แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

มติ ศอฉ.เป็นเอกฉันท์ ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ คุม 24 จังหวัด



เผยผลประชุม ศอฉ.ชี้ยังมีความจำเป็นต้องมี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นเครื่องมือในการดูแลพื้นที่ทั้ง 24 จังหวัดต่อไป อ้างสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ ยังมีการบิดเบือนข่าวสารปลุกระดมมวลชนในท้องถิ่นต่างๆ รวมถึงอาวุธที่ถูกยึดไปบางส่วน ยังไม่ได้คืน

วันนี้ มติ ชนออนไลน์ รายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น.ที่กองบัญชาการกองทัพบก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เป็นประธานในการประชุมศอฉ. โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง ขาดเพียง พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศที่ติดภารกิจไม่ได้เข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลาในการประชุม 2 ชั่วโมง

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. แถลงผลการประชุมว่า ในที่ประชุม ศอฉ.พิจารณาเรื่องการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งเมื่อพิจาณาจากสถานการณ์ข้อเท็จจริงที่ปรากฏประกอบกับงานด้านการข่าว ต่างๆ ทั้งจากหน่วยงานด้านการข่าว กระทรวงมหาดไทย ตำรวจ และทหาร เมื่อให้น้ำหนักในเรื่องของการรักษาความสงบเรียบร้อยแล้ว ที่ประชุมมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า ศอฉ.ยังมีความจำเป็นต้องมีพ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นเครื่องมือในการดูแลพื้นที่ทั้ง 24 จังหวัดต่อไป เพราะศอฉ.ประเมินว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังคงไม่น่าไว้วางใจ ทั้งในเรื่องของการนำข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนไปจากความเป็นจริง มีการปลุกระดมมวลชนในท้องถิ่นต่างๆ อาวุธทางราชการที่ถูกยึดไปจากการชุมนุมของนปช.ครั้งที่ผ่านมา ยังไม่มีการส่งคืนให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ ทางหน่วยงานความมั่นคง ซึ่งเป็นฝ่ายข้าราชก่ารประจำจึงเสนอถึงความจำเป็น ในการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินดูแลความสงบเรียบร้อย ในพื้นที่ 24 จังหวัดต่อไป ซึ่งน่าจะส่งผลดีความสงบเรียบร้อยชาติบ้านเมือง และความมั่นทางด้านเศรษฐกิจด้วย ซึ่งในวันที่ 6 ก.ค.นี้ นายสุเทพ จะนำข้อเสนอดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาตกลงใจต่อไป

สำหรับ 24 จังหวัดที่มีการประกาศคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ได้แก่ จังหวัดกรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนครปฐม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดชลบุรี จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดลำปาง จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดน่าน จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุดรธานี จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดศรีษะเกษ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดสกลนคร จังหวัดกาฬสินธิ์ และ จังหวัดมุกดาหาร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน