แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

จับกุม ด้วยหลักฐานอะไร

โดย คุณวงค์ ตาวัน
ที่มา เวบไซต์ข่าวสด
19 กรกฎาคม 2553

เหตุผล หนึ่งที่รัฐบาลยังคงกอด พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ยอมปล่อย ก็เพื่อจะได้ใช้อำนาจทำอะไรก็ได้ตามปรารถนา ว่ากันตามอำเภอใจ

อย่าง ล่าสุด การจับกุมนายสุรชัย เทวรัตน์ หรือ หรั่ง ซึ่งอ้างว่าเป็นคนสนิทเสธ.แดง เป็นมือยิงเอ็ม 79 ระบุว่า ยิงทั้ง สน.ลุมพินี ยิงโน่นยิงนี่ 8-9 คดี

*นั่ง ดูข่าวมาหลายวัน ดูการแถลงของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ที่พูดข้างเดียว*

ขอ ถามคำถามเดียว ตามประสาประชาชนที่ไม่ได้กินแกลบ ตามประสาคนทำงานด้านข่าว ที่ทุกอย่างต้องขึ้นกับพยานหลักฐาน

ขอถามว่า หลักฐานในการจับกุมนายหรั่งคืออะไร

ดูมาหลายวันแล้ว ไม่มีหลักฐานแม้แต่ขี้เล็บ!!

ที่ไปกล่าวหาเขาเป็นตุเป็นตะ ยิงโน่นยิงนี่ แต่ไม่เคยเห็นว่าตำรวจนครบาลที่ไปจับกุม หรือดีเอสไอที่ควบคุมตัวดำเนินคดีอยู่ในขณะนี้ มีหลักฐานอะไรมารองรับ

ที แรกก็ออกข่าวเสมือนหนึ่งว่า ยอมรับสารภาพแล้ว ซัดทอดเสธ.แดงเสียด้วย

จน ลูก เสธ.แดง ต้องออกมาเตือนสติผู้ใหญ่ใจดำทั้งหลายว่า คนตายพูดไม่ได้ อย่ามาใส่ร้ายโยนบาปให้

*เมื่อนักข่าวไปถามนายหรั่งด้วยตัว เอง เขาก็ปฏิเสธว่าไม่เคยรับสารภาพ!!*

ฟังอย่างนี้แล้วต้อง ถือว่าเป็น กระบวนการยัดเยียดข้อหาและสร้างกระแสป้ายสีอย่างเลวร้าย

นี่ ไงคือ ตัวอย่างของการใช้อำนาจครอบจักรวาล ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะจับใครก็ได้ ตั้งข้อหารุนแรงอะไรก็ได้

จนต้องถามว่า แล้วอะไรคือหลักฐานที่ใช้กล่าวหาเขารุนแรงขนาดนี้

ในยุครัฐบาลไหน ถ้ามีการใช้อำนาจพิเศษ มาจับกุมคุมขังผู้คนโดยไม่มีพยานหลักฐานมารองรับ เยี่ยงกระบวนการยุติธรรมที่เป็นมาตรฐาน

เราต้องไม่ยอมรับ ต้องไม่ปล่อยให้ใช้อำนาจคุกคามสิทธิเสรีภาพประชาชนอย่างง่ายดายเช่นนี้ได้

แล้ว รัฐบาลต้องไม่ลืมว่า แม้จะมี พ.ร.ก.อำนาจล้นฟ้าทำอะไรตามใจชอบก็ได้ แต่ก็ยังมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดอยู่ มีมาตราที่คุ้มครองสิทธิผู้ต้องหาอย่างชัดเจน

ถึงขณะนี้ก็มีพยานหลัก ฐานชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่รัฐ ได้ละเมิดสิทธิของผู้ต้องหารายนี้อย่างโจ่งแจ้ง

เช่น คนระดับอธิบดีแถลงข่าว พูดเอาเองว่าเขาได้กระทำผิด 8-9 คดีต่อสาธารณะ ทั้งที่ขณะแถลง ไม่มีพยานหลักฐานแม้แต่ชิ้นเดียว

การแถลงข่าวอย่าง เป็นทางการของเจ้าหน้าที่รัฐ ยังโมเมเอาเองว่าผู้ต้องหายอมรับสารภาพ ถือว่าบิดเบือนความจริง

*ถ้าไม่ตายอย่างลึกลับเสียก่อน หรือถ้าไม่ยอมรับสารภาพเพราะทนเจ็บปวดไม่ไหว*

คดีนี้ถึงศาลเมื่อไร ได้สู้กันสนุก แค่เอาคำแถลงของดีเอสไอในวันนี้มาแสดงในศาล ก็บอกได้แล้วว่า

จับ กุมอย่างมิชอบตั้งแต่ต้น!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน