แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เหยื่อ พค.เผยชีวิตตาบอด

Porsche


ท้อ-ไร้คนเยียวยา ยันไม่ได้ร่วมม็อบ

หนุ่ม วินจยย.เหยื่อปืนถูกยิงตาบอดท้อแท้ชะตาชีวิต ยันไม่ได้มีส่วนร่วมกับการชุมนุมม็อบแดง
เพียงแค่ขับจยย.ผ่านจุดปะทะ หน้าพรรคเพื่อไทย กลับถูกยิงจนตาบอด
แฟนสาวโอดครวญจนถึงตอนนี้ยังไม่มี หน่วยงานใดๆ ให้ความช่วยเหลือ
ในขณะที่ตาก็มืดสนิทมองไม่เห็น หนุ่มกู้ภัยบวชแก้บนหลังรอดชีวิตจากการสังหารหมู่ในวัดปทุมฯ

จากกรณี นายเสกสิทธิ์ ช้างทอง อายุ 28 ปี อาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง ย่านโพธิ์สาม ต้น เขตบางกอกใหญ่ กทม.
ผู้ได้รับผลกระทบจากการกระชับ พื้นที่บริเวณใกล้พรรคเพื่อไทย ถนนพระราม 4 เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา
ส่ง ผลให้ถูกยิงตาบอด ทั้ง 2 ข้าง จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาใดๆ จากรัฐบาล ตามที่เสนอไปนั้น

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. น.ส.ยุ้ย (นามสมมติ) แฟนสาวของนายเสกสิทธิ์ เปิดเผยว่า
จนถึงขณะนี้อาการของนายเสกสิทธิ์ ยังไม่สามารถมองเห็นได้ มืดสนิททั้ง 2 ข้าง
และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้เดินทางมาขอเอกสารยืนยันผลการตรวจวินิจฉัยของแพทย์เกี่ยวกับระบบสายตา
จาก ทางโรงพยาบาลกลาง ซึ่งเป็นจุดแรกที่ส่งนายเสกสิทธิ์เข้ามารับการรักษา
ซึ่ง เอกสารดังกล่าวตนมาขอเพื่อเตรียมไว้ หากว่าต้องย้ายนายเสกสิทธิ์มายังโรงพยาบาลศิริราช
และเตรียมนำไปยื่น เรื่องเพื่อขอเงินค่าชดเชยในฐานะผู้เสียหายกับหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ที่มีหลายแห่ง เนื่อง จาก
นายเสกสิทธิ์ ถูกยิงขณะขับรถจักรยานยนต์ไปส่งลูกค้าบริเวณพรรคเพื่อไทย ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมคนเสื้อแดง
แต่อย่างใด จนถึงทุกวันนี้การให้ความช่วยเหลือเยียวยาต่างๆ นายเสกสิทธิ์ ยังไม่ได้รับ ทำให้ครอบครัวเดือดร้อนหนัก
เงินที่เก็บสะสมไว้ก็เริ่มหมด แต่ตอนนี้ก็มีผู้ใจบุญโอนเข้าบัญชีมาให้เพื่อไว้ใช้จ่ายในครอบครัว ต้องขอขอบคุณ
ที่ให้ความช่วยเหลือ เพราะทุกวันนี้ตนต้องทำงานคนเดียว
เพื่อ หาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายรายเดือนทั้งค่าบ้าน และรายจ่ายต่างๆของลูก

น.ส.ยุ้ย กล่าวต่อว่า หลังจากที่นายเสกสิทธิ์ ต้องเสียดวงตาทั้งสองข้างไป
ทุก วันนี้ก็เริ่มเครียดหนักมักบ่นว่าท้อแท้ที่มีชีวิตอยู่แล้วมองอะไรไม่เห็น ตนและคนในครอบครัว
ก็พยายามที่จะเป็นกำลังใจให้ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ตนได้ยื่นเอกสารไปยังสำนักพระราชวัง
เพื่อขอให้รับนายเสกสิทธิ์ เป็นผู้ป่วยในพระอุปถัมภ์ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาอยู่

ผู้สื่อ ข่าวรายงานว่า นายศุภลักษณ์ แพรดิษฐ์ อายุ 30 ปี เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจ (ปู่อินทร์)
ประจำสาขาจังหวัด นนทบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในอาสากู้ภัยที่ติดอยู่ภายในวัดปทุมวนาราม เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา
ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น ได้บนบานสานกล่าวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าหากรอดมาได้จะขอบวช
ซึ่ง เหตุการณ์ครั้งนี้ปรากฏว่านายศุภลักษณ์รอดตายจากคมกระสุนมาได้อย่าง ปาฏิหาริย์
ซึ่งในที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายศุภลักษณ์จึงโกนหัวเข้าบวชแก้บนที่วัดหูช้าง จ.นนทบุรี

นายโทนทอง สุขแก่น อายุ 29 ปี ประธานศูนย์มูลนิธิสยามรวมใจ (ปู่อินทร์) เปิดเผยว่า
นาย ศุภลักษณ์ เป็นหนึ่งในทีมอาสากู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจ (ปู่อินทร์) ที่ร่วมเดินทางไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
จากการกระชับพื้นที่ของ ทหาร เดินทางไปกันตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. ไปกัน 9 นาย ต่อมามีการกระชับพื้นที่
และทางแกนนำนปช. คือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้ประกาศยุติการชุมนุม
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ขณะนั้นเกิดความวุ่นวายมากบริเวณพื้นที่การชุมนุมราชประสงค์
และ ช่วงนั้นมีชาวบ้านที่ไปร่วมชุมนุมพากันวิ่งเข้ามาหลบภายในวัดปทุมฯ หลายพันคน
และเริ่มมีการปาระเบิดและยิงกัน จนมีผู้บาดเจ็บหลายคน ขณะนั้นนายศุภลักษณ์ ได้เข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
และช่วยดูแลเรื่องการ เจ็บป่วยภายในวัด ไม่สามารถออกมาได้ เพราะช่วงค่ำเริ่มมีการใช้ปืนยิงเข้ามาในวัดตลอด

นายโทนทอง กล่าวต่อว่า ขณะที่นายศุภลักษณ์ติดอยู่ในวัด
นายศุภลักษณ์ได้บนบานสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ในวัดให้ช่วยคุ้มครองชีวิตประชาชนที่ติดอยู่ในวัดให้ปลอดภัยทุก คน
รวมทั้งตนเองด้วย และหากผ่านพ้นสถานการณ์รุนแรงในค่ำคืนวันที่ 19 พ.ค. ไปได้ จะบวชเป็นเวลา 1 พรรษา
วันนั้นนายศุภลักษณ์อยู่ในวัดจน กระทั่งถึงรุ่งเช้า ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้ามาช่วยเหลืออย่างปลอดภัย
เมื่อรอดมาได้ จึงบวชตามที่เคยแก้บนไว้

http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOakF4TURjMU13PT0=§ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1DMHdOeTB3TVE9PQ==

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน