แถลงการณ์
ศูนย์ประสานงานกลาง นปช. แดงเชียงใหม่
“ วันที่ 26 ส.ค. เป็นวันสองมาตรฐานแห่งชาติ ”
ศูนย์ประสานงานกลาง นปช. แดงเชียงใหม่
“ วันที่ 26 ส.ค. เป็นวันสองมาตรฐานแห่งชาติ ”
วันที่ 26 ส.ค. ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในวันนี้เมื่อสองปีที่แล้ว วันที่ 26 ส.ค. 2551 กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้บุกเข้ายึดสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ทำเนียบรัฐบาลและสถานที่ราชการหลายแห่ง สร้างความเสียหายจนประเมินค่าไม่ได้ ความเสียหายที่ร้ายแรงเหล่านี้ นำไปสู่ความขัดแย้งแตกแยกอย่างรุนแรง จนนำมาสู่ปัญหาสองมาตรฐานของสังคมไทย และเป็นเหตุนำไปสู่การเคลื่อนไหวต่อสู้ของกลุ่มคนเสื้อแดง จนในที่สุดจบที่โศกนาฏกรรมการสังหารหมู่ ที่สี่แยกราชประสงค์ ในวันที่ 19 พ.ค. 2553
จนถึงทุกวันนี้การดำเนินคดีต่อกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่มีความคืบหน้า แต่กลับถูกปกปิด ไม่มีการดำเนินคดีใดๆ และยังมีการเตะถ่วงคดีต่างๆ โดยการโอนเข้าไปที่กรมสอบ สวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ที่เห็นแล้วว่ามีพฤติกรรมเลือกข้าง มีอคติ และรับใช้ทางการเมืองมากกว่าการดำเนินการด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม บรรดาแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ยังแสดงบทบาทการเคลื่อนไหวทางการเมือง รวมทั้งเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มพันธมิตรฯไปชุมนุมหน้ากองทัพภาค 1 กดดันให้รัฐบาลผลักดันชาวกัมพูชาตลอดแนวชายแดนไทยและเรียกร้องให้ยกเลิกเอ็ม โอยู 43 ทั้งที่รัฐบาลยังประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯอยู่
แตกต่างจากการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่สะพานผ่านฟ้าและราชประสงค์ ที่ต่อมามีการจับกุมดำเนินคดีแกนนำ นปช. 25 คน และไล่จับแกนนำอื่นๆกว่า 400 คน ทั้งที่หลายคนเป็นความผิดเล็กน้อย เช่น ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ศาลสั่งลงโทษสถานหนักให้จำคุกทันที ส่วนความผิดของกลุ่มพันธมิตรฯ ในข้อหาพยายามฆ่าตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ ศาลลงโทษสถานเบารอลงอาญา ถือว่าสองมาตรฐาน กลายเป็นความอัปยศในแผ่นดินไทย นำมาซึ่งความรุนแรงในสังคมไทยและสร้างความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชนคนไทย ทั่วทั้งประเทศ
ดังนั้นจึงถือได้ว่า “ วันที่ 26 ส.ค. เป็นวันสองมาตรฐานแห่งชาติ ” เพราะเป็นวันแห่งต้นกำเนิดความขัดแย้งของสังคมไทย จนนำมาสู่ความยุติธรรมอำมหิตในสังคมไทยตอนนี้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ได้ประกาศจะสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย แต่การกระทำที่ผ่านมานอกจากโวหารที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ การกระทำและสั่งการบางเรื่องยังขัดกับคำพูด อย่างเช่นการไล่ล่าจับกุมแกนนำ นปช. แต่กลับไปขึ้นเวทีของกลุ่มพันธมิตรในการชุมนุมที่ขัดกับ พรก.ฉุกเฉิน ซึ่งก็คือการไปเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนั่นเอง
เราจึงเห็นพ้องต้องกันว่า หากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่จะอยู่ในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยที่แท้จริง ต้องการสร้างความปรองดองสมานฉันท์อย่างแท้จริง จะต้องใช้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสนับสนุนสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม ขจัดการใช้กฎหมายอย่างสองมาตรฐานให้หมดไปจากสังคมไทย นำผู้กระทำความผิดทุกคนเข้าสู่กระบวนการสอบสวนและพิพากษาอย่างยุติธรรมเท่า เทียมกัน ไม่ใช้อารมณ์แค้นเคืองส่วนตัวตั้งข้อหาต่อฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่ยุติธรรม หากจะปล่อยให้กลุ่มพันธมิตรที่กระทำความผิดมีโอกาสต่อสู้ข้อกล่าวหาอยู่ภาย นอกที่กุมขัง ก็ต้องให้โอกาสต่อกลุ่ม นปช.โดยปล่อยตัวออกไปต่อสู่ข้างนอก และหากยังจะกุมขังกลุ่ม นปช.อยู่ในคุกตะราง ก็ต้องเร่งดำเนินการกับคดีของกลุ่มพันธมิตรให้พวกเขาไปต่อสู้กับข้อกล่าวหา อยู่ในคุกตะรางเฉกเช่นกัน
การจะนำพาประเทศชาติไปสู่ความรุ่งเรืองสงบสุข เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีโดยตรง การสร้างความยุติธรรมที่เท่าเทียมจะนำไปสู่ความรุ่งเรืองสงบสุขนั้น การเป็นนายกรัฐมนตรีต้องเป็นเพื่อประชาชนทุกหมู่เหล่า หากจะเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อกลุ่มพันธมิตรเท่านั้น ประชาชนคนไทยเรา ขอให้ท่านลาออกไปจากตำแหน่งที่ทรงคุณค่า ที่ต้องมีวุฒิภาวะ มีคุณธรรมนี้ อย่าได้สร้างเวรสร้างกรรมให้ประชาชนและประเทศชาติต่อไปอีกเลย
ชาวเชียงใหม่ผู้รักความเป็นธรรม และรักประชาธิปไตย
http://www.internetfreedom.us/showthread.php?tid=5072
http://www.internetfreedom.us/showthread.php?tid=5098
Credit : Dang Konthaiuk
ประมาณ9 โมงเช้าพวกเรารวมตัวกันที่ สวนหลวง ร9 ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากศาลากลางนัก แล้วก็เคลื่อนพลไปยังศาลากลางประมาณ 10 .30 น ซึ่งก็มีนายตำรวจเพียบ ๆๆๆ จริงๆ ผับผ่าเหอะ เอามาอะไรกันนักกันหนาก็ไม่รู้
งานนี้ก็ต้องขอบคุณ "ลุงยิ้มยูเค" ที่มาช่วยสร้างสีสรรค์และอนุเคราะห์กรงขังให้ด้วยพร้อมแนวคิดในเชิงสัญญาลักษณ์
ท่านผู้กำกับคนเดิม ท้องอืดท้องเฟ้อ กินไม่ได้นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ถ่ายไม่ออก 5555 เมื่อเสื้อแดงเคลื่อนไหวทีไร ต้องเป็นท่านทุกทีที่รับหน้าที่ดูแลประสานงาน ถึงกับมีเสียงลอดออกมาว่า "เฮ้อหยุดให้หายใจกันบ้างซฺ " อ้าวท่านเราหยุดช่วง พรก มาให้ท่านหายใจกันจนอิ่มหนำสำราญใจยังไม่เพียงพออีกหรือท่าน
สืบเนื่องจากกระทู้ ของแดงเชียงใหม่ที่เอาแถลงการณ์มาไว้ให้อ่านก่อนออกเดินทางไปยื่นที่ศาลา กลาง เชียงใหม่นะคะ ขอยกขึ้นมาใหม่ค่ะ เนื่องจากกระทู้ไหลไวไปนิดค่ะ
ในการไปยื่นครั้งนี้ก็มีการแสดงจำลอง การถูกจองจำ และการถือป้ายต่างๆให้เห็นระบบสองมาตราฐาน ที่มีในประเทศไทย รวมทั้งเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษการเมือง ซึ่งก็มีพี่น้องมวลชนไปร่วมแสดงพลังกันเป็นจำนวนมากตามที่เราต้องการ เมื่อเสร็จงานก็แยกย้ายกันกลับโดยไม่มีเหตุการณ์ใดๆที่ทางราชการวิตก เกณฑ์ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบมาเพียบ
เอ๊า ตำรวจก็ได้เบี้ยเลี้ยงกันทั่วหน้าไม่ได้เหนื่อยอะไรสักหน่อยจริืงไหมท่าน
ช่วยผมด้วย ผมถูขังลืมแน่เลยครับ
มันเล่นทั้งฆ่า ทั้งขังเลยนี่หว่า
กูแค่มาขอยุบสภา มึงมาสั่งฆ่ากูทำไม!!!!!!
ผูกผ้าดำที่กรงขังผู้ต้องหา
สักพัก ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ก็ได้ลงมารับหนังสือ ที่มีเนื้อหาตามที่โพสต์ไว้ข้างบน
พร้อมกับมีเสียงตะโกนว่า " ว่าที่ผู้ว่าคนต่อไปของเชียงใหม่ เย้ๆๆ"
บ้างก็บอกว่า ยื่นผ้าดำให้ท่านผูกที่กรงขังหน่อยซิ !!!!
เสียงบอกว่า อย่าเลยเดี๋ยวท่านโดนไปอยู่ 3 จังหวัดภาคใต้หรอก ฮ่าๆๆๆๆๆๆ !!!
ตำรวจไม่เหนื่อย มายืนรอเบี้ยเลี้ยง "แจกให้ทั่วนะให้ถึงชั้นผู้น้อยบ้างจริงๆ"
รู้ว่าพวกที่ถ่ายนี่บางคนก็แฝงมา แบบนี้ง่ะ !!!
อันนี้เปล่าแฝงมาน๊า!!!!
ท่านรองผู้ว่าที่รับหนังสือเสร็จก็โอภาปราศรัยกับพวกเรา เล็กน้อยก่อนที่จะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของใครของมัน
งานนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีก็จากความร่วมมือของ แดงเชียงใหม่ทุกกลุ่ม แกนนำย่อยทุกระดับ ทั้งอำเถอ ทั้งหมู่บ้าน และเหล่านักรบไซเบอร์ ตากล้องช่างภาพ ช่างเทคนิค ซึ่งตอนนี้ทางเราก็ต้องขอบคุณที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ลุงแดงแด้งแดง หรือลุงยิ้ม ยูเค ที่ร่วมงานกับอาจารย์ สมยศ และบก ลายจุด เดินทางมาช่วยและจัดอุปกรณ์ให้เราอย่างเต็มที่อีกทั้งรอช่วยประสานงานในวัน ที่ 19 กันยายน คาดว่าจะเป็นงานระดับบิ๊กของเชียงใหม่อีกงานหนึ่ง แต่ยังแจ้งพิกัดไม่ได้ มีคนจ้องตาเป็นมันอยู่อิอิอิ
ขอบคุณพี่น้องมวลชนทุกท่านที่หัวใจสีแดงที่จะมาร่วมแรงร่วมใจกันขับเคลื่อน และเดินต่อไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่น ในนามของ "แดงเชียงใหม่"
อย่าลืม วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม 2553 เวลา 16.00 น เป็นต้นไปพบกับเวทีประชาธิปไตยที่ข่วงประตูท่าแพ เหมือนเดิม นะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น