http://www.bangkok-today.com/node/5788
วัน พฤหัสบดีที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ.2553 9:48 น.
เพราะทั้งรัฐบาล และศอฉ. ยืนยันในความจำเป็นในการสลายการชุมนุมบริเวณสี่แยกราชประสงค์ พร้อมพยายามสร้างความชอบธรรมในการที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 80 คน บาดเจ็บร่วม 2,000 คน ว่า เป็นเหตุสุดวิสัย เพราะมีผู้ก่อการร้ายอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม
ผล ก็คือ เมื่อรัฐบาลยืนยันว่าเป็นความสูญเสียจากเหตุก่อการร้าย จึงไม่เพียงทำให้ต่างชาติไม่กล้ามาเที่ยวประเทศไทย เพราะไม่อยากเสี่ยงกับประเทศที่มีผู้ก่อการร้ายเยอะแยะอย่างที่รัฐบาล และ ศอฉ. อ้าง
แต่ยังทำให้บรรดาบริษัทประกันภัยพากันปฏิเสธไม่ยอมจ่ายชด เชยค่าเสียหาย เพราะถือว่าหากเป็นกรณีก่อการร้ายแล้ว จะไม่มีการคุ้มครองอยู่ในกรมธรรม์ จึงกลายเป็นเรื่องใหญ่อย่างมากในขณะนี้
ถึง ขนาดที่นายสัก กอแสงเรือง นายกสภาทนายความแห่งประเทศไทย ต้องเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน โดย นายสัก ให้ข้อมูลกับนายอภิสิทธิ์ว่า ขณะนี้สภาทนายความรับเรื่องการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจาก เหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงไว้ 72 ราย มีมูลค่าความเสียหาย 180 กว่าล้านบาท
และรับเรื่องการช่วยเหลือด้านอุทธรณ์แก่ผู้ถูกดำเนิน คดีจากพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะสภาทนายความไม่ได้เลือกปฏิบัติ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีข้อโต้แย้งที่เป็นปัญหาเรื่องการชุมนุมว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการก่อการร้ายหรือจลาจล เพราะหากเป็นการก่อการร้าย บริษัทประกันภัยจะไม่จ่ายเงินทดแทนให้
และคณะกรรมการกำกับและส่ง เสริมการกำกับธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ก็บอกว่า ไม่มีหน้าที่ตีความคำว่า ก่อการร้าย
แต่สภาทนายความเห็นว่า ต้องแยกเหตุการณ์วันเวลา สถานที่ และกลุ่มที่ได้รับความเสียหายว่า เป็นการก่อการร้ายหรือไม่ ทั้งนี้ สภาทนายความอยากเห็นการสร้างบรรทัดฐานที่ คปภ. พิจารณาว่า กรณีเหตุการณ์ใดเข้าข่ายหรือไม่เข้าข่ายก่อการร้าย
ซึ่งเรื่องดัง กล่าวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า เรื่องการประกันภัยเป็นเรื่องที่รัฐบาลหนักใจมาตลอด เพราะรัฐไม่เพียงแต่ดูแลเฉพาะในแง่ประกันภัยเท่านั้น แต่ต้องดูแลมาตรการชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสต๊อกสินค้าที่ยังเป็น ปัญหาค่อนข้างมาก
“พูดตามตรงว่า ปัญหาทั้งหมดเกิดจากบริษัทในต่างประเทศที่จะไม่จ่ายเงิน หากเป็นเรื่องการก่อการร้าย ต้องเรียนว่า ไม่แน่ใจว่าการดำเนินการต่างๆ ของเราจะมีผลแค่ไหน เพราะสุดท้ายแล้วบริษัทประกันภัยในต่างประเทศก็จะบอกให้รอศาลตัดสิน ซึ่งข้อเรียกร้องที่ขอให้รัฐบาลระบุว่า ไม่ใช่การก่อการร้ายนั้น ขอเรียนว่า ต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริง”
โดยนายอภิสิทธิ์ แสดงความเห็นส่วนตัวว่า กรณี ห้างเซ็นเตอร์วัน คิดว่ามีความก้ำกึ่งที่สุด ขณะที่สยามและ เซ็นทรัลเวิลด์ ดูอย่างไรก็ไม่ใช่การจลาจล
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามแก้ไขปัญหา และหาทางให้บริษัทประกันภัยจ่ายเงินให้ผู้เสียหายให้ได้
“แต่เป็น การยากที่จะให้เราชี้ว่าเป็นการก่อการร้ายหรือไม่?”
มาขณะนี้บอกว่า เป็นเรื่องยากที่จะระบุ แต่ก่อนหน้านั้นทำไมรัฐบาลไม่เคยปรามการพูดของ ศอฉ. โดยเฉพาะบรรดาโฆษกที่ออกมาแถลงการณ์ซ้ำแล้วซ้ำอีกเรื่องการก่อการร้าย ... กลับปล่อยให้พูดจนกลายเป็น “ปากทำเหตุ” เช่นในขณะนี้
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น