แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เชิญร่วมกิจกรรม “ดำทั้งแผ่นดิน ขจัดสิ้นสองมาตรฐาน”

“ดำทั้งแผ่นดิน ขจัดสิ้นสองมาตรฐาน”

จากเหตุการณ์ยึดอำนาจล้มระบอบประชาธิปไตยเมื่อ 19 กันยายน 2549 จนถึงการบุกสถานนีโทรทัศน์ NBT ปิดถนนราชดำเนิน ยึดทำเนียบรัฐบาล เป็นต้นแบบของม๊อบมีเส้น จนกลายเป็นปัญหาสองมาตรฐานที่ทำให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกอย่างรุนแรงในสังคม ไทย
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล และ พล ต.จำลอง ศรีเมือง เริ่มชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2551 ต่อมาได้ปักหลักยึดถนนราชดำเนินนอก เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่าการชุมนุมเดินขบวนครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้ครั้งสุด ท้าย เพื่อปกป้องราชวงศ์จักรีและสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยกล่าวหาว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นแบบสาธารณรัฐ
การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ สร้างความเสียหายยับเยินให้กับสังคมไทยชนิดประเมินค่าไม่ได้ เป็นการกระทำความผิดร้ายแรง ทำให้การท่องเที่ยวและการลงทุนตกต่ำ ตั้งแต่วันแรกของการบุกยึดทำเนียบรัฐบาลแล้ว แต่จนถึงทุกวันนี้เวลาผ่านล่วงเลยมาสองปีแล้ว การดำเนินคดีเป็นไปด้วยความล่าช้า ไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย มีการสั่งย้ายตำรวจที่รับผิดชอบดำเนินคดีของพันธมิตรฯ อาทิเช่น เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2552 เมื่อ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร. เผยคดียึดสนามบินคืบหน้า 70% จะออกหมายจับพันธมิตรฯ ภายใน 1 เดือน แต่ทว่าในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2552 รัฐบาลอภิสิทธิ์ได้สั่งย้ายตำรวจคุมคดียึดสนามบินเข้ากรุ พล.ต.อ.จงรัก จึงพ้นหน้าที่ในการคุมคดี การดำเนินคดีจึงเป็นไปอย่างล่าช้าอืดอาด
บรรดาแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ผู้ต้องหาทั้งหมด ยังแสดงบทบาทการเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างสม่ำเสมอ แม้กระทั่งได้ก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่ ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา กทม. ได้ตามปกติ แม้กระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2553 กลุ่มพันธมิตรฯ ไปชุมนุมหน้ากองทัพภาค 1 กดดันให้รัฐบาลผลักดันชาวกัมพูชาตลอดแนวชายแดนไทย และเรียกร้องให้ยกเลิกเอ็มโอยู43 ทั้งที่รัฐบาลยังประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉินอยู่
แตกต่างไปจากการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่สะพานผ่านฟ้า และราชประสงค์โดยสิ้นเชิง มีการจับกุมดำเนินคดีแกนนำ นปช. 25 คน ไล่จับแกนนำอื่นๆ อีกกว่า 400 คน ภายในเวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น หลายคนแม้เป็นความผิดเล็กน้อยเช่นฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน ศาลสั่งลงโทษสถานหนักให้จำคุกทันที ส่วนความผิดของกลุ่มพันธมิตรฯ ในข้อหาพยายามฆ่าตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ศาลลงโทษสถานเบารอลงอาญา
ปัญหาสองมาตรฐานกลายเป็นความอัปยศในแผ่นดินไทย นำมาซึ่งความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งมีจุดเริ่มต้นในวันคล้ายวันเกิดของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เมื่อ 26 สิงหาคม 2551 จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมกันแต่งชุดดำประท้วงสองมาตรฐานของเมืองไทย ภายใต้คำขวัญที่ว่า “ดำทั้งแผ่นดิน ขจัดสิ้นสองมาตรฐาน” ระหว่างวันที่ 24-26 สิงหาคม 2553 โดยให้ทุกคนทุกกลุ่มเขียนข้อความตามสถานที่ต่างๆ ประจานปัญหาสองมาตรฐาน
กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย
กลุ่มนักรบไซเบอร์เพื่อประชาธิปไตย
เครือข่าย Face Book เพื่อความเสมอภาค


แนวทางการดำเนินกิจกรรม

1. แต่งชุดดำ ระหว่างวันที่ 24-26 สิงหาคม 2553
2. รูปโปรไฟล์ FB เปลี่ยน Logo ชูคำขวัญ “ดำทั้งแผ่นดิน ขจัดสิ้นสองมาตรฐาน”
3. พ่นสีข้อความ
4. ประดับธงดำหน้าบ้าน หรือผูกผ้าดำศาลพระภูมิ

พี่แดงจ้ำคะ อยากให้ทำรูปโปรไฟล์ที่ใช้เป็นแบบเดียวกันอ่ะค่ะ ช่วยออกแบบให้น้องๆด้วยค่ะ ในความคิดปัทคือทำแบ็คกราวด์สีดำ แล้วมีข้อความสีแดงค่ะ






รูปแบบป้ายโปสเตอร์ภาษาไทย (สามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบ หรือหารูปภาพใส่ลงไป)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน