แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2553

จากโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัมถึงนายอภิสิทธิ์/รัฐบาลไทย


เมื่อ วันที่ 17 และ 18 สิงหาคม สมาชิกในรัฐบาลไทยหลายคน รวมถึงนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรมว.ต่างประเทศได้ตอบจดหมายที่ผมได้ส่งไปในวันที่ 10 สิงหาคม โดยจดหมายฉบับนี้ผมได้ส่งไปในนามของเหยื่อซึ่งถูกสังหารจากการสลายการชุมนุม ของรัฐบาลในเดือนเมษายนและพฤษภาคมที่ผ่านมา

ผมได้ส่งจดหมายฉบับนี้เพื่อทวงถามคำตอบจากคำถามหลายข้อในจดหมายที่เราได้ ส่งไปเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน โดยเนื้อความในจดหมายฉบับก่อนมีรายละเอียดที่ย้ำเตือนถึงหน้าที่ของรัฐบาล ที่ต้องจัดให้มีการสอบสวนเหตุการณ์การสังหารประชาชน อันเป็นพันธกรณีของรัฐบาลไทยภายใต้สนธิสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยเรื่อง สิทธิพลเรือนและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ขององค์สหประชาชาติที่ประเทศไทยได้ลงนามไว้ นอกจากนี้เรายังได้กล่าวถึงสิทธิของผู้ถูกกล่าวหาในการเข้าถึงและตรวจสอบ หลักฐานทางคดีอย่างเป็นอิสระ

เนื่องจากมีสมาชิกของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หลายคนถูกจับกุมและกล่าวหาในข้อหาหาการร้าย ดังนั้นรัฐบาลไทยมีพันธกรณีภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศซึ่งบัญญัติว่าทนายและ ผู้ปรึกษาด้านกฎหมายของผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิในการเข้าถึง“เอกสารรัฐบาลหรือ กองทัพที่เกี่ยวข้องและครอบคลุมถึงยุทธศาสตร์ การสั่งการ คำสั่งโดยวาจาหรือที่เป็นลายลักษณ์อักษร ข่าวกรอง การละเอียดการสอบสวน หรือรายงานของผู้เชียวชาญที่เจ้าหน้ารัฐไทยใช้เตรียมการ แถลงการณ์ ในการสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง” นอกจากนี้เรายังได้ร้องขอเอกสารที่ระบุถึงสายบัญชาการในกองทัพซึ่งได้รับมอบ หมายให้ทำการควบคุมและสลายการชุมนุมเหล่านี้ด้วย

ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา รัฐบาลจงใจเพิกเฉยที่จะตอบสนองข้อเรียกร้องดังกล่าว นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์กล่าวว่ายังไม่ได้อ่านจดหมายฉบับดังกล่าว แม้วเราได้ส่งสำเนาจดหมายฉบับดังกล่าวหลายสำเนาไปยังสำนักงานของนายก รัฐมนตรีแล้วก็ตาม แทนที่จะตอบสนองข้อเรียกร้องดังกล่าว นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์กลับสบประมาทเรื่องส่วนบุคคลและยกเหตุผลที่หลักลอย ขึ้นมาอ้างเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบของรัฐบาลซึ่งมีหน้าที่ที่จะ ต้องปฏิบัติตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยเรื่องของสิทธิพลเรือนและสิทธิ ทางการเมือง ทั้งนายปณิธานและนายชวนนท์อ้างว่าสิทธิของผู้ชุมนุมเสื้อแดงไม่ได้ถูกละเมิด แต่อย่างใด แต่แทนที่จะกล่าวว่าจะปฏิบัติตามบทบัญญัติในสนธิสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วย เรื่องของสิทธิพลเรือนและสิทธิทางการเมือง กับยกเอาเรื่องสถานภาพทางกฎหมายของผมซึ่งเป็นชาวต่างชาติขึ้นมาอ้าง

ผมรู้สึกผิดหวังที่รัฐบาลไทยละเลยโอกาสในการเริ่มต้นที่จะแสดงความรับผิด ชอบต่อเหยื่อจากการสลายการชุมนุม และยังถอยห่างจากแนวทางการปรองดองสมานฉันท์ด้วยการเลื่อนตำแหน่งให้กับนาย ทหารและตำรวจที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารประชาชน นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์และคณะได้ปฎิเสธอย่างชัดเจนว่าจะปฏิบัติตามกฎหมาย ระหว่างประเทศที่ต้องเคารพในหน้าที่ที่จะต้องสอบสวนและดำเนินคดีกับผู้ที่มี ส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของประชาชนกว่า 80 ราย

การกระทำของรัฐบาลแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างความสับสนยุ่งยาก และความไม่เต็มใจที่จะแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดีอันสำคัญเร่งด่วนนี้ และความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบเป็นให้หลายคนสรุปว่าพยานหลักฐาน เหล่านั้นอาจจะส่งผลให้เกิดความยุ่งยากทางการเมืองอันกระทบต่อการรักษาไว้ ซึ่งอำนาจส่วนตัวของเหล่าอำมาตย์

ประชาคมโลกจะไม่เพิกเฉย หากรัฐบาลไทยละเมิดพันธกรณีของตนเองภายใต้สนธิสัญญาระหว่างประเทศอย่างสนธิ สัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยเรื่องของสิทธิพลเรือนและสิทธิทางการเมือง การที่รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศสนับสนุนการดำเนินคดีอาชญากรรมสงครามในพม่าเมื่อ ไม่นานมานี้ ย้ำให้เห็นถึงการกระทำที่เป็นภัยของเหล่าอำมาตย์ในประเทศไทย

นี่ไม่ใช่การอภิปรายว่ารัฐบาลไทยมีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติต่อพลเรือนของ ตนเองอย่างไร หน้าที่การสอบสวนและดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดนั้นได้รับการเคารพมายาวนานภา ยใต้กฎหมายระหว่างประเทศ การไม่ดำเนินคดีแก่เหล่านายทหารและกลุ่มอำมาตย์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ เหตุการณ์ความรุนแรงนี้แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งกับภาพลักษณ์ที่ประเทศไทย พยายามจะรักษาเอาไว้

แผนการของรัฐบาลนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการปฎิเสธ หลีกเลียง และสร้างสถานการณ์ความตึงเครียดเพื่อเป็นข้ออ้างในการใช้อำนาจเผด็จการ ซึ่งทำให้หลายฝ่ายแสดงการคัดค้านและความกังวลในการกระทำของรัฐบาล รัฐบาลอ้างอย่างผิดๆว่าการเรียกร้องนี้เป็นการทำลายชื่อเสียงประเทศไทย ดังนั้นหากรัฐบาลอภิสิทธิ์ต้องการที่จะอ้างว่าตนเป็นตัวแทนของประชาชนไทย มีหนทางเดียวที่จะสามารถอ้างเช่นนั้นได้ คือ นายอภิสิทธิ์และคณะต้องชนะการเลือกตั้งที่อิสระและเป็นธรรม

http://robertamsterdam.com/thai/?cat=7

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน