แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

คุม “เต้น” ลากโซ่ตรวน-ใส่กุญแจมือ “เหวง-วีระ” ฟ้องคดีบุกบ้านป๋า

Thu, 07/08/2010 - 23:52 | by เซน่อน | Vote to close topic

"วีระ - ณัฐวุฒิ- วิภูแถลง- เหวง" แกนนำ นปช. ให้การปฏิเสธ คดีพาม็อบแดง บุกล้อมบ้านป๋าเปรม 22 ก.ค.50 ศาลนัดตรวจหลักฐาน 23 ส.ค.นี้ ด้านทนายแดง เตรียมขอศาลไต่สวนถอนคำสั่งรับฟ้อง รอฟังผลคดีแกนนำแดง ฟ้อง อดีต ผบ.ตร.สั่งฟ้องคดีไม่ชอบ


"ณัฐวุฒิ-เหวง-วิภูแถลง-วีระ" โจรก่อการร้ายมากันครบ


"ไอ้เต้น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ"


นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท อายุ 59 ปี





วันนี้ ( 8 ก.ค.) 10.00 น. ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลสอบคำให้การจำเลยคดีหมายเลขดำที่ อ.2103 / 2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง นายวีระ มุสิกพงศ์ อายุ 62 ปี ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อายุ 35 ปี นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท อายุ 59 ปี และ นพ.เหวง โตจิราการ อายุ 59 ปี แกนนำ นปช. เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐาน มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้า หรือผู้มีหน้าที่สั่งการ , ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังขู่เข็ญ และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุมเลิกไปแล้วไม่เลิก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 วรรค 2 ,215 , 216 ประกอบมาตรา 33 , 83 และ 91 กรณีเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 50 มีการเคลื่อนย้ายขบวนผู้ชุมนุมหลายพันคน จากสนามหลวง ไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เพื่อเรียกร้องกดดันให้ พล.อ.เปรม ลาออก

โดยวันนี้ศาลเบิกตัวนายวีระ นายณัฐวุฒิ นายวิภูแถลง และ นพ.เหวง จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาเพื่อสอบคำให้การ โดยทั้งหมดถูกควบคุมตัวมาในชุดนักโทษสีน้ำตาล นายณัฐวุฒิ และนายวิภูแถลง ถูกสวมโซ่ตรวน ขณะที่นายวีระ และ นพ.เหวงไม่ต้องสวมโซ่ตรวน เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ

ทั้งนี้ ศาลอ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้งสี่ฟังจนเป็นที่เข้าใจแล้วสอบถามว่า จะรับสารภาพหรือปฏิเสธ จำเลยทั้งหมดยืนยันให้การปฏิเสธ ขณะที่ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน 23 ส.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

ขณะที่วันนี้นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ หนึ่งในแกนนำ นปช. และกลุ่มผู้สนับสนุนแกนนำ นปช. จำนวนหนึ่ง ซึ่งสวมเสื้อหลากสี เดินทางมาให้กำลังใจแกนนำทั้งสี่คนด้วย

ด้าน นายเจษฎา จันทร์ดี ทนายความ นปช. เปิดเผยว่าในช่วงบ่ายวันนี้ ตนจะยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวน เพื่อเพิกถอนคำสั่งรับฟ้องคดีนี้ เนื่องจากนายวีระ กับพวกที่เป็นแกนนำ นปช.ได้ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบที่มีความเห็นสั่งฟ้องในคดีแล้ว ซึ่งหากคดีดังกล่าวศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าการสั่งฟ้องคดีดังกล่าวไม่ชอบ ก็จะส่งผลต่อการยื่นฟ้องคดีนี้ที่จะไม่ชอบตามกฎหมายไปด้วย

ทั้งนี้ คำฟ้องบรรยายความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ค.50 นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล แกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006, นายวีระศักดิ์ เหมธิลิน และนายวันชัย นาพุทธา สมาชิกแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จำเลยที่ 1-3 คดีหมายเลขดำที่ อ.3531/ 2552 และจำเลยที่ 1-4 คดีนี้ กับพวกอีกหลายคนที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ซึ่งมีบุคคลที่มีมีดดาบ มีดดายหญ้า มีดปลายแหลม หลายเล่มเป็นอาวุธ ร่วมกันใช้กำลังประทุษร้าย ซึ่งมีจำเลยที่ 1-4 คดีนี้ นายนพรุจ จำเลยที่ 1 คดีหมายเลขดำที่ อ.3531/2552 เป็นหัวหน้ามีหน้าที่สั่งการ ที่อยู่บนรถบรรทุก นำการเคลื่อนย้ายขบวนผู้ชุมนุมหลายพันคน และเวทีปราศรัยเคลื่อนที่ จากสนามหลวง ไปตาม ถ.ราชดำเนินกลาง ราชดำเนินนอก มุ่งหน้าไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เพื่อเรียกร้องกดดันให้ พล.อ.เปรมลาออกจากตำแหน่ง อันเป็นการล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพของ พล.อ.เปรม และทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการไม่สามารถใช้รถ หรือเส้นทางจราจรได้ตามปกติ และเมื่อเจ้าพนักงานตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ตั้งจุดสกัดป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนย้ายเข้าไปก่อความวุ่นวาย จำเลยกับพวกผู้ชุมนุม ร่วมกันใช้กำลังประทุษร้าย ขว้างปาวัตถุต่างๆ และผลักดันเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งทำร้ายเจ้าหน้าที่ขับรถขนขยะแล้วยึดรถยนต์มาขับเอง โดยพุ่งชนรั้วกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งการให้กลุ่มชุมนุมยุติการชุมนุม จำเลยกับพวก กลับใช้กำลังฝ่าด่านจุดสกัดไปได้จนถึงบริเวณบ้านพักของ พล.อ.เปรม แล้วพวกจำเลยจึงปักหลักชุมนุมโดยใช้รถยนต์เป็นเวทีปราศรัยกล่าวโจมตี พล.อ.เปรม รัฐบาลและ คมช.ว่าอยู่เบื้องหลังการยึดอำนาจทำรัฐประหาร ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อรับทราบคำสั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งให้ยุติการ ชุมนุมแล้วยังขัดขืน ขว้างปาก้อนหิน วัตถุสิ่งต่างๆ รวมทั้งกระถางต้นไม้ รั้วไม้ อิฐตัวหนอนที่ปูทางเท้า ของชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง เป็นอาวุธขว้างปาทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยพนักงานสอบสวน ได้ตัวจำเลยที่ 1-4 มาสอบสวนเมื่อวันที่ 26 ก.ค.50 แล้ว จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ

ศาลสั่งขังต่อ แกนนำ นปช.ก่อการร้าย
วันเดียวกันนี้ พ.ต.ท.พิภพ สุขก่ำ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ยื่นคำร้องขออำนาจศาลอาญาฝากขังครั้งที่ 3 นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธาน นปช. กับแกนนำ นปช. อีก 10 คน ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย เป็นเวลาอีก 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 9 – 20 ก.ค. เนื่องจากยังต้องสอบปากคำพยานอีก 60 ปาก ,รอผลการตรวจของกลางต่าง ๆ ทางนิติวิทยาศาสตร์ จำนวนมาก รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือ ผู้ต้องหา และอื่น ๆ

ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ โดยผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเร้นซ์ ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร สถานที่ควบคุมตัว



1 ความคิดเห็น:

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน