แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

โรง พยาบาลบ้า โดย กาหลิบ


วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

http://img801.imageshack.us/img801/865/e0b881e0b8a9e0b8b4e0b89.jpg

คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง โรงพยาบาลบ้า
โดย กาหลิบ

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๓ เวลาบ่ายสองโมงครึ่ง มีคำสั่งลงมาจากห้องของ นายกษิต ภิรมย์ ว่าท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศต้องการจะคุยกับข้าราชการทั้ง กระทรวง ให้ทุกคนมาร่วมชุมนุมโดยพร้อมเพรียงกัน

กระทรวงการต่าง ประเทศยังเป็นกระทรวงเล็ก ข้าราชการน้อย รวมทุกคนที่ประจำการในประเทศไทยทั้งหมดแล้วยังนั่งรวมในห้องเดียวกันได้อยู่

ทุก คนก็มาตามนั้น

สิ่งที่นายกษิตฯ พูด บอกอะไรเกี่ยวกับเมืองไทยทุกวันนี้ได้ชัด แถมทำให้รู้ด้วยว่าใครใช้ให้มาพูด ความตั้งใจอันแท้จริงของเขาคือ ให้เนื้อหาที่พูดแพร่หลายออกไปมากๆ จนคนสั่งให้พูดได้ยิน เป็นการทำคะแนนทางการเมืองแบบของนายกษิตฯ เขา

ปัญหา คือ ฟังเนื้อหาแล้วต้องหัวร่อ เพราะคนพูดก็บ้า คนที่สั่งให้เขามาพูดก็บ้า และออกจะบ้าหนักกว่าคนพูดด้วยซ้ำ

สรุปเนื้อหาออกมาได้ราว ๘ ประเด็นคือ

๑. ไทยถูกแสดงข้อกังขาจากทูตประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือที่ประจำในยุโรป (ไม่รู้ว่าทูตเกาหลีเหนือหรืออะไร) ว่าไทยดูเหมือนรัฐที่ล้มเหลว ทำไมจัดการกับผู้ประท้วงไม่เด็ดขาด

๒. นักข่าวต่างชาติที่พยายามกล่าวโทษรัฐบาลไทยในการใช้ความรุนแรง ก็ให้โต้ว่า หากไปดูประวัติศาสตร์อเมริกาและเยอรมันในอดีต ก่อนเป็นประชาธิปไตย จะเห็นว่าผ่านลักษณะที่ไม่เป็นประชาธิปไตยมาก่อนทั้งนั้นแหละ แล้วจะมาเรียกร้องอะไรจากไทยในตอนนี้เล่า ไทยคงเหมือนประเทศของเขาเมื่อสักร้อยกว่าปีก่อนที่ผ่านมานั่นแหละ

๓. ทำไมนักข่าว (ไทย) ไม่ค่อยไปตามหาข้อมูลเอาความผิดกับพวกเผาบ้านเผาเมืองกันเลย ปล่อยให้ตัวเขา (นายกษิตฯ) แทบเป็นเพียงคนเดียวที่พยายามพูดและทำเรื่องนี้
๔. ให้ช่วยกันแจ้งต่อนานาชาติว่าการใช้กำลังเป็นอำนาจของรัฐ ต้องใช้ได้ เพราะผู้ใช้คือ รัฐ รู้ว่าใช้เพื่ออะไร

๕. ให้ช่วยกันแจ้งต่อนานาชาติว่า รัฐบาลกับทหารไทย แนบแน่นกันที่สุด

๖. ให้ช่วยกันแจ้งว่า รัฐบาลไม่เป็นลูกไล่ของใคร มีความเป็นตัวของตัวเอง

๗. ไทยจะไม่ privatize (แปรรูปฯ) อีก เพราะที่ผ่านมาทำแล้ว ความเป็นเจ้าของคือหุ้น ตกในมือนักการเมืองไม่กี่ตระกูล นี่คือเหตุผลที่อยากซื้อคืนไทยคม

๘. ขอยืนยันว่า การส่งม้งลาวกลับไปลาวนั้น ถูกต้องแล้ว เพราะเป็นคนของลาว

ความจริง ผู้ใหญ่สั่งนักหนาว่า อย่าไปถือคนบ้า อย่าไปว่าคนเมา แต่บังเอิญคนบ้ารายนี้แกเกิดหลุดมาอย่างไรก็ไม่ทราบ มาเป็นรัฐมนตรีได้ จะไม่พูดถึงเลยก็กระไรอยู่

ว่ากันสั้นๆ ให้เห็นภาพก็พอ คงไม่ต้องเรียงประเด็นที่ไหลออกมาจากตัวแก

ประการแรก นี่เป็นการสะท้อนความต้องการของตัวคนพูด บวกความคิดของนายใหญ่ที่สุดที่คนพูดรับคำสั่งมาโดยตรง และเป็นคนชราที่ตั้งคนพูดมาเป็นรัฐมนตรีเองนั่นแหละ ว่าขณะนี้อยากให้เมืองไทยเป็นพม่าเต็มทีแล้ว

การอ้างว่าปราบผู้ประท้วงไม่รุนแรงพอ” “เราคือรัฐไทย เราใช้ความรุนแรงได้เป็นต้น ส่อแสดงว่าความโหดร้ายต่อพวกเราประชาชนที่ผ่านมานั้น ไม่ใช่ความผิดบาปหรือน่าเสียใจแต่อย่างใดเลยในสายตาและความรู้สึกเขา

นี่ คือแนวความคิดที่ทำให้เผด็จการธรรมดากลายเป็นทรราช และทรราชนั้นไม่ใช่เด็กรับใช้อีกคนหนึ่งอย่างนายอภิสิทธิ์ฯ แต่เป็นทรราชของระบอบ เพราะคิดเหมือนกันทั้งยวง

ยิ่งสั่งให้ข้า ราชการกระทรวงการต่างประเทศช่วยกันยืนยันว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลทหาร ก็ยิ่งสนุก

ต่อไปการฆ่า การทำลายล้างก็จะเกิดขึ้นอีก

ประการ ที่สอง ทัศนะระหว่างประเทศแบบหักดิบ บ่งบอกถึงการเอาตนเองเป็นศูนย์กลาง

กรณี ม้งลาวนั้น ทุกชาติรู้ว่านี่เป็นการจัดตั้งมวลชนลาวที่มีความเห็นไม่ตรงกับรัฐบาลลาว ส่งตัวไปอย่างนั้นคือการสั่งประหารชีวิตของเขาโดยแท้

การแปรรูปรัฐ วิสาหกิจ ก็ไปเอาความคิดขวาจัดที่ไม่ดูข้อเท็จจริงมาสั่งให้เจ้าหน้าที่การทูตไปโฆษณา ชวนเชื่อ อธิบายไม่ได้ว่าคัดค้านการแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ กันแทบล้มตาย แต่กลับเร่งผลักดันการแปรรูป ปตท. หรือ การปิโตรเลียมฯ เหมือนกลัวจะเปลี่ยนใจ คนพูดก็รู้ดีใช่ไหมว่า ใครถือหุ้นใหญ่ใน ปตท. คือตระกูลไทยที่ได้ผลประโยชน์แบบสูบเลือดมานานใช่ไหม

ทำอย่างนั้น กลับถือว่าไม่ผิดเพราะเป็นเรื่องที่โคตรข้าทำเอง

ประการสุดท้าย บอกได้เลยว่า ทั้งหมดนี้เป็นการหาเสียงต่อคนๆ เดียวทั้งสิ้น หรืออย่างมากก็เพื่อครอบครัวเดียว

ถามว่าคนพูดหน้าตาอย่างนี้หวัง อะไร

คงหวังส้มหล่น

ก็เผื่อฉุดไม่ยั้งรั้งไม่อยู่ เกิดรัฐประหารหรือรัฐบาลพิเศษขึ้นในบ้านเมืองนี้อีกรอบ อาจจะพอลุ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกับเขาได้บ้างนั่นแล

ฟังคำพูดครั้ง นี้แล้ว เข้าใจทันทีว่าที่นายกษิตฯ ถ่อไปพูดเรื่องสถาบันถึงกรุงวอชิงตันดีซีเมื่อไม่นานนี้นั้น ใครสั่งให้ไปพูด และพูดเพื่อลดความกดดันอะไรต่อตัวเอง

ครับ วันนี้มันบ้ากันถึงขนาดนี้แล้ว.

---------------------------------------------------------------------------------

Nangfa

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน