แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ฝ่าม่านน้ำตา สิริกุล ใสเกื้้อ



บ้านฮาซื้อคนเดียว

จากมติชนสุดสัปดาห์ โดยสิริญญา นิมะกุล

คัดมาให้อ่านในบางตอน

"แก้ม เล่าว่า กำหนดคลอดคือวันที่ 10 พฤาภาคม พี่เต้นก็จะมาบอกเราว่าอย่ามาเลย หมายจับก็มี เรากลัวเขาโดนยิง แต่เขาบอกว่า เขาต้องมา และมาบอกกับน้องตราตรึงที่เพิ่งคลอดออกมาแปีบเดียวว่า พ่อต้องไปจะมีคนมาจับตัวพ่อ ไม่ใช่เพราะพ่อกลัว แต่ พ่อมีพี่น้องร่วมตายกับพ่ออีกเป้นหมื่นเป็นแสนชีวิตรอพ่ออยู่ พ่อิ้งพวกเขาไม่ได้ พ่อต้องขอโทษที่แม้กระทั่งวันแรกในชีวิตลูก พ่อก็ไม่ได้อยู่ด้วย"

"ยิ่งวันที่พี่เต้นต้องขึ้นศาล เราก็พยายามทำใจเพราะเรารู้มาก่อนว่าเขาจะตีตรวนพี่เต้นแต่พอเราเห็นพี่เต้น เดินเข้า
มา เวลาพี่เต้นขยับขาแต่ละทีโซ่มันดัง กริ๊ง กริ๊ง เสียง....มันกรีดเข้าไปในหัวอก มันบาดหัวใจ บอกได้เลยว่า เสียงโซ่ มันทำร้ายหัวใจเรา"

"มีคนถามแก้มว่า..ทำไมถึงทนได้ เราไม่ได้ว่าเราทนนะ แต่เรากำลังสู้ พี่เต้นสู้ เราก็สู้ จนไม่รู้สึกว่ามันหนักเลย เพราะมันเริ่มต้นจาการที่เราเห็นด้วยกับเขา เราไม่ได้ออกไปต่อสู้ข้างนอกก็จริงนะ แต่ช่วยพี่เต้นอยู่ข้างหลัง ถ้าพี่เต้นสู้ขนาดนั้นถึงขั้นจะตายแล้วเรื่องแค่แก้มเลี้ยงลูกกับความทุกข์ หนนี้ทำให
้เราไปได้ไม่จัดว่าเป็นความทุกข์หนักหนาอะไร ส่วนอนาคตจะพาไปทางไหนแก้มไม่ว่า และ พร้อมที่จะเดินไปกับเขา"

ขออนุญาต ไปซับน้ำตาให้ตนเอง ก่อนเด้อ...555


BIG RED-JOE


เมื่อสงกรานต์ทมิฬรอบแรก คุณเต้นเล่าบนเวทีว่า ญาติๆบอกว่า เมื่อจะทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอย่างนี้ ก็น่าจะให้เมียและลูกชาย
(ตอนนั้นมีน้อง นปก คนเดียว)ไปอาศัยอยู่กับญาติก่อน เพื่อความปลอดภัย แต่เมื่อมาปรึกษากันสองคนผัวเมีย ก็คิดตรงกันว่า ในเมือเราไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมเราต้องหนี เราจะอยู่ด้วยกันอย่างนี้แหละ

พอเริ่มมีการปราบ ก็มีทหารสี่ห้าคนมาด้อมๆมองๆ แอบอยู่ข้างๆบ้าน พอน้องแก้มเห็น ก็หอบลูกชายพร้อมเด็กพี่เลี้ยงสาวขึ้นรถทันที (ฟังมาถึงตรงนี้ เราก็นึกในใจว่า น้องแก้มคงรีบพาลูกหนี)
แล้วขับรถไล่ตามรถทหาร พอทหารมันรู้ ก็รีบขับรถหนีหัวซุกหัวซุน ตามประสาทหารไทยใจเหี้ยมหาญ พอมาถึงวงเวียนในหมู่บ้าน น้องแก้มเธอก็ขับรถดัก แต่ไม่ทัน ทหารมันหลบรอดไปได้ นี่ถ้ามันรู้ว่า รถคันที่ขับมาตัดหน้ารถมันนั่นน่ะ มีแค่ผู้หญิงกับเด็กตัวเล็กๆ มันจะไปขอผ้้าถุงแม่มันใส่มั้ยหนอ

มาถึงปีนี้ พอทราบจากเวทีว่า น้องแก้มกำลังคลอดอยู่ที่ รพ. เราใจหายวาบเลย รู้แล้วว่า นี่คือจุดอ่อนที่สุดของผู้หญิง พี่เต้นเราเสร็จแน่ แล้วก็เป็นจริงตามนั้น

ที่พี่เต้นเสียงอ่อนลง อ่อยลง เรื่อยๆ ก็เพราะมันข่มขู่ว่าจะฆ่าลูกเมียเขาตลอด จนถึงวันสลายการชุมนุม คนที่อยู่ราชประสงค์เล่าว่า มันเอาปืนจ่อหัวลูกเขา แล้วใช้มือถือถ่ายรูป ส่งรูปนั้นมาให้พี่เต้นดูในมือถือ แล้วถามว่า มึงจะยอมยุติไหม ตอนนี้ลูกเมียมึงอยู่ในมือกู กูจะยิงพวกมันเดี๋ยวนี้ นี่คือ จุดจบของการชุมนุม ที่ต้องยอมประกาศยุติกันเดี๋ยวนั้นเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน