปภายในศูนย์ราชการ ซึ่งตัวแทนของผู้ชุมนุมได้ยื่นหนังสือให้กับ พล.ต.ต.จารุวัฒน์ โดยเป็นหนังสือเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดทำร้ายประชาชน หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับไป โดยยังมีกำลังตำรวจกระจายกันอยู่รอบศูนย์ราชการ ท่ามกลางข่าวลือว่าจะมีมือมืดมาก่อเหตุร้ายในเวลากลางคืน ขณะที่ทางศูนย์การค้าอยุธยาพาร์ค ซึ่งอยู่ใกล้กับศูนย์ราชการ ก็มีกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจและ รปภ.ของศูนย์การค้ากระจายอยู่ทั่วบริเวณห้าง แต่ก็ยังไม่พบว่ามีเหตุร้ายแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถดับเพลิงเทศบาลเมืองอโยธยา อ.พระนครศรีอยุธยา มาจอดเตรียมการเอาไว้อยู่ที่ด้านหลังศูนย์ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมกับมีกำลังตำรวจ 200 นายกระจายอยู่ทั่ว เพื่อป้องกันเหตุร้าย

ลำปางประกาศยกระดับพื้นที่เขตสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง

เนชั่น: นายศุภกิจ บุญญฤทธิพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ในฐานะ ผอ.กอรม.จว.ลำปาง ได้อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 จ.ลำปางจึงได้ออกคำสั่งที่ 930/2553 ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ห้ามบุคคล กลุ่มบุคคล เข้าไปชุมนุมเรียกร้องในบริเวณศูนย์ราชการจังหวัดลำปาง ซึ่งได้กำหนดเป็นพื้นที่หวงห้ามตามแผนรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดลำปาง ตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 น.

และประกาศในพื้นที่จังหวัดลำปางเป็นพื้นที่ในเขตประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ห้ามการชุมนุมหรือมั่วสุม ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป หรือกระทำการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย กีดขวางการจราจร กีดขวางทางเข้าออกอาคารสถานที่ อันขัดขวางการปฏิบัติงาน หรือการใช้ชีวิตโดยปกติสุขของประชาชน ประทุษร้าย ใช้กำลังทำให้ประชาชนเดือดร้อน เสียหาย เกรงกลัวอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อชีวิตร่างกายทรัพย์สิน ขัดขืนคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่สั่งการเกี่ยวกับการชุมนุมเพื่อความสงบ ไม่เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชน ห้ามการเสนอข่าว การจำหน่าย เผยแพร่ หนังสือพิมพ์ สิ่งพิมพ์ หรือสิ่งอื่นใดที่มีข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว เจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดความเข้าใจผิด กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ห้ามใช้รถจักรยานยนต์ หรือยานพาหนะอื่นใด กระทำการก่อให้เกิดความไม่สงบ ยั่วยุ สร้างความปั่นป่วน ก่อให้เกิดความวุ่นวาย กีดขวางเส้นทางสาธารณะ ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ หรือการดำเนินชีวิตโดยปกติสุขของประชาชน ทั้งนี้ ผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

รายงานข่าวแจ้งว่า สถานการณ์โดยทั่วไปในจังหวัดลำปาง ยังมีความสงบเรียบร้อยเป็นปกติ โดยบริเวณศูนย์ราชการ ศาลากลางจังหวัดลำปาง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยตามปกติ แต่ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มขึ้นเป็น 100 นาย ซึ่งในขณะนี้ ยังไม่มีสัญญาณที่บ่งบอกว่าจะมีเหตุความวุ่นวาย

เสื้อแดงเชียงราย ใช้รถยนต์-จักรยานยนต์ตระเวณทั่วเมือง

INN: กลุ่มคนเสื้อแดงจังหวัดเชียงราย ประมาณ 100 คน นำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ติดธงแดงและธงชาติ พร้อมรถติดเครื่องขยายเสียง ขับขี่รถไปทั่วเมืองเชียงราย โดยอ้างว่าเป็นการแสดงพลังของคนเสื้อแดงเชียงราย ที่ต้องการให้รัฐบาลยุติการใช้กำลังกับทางกลุ่มแดง กทม.และให้หยุดฆ่าประชาชน พร้อมกันนี้แจ้งว่ากลุ่มเสื้อแดงเชียงรายจะมีการเคลื่อนไหวอย่างอิสระ แต่จะไม่ก่อเหตุรุนแรง

ขณะที่ พ.ต.อ.มงคล สัมภาวะผล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย ในฐานะผู้ปฎิบัติประกอบกำลังตำรวจในเขต อ.เมืองเชียงราย หน่วยเฉพาะกิจรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงราย ตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ของ ศอฉ. ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 10 กองร้อย เฝ้าระวังสถานที่ราชการ และธนาคารในเขตเทศบาลนครเชียงราย อย่างแน่นหนา และจะมีการตรวจเข้มในทุกแยกไฟแดงโดยรอบ จวนผู้ว่าราชการจังหวัด ศาลาจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ ฯลฯ

เชียงรายเร่งประกาศเขตเคอร์ฟิวส์ในพื้นที่

INN: นายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้อำนวยการหน่วยกำลังจังหวัดเชียงราย หน่วยเฉพาะกิจรักษาความความสงบเรียบร้อย จังหวัดเชียงราย หรือ ( ฉก.รส.จว.ชร. )ตามประกาศ พรก.ในสถานการฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรง ได้มีคำสั่งด่วนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกสถานีตำรวจในจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะเขตอำเภอเมืองเชียงราย ซึ่งเป็นผู้ปฎิบัติ ให้ออกประกาศประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนกลับเข้าในเคหะสถาน หลังจาก ศอฉ. ได้ประกาศตามให้จังหวัดเชียงราย เป็นหนึ่งในจังหวัดที่ต้องประกาศเป็นเขต เคอร์ฟิว

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถติดเครื่องขยายเสียงออกประชาสัมพันธ์ไปทั่วเมือง ให้ร้านค้า ร้านอาหาร สถานประกอบการต่างๆ ปิดทำการทันทีหลังจากประกาศฉบับนี้ เพื่อให้เป็นไปตามประกาศเคอร์ฟิวส์ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ซึ่งผู้ใดทำการฝ่าฝืนให้ดำเนินการจับกุมทันทีโดยอาศัยช่วงเวลา 20.00-06.00 น.

พร้อมกันนี้ทางเจ้าหน้าที่ แจ้งว่า ในเวลาดังกล่าว จะมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ออกทำการลาดตระเวนในเขตตัวเมืองชั้นใน เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย โดยจะใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุด

เสื้อแดงขอนแก่นเผาศาลากลาง-สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที

มติชน: เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 19 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จังหวัดขอนแก่น ถือท่อนไม้และเหล็กได้บุกเข้ายึดศาลากลางจังหวัด โดยได้ใช้ตะไลยิงเข้าศาลากลางหลายนัดอย่างต่อเนื่องและได้กระจายตัวกันยึดด้านหน้า ชั้น 1 และชั้น 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถควบคุมฝูงชนได้ หลังจากนั้นก็ได้จุดไฟเผาศาลากลาง หลังจากนั้นก็ได้เคลื่อนขบวนไปสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีและดำเนินการจุดไฟเผาด้วยเช่นกัน

แดงอุบลฯ 2 พันคน ล้อมศาลากลาง ก่อนเผาวอดทั้งหลัง

มติชน: ที่ จ.อุบลราชธานี กลุ่มคนเสื้อแดงบุกบ้านนายวิฑูรย์ นามบุตร และนายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ โดยใช้บั้งไฟยิงใส่บ้านนายสุทัศน์ เพื่อประท้วงที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ปราบปรามกลุ่มม็อบเสื้อแดง จากนั้นผู้ชุมนุมได้บุกศาลากลางจังหวัด แต่ถูกเจ้าหน้าที่ใช้ปืนยิงสกัด ทำให้ผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ 3 คน

เวลา 13.40 น. กลุ่ม นปช.อุบลฯ ร่วม 2,000 คน บุกล้อมศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีนำยางล้อรถยนต์ไปวางบริเวณที่ประตูทางเข้าศาลากลางทั้ง 4 ด้าน ซึ่งมีนายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจและทหาร รักษาการอยู่ด้านหน้าศาลากลางฯ ก่อนจะใช้รถบรรทุกบุกพังรั้วเข้าไปแต่มีเสียงปืนยิงโต้ตอบ จากนั้นมีผู้นำร่างหญิงสาว 1 รายถูกยิงบาดเจ็บออกมา ทำให้กลุ่ม นปช.เกิดอารมณ์โกรธแค้น ปลุกระดมผู้ชุมนุมนำน้ำมันและยางรถยนต์ไปเผาบริเวณตัวอาคารศาลากลางจังหวัด รวมทั้งบริเวณด้านหน้าสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลฯ

ขณะที่นายชวนต้องถอยร่นไปอยู่ที่บริเวณอาคารของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ปิดล้อมศาลากลางประมาณ 2 ชั่วโมงจนไฟลุกไหม้ศาลากลางทั้งหลัง โดยไม่มีรถดับเพลิงเข้ามาทำการควบคุมเพลิง และยังไหม้อาคารสื่อสารรวม เสียหายไป 2 หลัง

ส่วนที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุกลุ่ม นปช.บุกเผาศาลากลาง 6 คน ถูกอาวุธปืนยิง สาหัส 2 คน ได้แก่ น.ส.สินีนาถ ชมพูถุงเทศ โดยยิงที่ขาหนีบ นายวิรา ประภา โดนยิงที่หน้าท้อง ได้รับการผ่าตัดและยังอยู่ในห้องไอซียู ส่วนอีก 4 คน ถูกอาวุธปืนและไม่สาหัส ได้แก่ นายระวี ดำริ นายจิระศักดิ์ พรมโมราช นายสหชล ศรีใส นายวิชัย ช่วงยศ

ทหารส่งหน่วยลาดตระเวน เขตเทศบาลอุดรฯ

กรุงเทพธุรกิจ: 20.45 น.วันที่19 พ.ค. หลังจากที่ ศอฉ.ประกาศเคอร์ฟิวในเขต จ.อุดรธานีทางศูนย์วิทยุของ มณฑลทหารบกที่.24 ได้แจ้งมายังศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมือง จ.อุดรธานี ว่า จะมีการส่งกำลังลาดตระเวนในพื้นที่เขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยใช้รถจักรยานยนต์ 2 คันๆ ละ 2 นายและติดอาวุธปืนยาวออกลาดตระเวน จึงขอให้ระวัง อาจจะมีการเข้าใจผิด เกิดเหตุปะทะกันเอง

โดยก่อนหน้านี้เวลา18.00 น.กำลังทหารจากกรมทหารราบที่ 13 จากบน.23 และตำรวจชุดควบคุมฝูงชนได้เข้าสลายการชุมนุม และสามารถควบคุมตัวกลุ่มผู้ชุมนุมไว้ได้ 44 คนโดยได้นำตัวขึ้นรถบัส นำตัวไปสอบสวนภายใน มทบ.24 ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมแยกย้ายเดินทางกลับ

นายอำนาจผการัตน์ ผวจ.อุดรธานี กล่าวว่า ผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัวทั้ง 44 คนขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกส่วน กำลังทำการสอบสวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อจะทำการจับกุมผู้ชุมนุมที่ร่วมก่อเหตุเผาศาลากลาง เทศบาลนครอุดรธานี รถดับเพลิง และรถอื่นๆ ของทางราชการ ที่คาดว่ายังมีอีกหลายรายที่ร่วมรู้เห็น

"มหาสารคาม"วุ่นหนัก เสื้อแดงฮือพยายามเผาที่ว่าการอำเภอ

มติชน: ผู้สื่อข่าวจากมหาสารคามรายงานเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมว่า กลุ่ม นปช.เสื้อแดงกว่า 100 คน ได้พากันชุมนุมกันอยุ่ที่ถนนด้านข้างที่ว่าการอำเภอเมืองมหาสารคาม ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นมาโดยไม่สนใจ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการประกาศเคอฟิวส์แต่อย่างใด จากการสอบถามผู้ชุมนุมบอกว่ามาด้วยใจไม่มีแกนนำ

ต่อมาในเวลา 22.30 น. ผู้ชุมนุมซึ่งใส่ชุดดำกว่า 10 คนสวมหมวกกันน๊อคและผ้าปิดหน้าสีดำได้ขี่จักรยานยนต์ส่งเสียงดังไปมาในที่ชุมนุมและพยายามจะรุมทำร้ายสื่อมวลชนที่ถ่ายภาพ ต่อมาได้มีการเผายางรถยนต์ที่บริเวณเกาะกลางถนน ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.เมือง ซึ่งรักษาการอยุ่ภายในรั้วที่ว่าการอำเภอเมือง พร้อมรถดับเพลิงได้ฉีดน้ำออกไปดับไฟทำให้กลุ่มผุ้ชุมนุมอยุ่แสดงอาการไม่พอใจ ได้พยายามจะปีนรั้วบุกเข้าไปข้างใน และมีการจุดบั้งไฟ ข้าวงก้อนหิน และปะทัดเข้าใส่เจ้าหน้าที่เสียงดังสนั่น

เจ้าหน้าที่ตำรวจตอบโต้โดยยิงปืนขู่ขึ้นฟ้าเป็นระยะๆ พร้อมกับประกาศขอร้องไม่ให้บุกเข้ามา แต่ผุ้ชุมนุมส่วนใหญ่อยู่ในอาการเมาสุราก็พยายามที่จะบุกเข้าไปให้ได้ ขณะเดียวกัน มีมือมืดแอบเข้าไปจุดไฟเผาอาคารชั้นเดียวหลังเล็กที่ไม่ได้ใช้งานซึ่งอยู่ด้านหลังใกล้หอประชุมที่ว่าการอำเภอเมือง เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันดับไฟทำให้อาคารได้รับความเสียหายเล็กน้อย สถานการณ์ยังตรึงเครียด คาดว่าคืนนี้ไม่มีทีท่าจะสงบลงได้ง่าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน