แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันพุธที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2553

พรรคแนวร่วมสังคมประชาธิปไตยเรียกร้องให้เลิกกฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

พรรคแนวร่วมสังคมประชาธิปไตยชี้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมีลักษณะเผด็จการ-อำนาจนิยม ชี้เลิกบังคับใช้ไม่พอ ต้องเลิกกฎหมายนี้ทั้งฉบับ เพื่อไม่ให้อำนาจแก่ผู้ปกครองคนใดควบคุม ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนได้อีกต่อไป และเพื่อคืนความปกติสุขให้แก่สังคม

เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา พรรคแนวร่วมสังคมประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์ให้ยกเลิกกฎหมายพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยแถลงการณ์มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

000

แถลงการณ์ขอให้ยกเลิกพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548: กฎหมายทำลายความเป็นมนุษย์

เหตุการณ์ปราบปรามผู้ชุมนุมด้วยอาวุธสงคราม ณ ใจกลางกรุงเทพฯ ที่ก่อให้เกิดการสูญเสียเลือดเนื้อจำนวนนับร้อยและบาดเจ็บอีกนับพันเมื่อ เดือนเมษายนและพฤษภาคม 2553 ได้สร้างความเจ็บปวดให้แก่ญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บและประชาชน ที่ชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ด้วยเหตุที่ถูกกล่าวหาจากฝ่ายรัฐว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ทำลายความมั่นคงของประเทศ จึงต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และนี่คือการรับรองให้รัฐบาลออกมาพูดว่าทำตามกฎหมายอย่างถูกต้อง มิหนำซ้ำยังบังคับใช้ในหลายๆ จังหวัดมาจนถึงปัจจุบัน

การที่รัฐบาลอ้างความสงบสุขเรียบร้อยและความมั่นคงภายในประเทศโดยกล่าวหา ประชาชนเรือนแสนที่ออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาลว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง หรือผู้ก่อการร้าย ไม่ละเว้นแม้กระทั่งนักเรียนอายุเพียง 16 ปีที่ออกมาประณามการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ของรัฐ โดยถูกออกหมายจับและนำไปกักขังที่สถานพินิจจังหวัดเชียงราย ทั้งติดตามไล่ล่าผู้ชุมนุมอย่างไม่ลดละ การกระทำเยี่ยงนี้สะท้อนให้เห็นถึงวิถีการปกครองของผู้มีอำนาจรัฐทั้งที่ เป็นผู้ออกกฎหมายและใช้กฎหมายที่มีลักษณะเผด็จการ-อำนาจนิยม โดยมองการชุมนุมและการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่เห็นต่างจากตัวเองว่าเป็นพิษ เป็นภัยต่อประเทศ จำต้องปราบปรามและกีดกันออกไปจากกระบวนการยุติธรรม พร้อมๆ กับทำลายความมั่นใจของคนที่ต้องการแสดงออกทางการเมือง ซึ่งถือว่าเป็นความ พยายามที่จะควบคุมประชาชนอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แทนที่จะพิจารณาถึงผลได้แก่ สังคมโดยรวมว่าการชุมนุมทางการเมืองและเสรีภาพที่จะพูด เขียนจะช่วยสร้างความเข้มแข็งทางการเมืองของประชาชนคนตัวเล็กๆ ที่เป็นองค์ประกอบของสังคมประชาธิปไตยในอนาคต

พรรคแนวร่วมสังคมประชาธิปไตยเล็งเห็นว่า รัฐบาลอำนาจนิยมย่อมหาทางสร้างกลไกทางกฎหมายเพื่อรับรองการกระทำใดๆ ของตัวเองว่าถูกกฎหมายและชอบธรรมต่อไปได้ ไม่ว่ากฎหมายนั้นจะตราออกมาอย่างไม่ถูกต้องตามกระบวนการทางรัฐสภา หรือขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญก็ตาม รัฐบาลก็ยังคงแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์ต่อประชาชนของตัวเอง เพื่อที่จะอยู่ในอำนาจต่อไป และปัดความรับผิดชอบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พรรคแนวร่วมสังคมประชาธิปไตยยอมรับการกระทำของรัฐบาลไม่ได้ และมองว่าการยกเลิกการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไม่เพียงพอ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก.บริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ทั้งฉบับโดยเร่งด่วน เพื่อไม่ให้อำนาจแก่ผู้ปกครองคนใดควบคุม ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนได้อีกต่อไป และเพื่อคืนความปกติสุขให้แก่สังคม

แถลงเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2553

พรรคแนวร่วมสังคมประชาธิปไตย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน