แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

สิริสกุล ใสยเกื้อ"หนีไม่ได้ ควรอยู่กับประชาชน"



Posted by คมชัดลึก
กว่า 3 เดือนที่ "แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ" (นปช.) ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ในข้อหา "ผู้ก่อการร้าย" หน้าห้องผู้ต้องขังที่เคยมี "ผู้หลักผู้ใหญ่" ของพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดงเดินทางมาให้กำลังใจ "ผู้ต้องหา"และ "ญาติ" อยากคึกคักเริ่มลดจำนวนลง เนื่องจากระยะเวลาการจองจำที่ยาวนานขึ้นนั่นเอง

แต่สำหรับคนในครอบครัวของ "แกนนำ นปช." ยังคงมาเยี่ยม "ญาติ" ที่ถูกคุมขังอย่างสม่ำเสมอ
"แก้ม" สิริสกุล ใสยเกื้อ ผู้เป็นทั้ง "เมียณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" และแม่ลูกสอง คือ "ช้างน้อย" ด.ช.นปก และ "ตราตรึง" ด.ญ.ชาดอาภรณ์ ใสยเกื้อ ยังคงเดินทางมาเยี่ยมสามีตามปกติ
หลังจากเดินออกจากห้องเยี่ยมผู้ ต้องหาพร้อมโยนก้อนกระดาษทิชชูลงทิ้งในถังขยะ แล้วหันมายิ้มทักทาย "นักข่าว" ที่ยืนรอสัมภาษณ์อยู่บริเวณหน้าห้องเยี่ยมเรือนจำผู้ต้องหา
ระหว่าง เดินกลับเพื่อไปขึ้นรถที่จอดรออยู่บริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร "แก้ม" ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งแต่ "ณัฐวุฒิ" ถูกคุมขังต้องเลี้ยงลูกสองคนเพียงลำพัง สมัยก่อนเมื่อตั้งท้องลูกชายคนโตยังทำงานอยู่ที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แต่เมื่อคลอดลูกชาย "น้องช้างน้อย" จึงตัดสินใจลาออกจากงานมาเลี้ยงลูกอย่างเดียว เพราะสามีแทบไม่มีเวลาอยู่กับลูกและครอบครัวเลย ถ้านับเวลา 1 ปี "ณัฐวุฒิ" อยู่บ้านเพียง 1 เดือนเท่านั้น ที่เหลือจะใช้เวลาอยู่กับคนเสื้อแดงเดินทางไปต่างจังหวัดตลอด
"เมื่อ ก่อนถามช้างน้อยรักคุณพ่อมั้ย ลูกชายจะตอบว่าไม่รัก เพราะพี่เต้น (ณัฐวุฒิ) ไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับลูก แต่เดี๋ยวนี้ถามว่ารักคุณพ่อมั้ย น้องช้างน้อยจะตอบว่ารักมากครับ ช่วงที่ชุมนุมพอถามว่าพ่อไปไหน เขาจะตอบว่าพ่อไปตามหาประชาธิปไตย แต่ตอนนี้จะบอกว่าพ่อไปทำงาน" แก้มกล่าวถึงลูกชายวัย 2 ขวบกว่า ด้วยแววตาและน้ำเสียงที่มีความสุข
พร้อม กับเล่าต่อว่า ตั้งแต่ "ณัฐวุฒิ" ถูกคุมขังมีโอกาสได้เจอหน้าลูกชายเพียงแค่ครั้งเดียวระหว่างถูกควบคุมตัว อยู่ที่ค่ายนเรศวร หลังจากนั้นไม่กล้าพาลูกไปหา เพราะกลัวเขาจดจำภาพพ่อที่ถูกล่ามโซ่แล้วเอามาถามตามวัยที่กำลังอยากรู้กลัว ทำใจไม่ได้
"แก้ม" เล่าว่า ไม่เคยห้ามณัฐวุฒิไม่ให้ไปทำกิจกรรมกับคนเสื้อแดง ซึ่งตัวเองก็ยังรู้สึกแปลกใจ แต่การชุมนุมของคนเสื้อแดงครั้งนี้รู้สึกกลัวกว่าทุกครั้ง "การชุมนุมครั้งนี้แก้มกลัวเขาตาย...(อึ้งไปพักใหญ่พยายามกัดริมฝีปากน้ำตา คลอเบ้า พร้อมกับยกแขนที่ขนลุกชันให้ดู) การชุมนุมตอนแรกต้นเดือนมีนาคมก็ไม่รู้สึกอะไร แต่พอช่วงหลังท้องแก่ลูกคนที่สองใกล้คลอด เพราะคลอดวันที่ 10 พฤษภาคม ก็เริ่มรู้สึกกลัวว่าลูกจะได้เจอหน้าพ่อมั้ย ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ยิงกันเมื่อวันที่ 10 เมษายน และช่วงพฤษภาคมก็มียิงที่โน่นที่นี่ตลอดก็เริ่มคิดในใจว่า จะถึงวันที่ 10 พฤษภาคมหรือเปล่า คิดตลอดกลัวว่าเขาจะตาย เพราะการชุมนุมครั้งนี้ไม่เหมือนเมษายนปีที่แล้ว ครั้งนี้รุนแรงกว่ามาก"
เมื่อ ถามว่าเมื่อห่วงว่าสามีจะตายแล้วเคยห้ามสามีไม่ให้ไปชุมนุมหรือขึ้นเวที เสื้อแดงหรือไม่ "แก้ม" ตอบเสียงดังว่า ใช่ก็ยังแปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมไม่ห้ามพี่เต้น พี่ก็งงตัวเอง หรือยุ่งกับลูกมากไปหรือเปล่า เวลาโทรศัพท์พูดคุยกันน้อยมาก แต่โทรหากันทุกวัน ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมจนสลายการชุมนุมกลับบ้านไม่เกิน 10 ครั้ง เพราะกินนอนที่ชุมนุม มีอยู่ครั้งเขาอยากเจอลูกชายจึงขับรถพาลูกไปหาที่ชุมนุมแล้วก็พาลูกกลับ
มี คนมองว่าเป็นคนใจเด็ด แต่สำหรับลูกสาวกำนันอย่าง "แก้ม" ซึ่งอยู่กับเรื่องการเมืองท้องถิ่นมาตั้งแต่เด็กจึงมองการเมืองและการชุมนุม เป็นเรื่องปกติ "พ่อเป็นกำนัน (ปัจจุบันอายุ 80 ปี เป็นเพื่อนรักกับคุณพ่อของสุเทพ เทือกสุบรรณ) พ่อเป็นนักเลงสมัยโบราณ เป็นคนมีชื่อเสียงในจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงมองว่าเรื่องที่พี่เต้นทำอยู่ไม่ต่างจากชีวิตเดิมสมัยอยู่สุราษฎร์ธานี แต่ส่วนตัวไม่สนใจการเมือง และไม่เล่นการเมืองแน่นอน เพราะเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 6 ที่ณัฐวุฒิขาดคุณสมบัติ ทางพรรคเพื่อไทยจะให้ "แก้ม" ลงแทน เพราะเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เด็กเรียนที่โรงเรียนสตรีวิทยา ตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
"อยู่แค่นี้พอแล้ว แก้มเป็นคนตรงไปตรงมา เพราะการเมืองคิดว่าไม่ค่อยตรงไปตรงมาเท่าไหร่ ไม่ชอบการเมือง 100% แต่ชีวิตนี้เกี่ยวพันกับนักการเมืองมาตลอด ตั้งแต่พ่อ ลุง และตอนสมัยที่พี่เต้นลงสมัคร ส.ส.ยังสนับสนุนเงินอีกด้วย พี่แก้มไม่เหมาะเป็นนักการเมือง และครอบครัวเลี้ยงดูมาแบบไม่มีความแข็งแกร่งพอที่จะโดนอะไร เพราะครอบครัวมีฐานะ แต่ไม่ได้รังเกียจนักการเมือง ส่วนตัวเป็นคนพูดไม่เป็นไปช่วยหาเสียงให้พี่ก่อแก้ว พิกุลทอง ขึ้นเวทีกว่าจะพูดนานมาก พอขึ้นเวทีพูดประโยคเดียวว่าช่วยพี่ก่อแก้วด้วยนะคะ แค่นั้น แต่กับเพื่อนจะเป็นคนคุยสนุก"
"แก้ม" เล่าถึงบรรยากาศวันคลอดลูกสาวน้องตราตรึง วันที่ 10 พฤษภาคมให้ฟังว่า วันคลอดเพื่อนพาไปคลอด พี่เต้นบอกจะมาวันคลอดก็บอกไปว่าอย่ามาเลย เดี๋ยวถูกจับ และกลัวถูกยิง แต่วันนั้นพี่เต้นไปถึงโรงพยาบาลก่อน พอพี่เห็นหน้าเขาก็ดีใจจนน้ำตาไหล เขาใส่ชุดเหมือนหมอรออยู่ภายในห้องทำคลอดก่อนแล้ว ขนาดลูกชายยังคิดว่าพี่เต้นเป็นคุณหมอ เมื่อคลอดลูกหมอก็นำลูกไปยังห้องพักเด็กอ่อนก่อน ยังอุ้มไม่ได้ ทุกวันนี้พี่เต้นยังไม่เคยอุ้มลูกสาวเลย เพราะต้องกลับไปที่เวที
เมื่อ ถามว่า ตั้งแต่ "ณัฐวุฒิ" ถูกคุมขังในเรือนจำ "ผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทย" หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์มาหาบ้างหรือไม่ "แก้ม" คิดอยู่นานก่อนจะตอบว่า ไม่เคยโทรศัพท์มาหาแก้มโดยตรง มีคนสื่อสารมาบอก เช่น พี่ตู่ (จตุพร พรหมพันธุ์) บอกว่านายกฯ ทักษิณ เป็นห่วงนะ ให้กำลังใจ แต่ท่านเคยโทรมาหาเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ในนามพรรค ปีที่แล้วก็มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งถามว่าลำบากมั้ย มีอะไรให้ช่วยเปล่า ก็บอกไปว่าไม่มี ปีนี้ไม่ได้ถามอะไร
แต่ถ้าให้เลือกระหว่างสามีถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเหมือนเช่นทุกวันนี้ กับหลบหนีการจับกุมไปอยู่ต่างประเทศ "แก้ม" ตอบทันทีว่า "หนีไม่ได้ เลือกแบบนี้ เพราะว่าพี่เต้นควรอยู่กับประชาชนจนสุดท้าย ไม่ใช่ว่าคนอื่นผิด พี่เต้นโชคดีมีคนรักเขามาก เขาต้องแสดงน้ำใจกับคนที่รักเขา ถูกต้องมั้ย แต่คนอื่นไปไม่ใช่ว่าคนอื่นผิด แก้มพูดเฉพาะตัวพี่เต้น พี่เต้นควรอยู่ แม้ว่าคุณจะต้องตายคุณก็ต้องอยู่ คนเสื้อแดงเวลามาเขารักแม้กระทั่งแก้ม ขนาดแก้มไม่เกี่ยวยังรัก มาถึงแก้มสมควรแล้วที่พี่เต้นอยู่
"แก้ม" เล่าย้อนถึงเหตุการณ์วันที่ 19 พฤษภาคม ที่สามีผ่านทางทีวีอยู่บนเวทีครั้งสุดท้ายก่อนเข้ามอบตัวว่า มีคนลากเขาลงจากเวทีแล้วเขาก็ยังขึ้นมาพูดบนเวทีใหม่ คิดในใจว่าลงจากเวทีซะที บอกประชาชนให้เข้าใจแล้วลงจากเวทีอย่าตายเลย กลัวเขาตาย ขอให้เขารอด แต่คิดว่าแม้ว่าอยากให้เขารอด แต่เขาก็ไม่ควรหนีออกนอกประเทศ
"พี่คิดถูกที่เลือกเขา เพราะเป็นคนคบได้ ไม่ทิ้งใคร เป็นคนจริงใจ เหตุการณ์ที่เกิดไม่ได้เจ็บแค้นใคร เพราะทุกคนทำเพื่อส่วนรวม กับพี่ป๊อก (พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก) ก็ยังพูดคุยกันเหมือนเดิม เพราะเรียนปริญญาโทที่นิด้า (สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์) รุ่นเดียวกัน แต่คิดว่าทำไมต้องทำรุนแรงกันถึงเพียงนี้ หลังเหตุการณ์ที่ผ่านฟ้า ไม่คิดว่าจะมีการฆ่ากันอีกรอบ และทุกวันนี้หวังให้เขาออกจากที่คุมขังให้เร็วที่สุด แต่พี่เต้นบอกว่าอย่าไปหวังรายวัน เดี๋ยวจะผิดหวังกลายเป็นว่าเขากลับเป็นคนให้กำลังใจเรา"
แม้ว่า "ณัฐวุฒิ" จะถูกคุมขังแต่ก็ยังมีเรื่องที่ทำให้ "แก้ม" ได้ชุ่มชื่นหัวใจ นอกจากลูก 2 คนแล้ว ทุกวันที่มาเยี่ยมสามีที่เรือนจำ สามีจะบอก "รัก" ทุกครั้งที่มาเยี่ยม ทั้งที่เมื่อก่อนไม่ค่อยเอ่ย "คำนี้" บ่อยนัก สิ่งนี้เอง "แก้ม" บอกว่า ดีเหมือนกันวิกฤติครั้งนี้ถือเป็นโอกาสได้ยินคำว่ารักจากปากสามีทุกครั้งที่ มาเยี่ยม
สมถวิล เทพสวัสดิ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน