Tue, 05/04/2010 - 09:06 | by sarapaheylo | Vote to close topic
เป็นบทความธรรมมะของท่านเจ้าคุณพิพิธ ผช.เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ ท่านเขียนไว้เมื่อไหร่ไม่ทราบ
แต่อ่านแล้วก็พอประมาณได้ว่าเมื่อไหร่ และไม่ว่าจะเขียนไว้เมื่อไหร่แต่เนื้อหาก็ยังใช้ได้ดี
พวกเราลองอ่านดูกัน สาระพาคิดว่าความเป็นธรรมกับธรรมะมันก็สิ่งเดียวกัน
เวลานี้หัวหน้ารัฐบาลแสดงทีท่าคล้ายจะหาทางออกเพื่อทุกฝ่าย แต่ไม่ทราบว่าจะจริงใจหรือไม่
พระท่านเทศน์ให้ทุกฝ่ายอย่างเป็นกลาง ท่านสรุปในตอนท้ายไว้ดี ถือเป็นการเตือนสติค่ะ
ตั้งใจ "สมานฉันท์" หรือ "ฟาดฟัน" รอบใหม่
จากกรณีแห่งความขัดแย้งทางการเมือง จนเกิดเป็นปัญหาความแตกแยกสามัคคีของบ้านเมือง ทำให้มองเห็นว่า...
"ไอ้ที่พูดว่าทำเพื่อบ้านเมือง ก็คือ ทำเพื่อมัน และทำเพื่อลูกผัวลูกเมีย"....เป็นการกระทำต่อบ้านเมืองที่ขาดความละอายใจ เป็นอย่างยิ่ง
การบริหารของรัฐบาล เมื่อเริ่มเข้ามาก็ประกาศ "แจก" ทั้ง ๆ ที่เงินก็ไม่มีหาเงินก็ไม่เป็น พอหมดหน้าตักก็ไปกู้จากต่างประเทศมาอีก 8 แสนล้าน
เอามาถลุงกันเพื่อสร้างภาพว่า "ข้าก็ไม่ด้อยไปกว่ารัฐบาลที่แล้ว" ประชาชบบางกล่มก็ยินดีกับากรเรียนฟรีที่ด้อยคุณภาพทางการศึกษา
โรงเรียนเป็นเพียงแค่โรงอาหารและสถานสงเคราะห์ หาใช่สถาบันการศึกษาที่จะพัฒนาเยาวชนสู่การพึงพาตนเอง และเป็นกำลังของชาติในอนาคตไม่
เอ้า... แจกเงินกันรายละ 2 พันบาท ตอนนี้ได้มีการติดตามประเมินผลของเงินทั้งหมดว่า ได้สร้างอะไรให้กับประเทศชาติบ้าง
คำตอบก็คือ..."รัฐบาลใจดี สร้างหนี้ให้แก่ประเทศชาติ"...วันใดที่หมดสภาพเป็นรัฐบาล หนี้สามานย์ก็ยังคงกองอยูกับประเทศชาติ
สงสารข้าราชการ คนทำงานสุจริต พ่อค้า ที่ต้องถูกรัฐบาลถอนขนห่าน คนเสียภาษีโดยสุจริตไม่ได้รับการดูแล แต่คนที่ขายสินค้าหนีภาษี
กลับมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องป้องกันและแบ่งปันผลประโยชน์ เข้าตัว (ใช่....ไม่ใช่....พ่อแม่พี่น้อง)
ทางการเมืองในฝ่ายรัฐบาลตั้งใจที่จะ "สมานฉันท์" แต่เวลาที่โฆษกรัฐบาล
(ขณะนี้ก็ยังไม่กล้าที่จะรับตำแหน่งเต็มตัว เป็นเพียงรักษาการ มันมีอะไรแอบแฝงอยู่หรือเปล่า)
แถลงข่าวก็เห็นมีแต่สร้างความแตกแยกให้แก่สังคม ผลงานของรัฐบาลไม่มี ก็เลยต้องคอยโจมตีฝ่ายอื่น
เมื่อสร้างชอบธรรมบนความเกลียดชังอีกฝ่ายหนึ่ง อีกทั้ง "โฆษกประตัวนายกรัฐมนตรี"พูดทีไรฉิบหายทุกที ทั้งหน้าตา กิริยา ท่าทาง
ดูไม่ไม่น่าที่จะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อนายกฯ คนจำนวนไม่น้อยที่พูดแนะ ติติง การพูดของ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ว่าเป็นดวงตา ท่าทางที่เยาะเย้ย
เสียดสี เหยียดหยาม แต่ลองดูโฆษกประจำตัวของนายก
อีกทั้งโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ทำหน้าที่อะไรในภาวะการที่ประเทศชาติต้องการการสมานฉันท์
จึงได้ยินคนทั่วไปเขาพูดถึงบรรดาโฆษกที่ทำหน้าที่แบบนี้ทุกรัฐบาลว่า...โฆษก ปรก โฆษกกะแบ โฆษกกะ ป...ย.
ที่พูดนี้หวังว่าจะได้รับความขุ่นเคือง แต่ใครก็ตามที่จะเป็นโฆษกจงคิดเถิดว่าท่านเป็นผู้มีหน้าที่จะต้องพูดให้ ประชาชนเขาได้รับประโยชน์ 4 ประการ คือ...
พูดให้เกิดปัญญา (สันทัสสนะ)
พูดให้กล้าปฏิบัติ (สมาทปนะ)
พูดให้กำจัดความชั่ว (สมุตเตชนะ)
พูดให้กลั้วเสียงหัวเราะ (สัมปหังสนะ)
****การสมานฉันท์โดยหลักของศาสนาและสังคมโลก อยู่ที่หลัก 4 ประการ คือ...
รู้ความพลั้งผิดที่กระทำไป
ขอโทษ
ให้อภัย
ไม่ขุดคุ้ยเรื่องเก่า
http://www.katitham.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538957863&Ntype=1
ผช.เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม(พระราชวิจิตรปฏิภาณ)ยังรู้เลยว่าทุก วันนี้มีมือที่3ไปห้ามคดีพันธมิตร
Tue, 05/04/2010 - 07:36 | by มีปัญหาไรอ๊ะป่าว* | Vote to close topic
จากข่าวเช้าช่อง9 เมื่อวาน (โพสต์ซ้ำอีกวัน ฟังธรรมมะตอนเช้า)
ตอนที่1 http://www.youtube.com/watch?v=zhd2Ft9FNnA
ตอนที่2 http://www.youtube.com/watch?v=ah8URqwDLA4
ตอนที่3 http://www.youtube.com/watch?v=nDp2tc4Jm44
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น