ลานประตูท่าแพ หรือข่วงประตูท่าแพที่เป็นลานทำกิจกรรมวันนี้ "กว่าจะได้จัดก็พบกับอุปสรรคต่างๆนาๆ ที่ต้องตามแก้ปัญหามาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ 20 ส.ค53 จนดึกดื่น นึกว่าเรียบร้อยแล้ว มาวันจัดงานก็เหมือน ว่าการเกิดเป็นคนเสื้อแดงนี่ ทำอะไรก็ต้องดิ้นรนต่อสู้ทุกทางจริงๆ นะคะ เดี๋ยวจะเล่่าให้ฟังค่ะ เกือบท้อเสียหลายหน
ขออธิบายภาพนี้หน่อยค่ะ เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานแดงเชียงใหม่ผู้จัด
เวทีเคลื่อนที่ที่เกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้าน คือแต่เดิม
กิจกรรมของพวกเราจะมีการจัดเวทีพบปะพี่น้องมวลชนตามต่างอำเภออยู่เสมอ
ซึ่งในการไปแต่ละครั้งจะเหนื่อยกันมากในการขนอุปกรณ์ทั้งหลายในการตั้งเวที
จากการมีพรก ทำให้ว่างก็เลยมีทีมงานคิดหาทางใหม่ไปซื้อรถพ่วงเล็กๆมาคันหนึ่ง
ทำเป็นที่เก็บอุปกรณ์ เครื่องใช้เครื่องเสียงในการตั้งเวที
ซึ่ง ก็ใช้งบ ไป สองหมื่นต้นๆ
(ยังติดเขาอยู่ง่ะ เปล่าเบี้ยว แต่ไม่มีไม่หนีไม่จา่ย 555 เดี๋ยวหาทุนก่อนค่อยจ่ายจ๊ะ)
แม้ว่ามันจะไม่เปอร์เฟ็กซ์หรูเลิศสแมนแตนมากนัก
แต่ก็จัดว่าพอเวทีเลิกเราก็เก็บอุปกรณ์ไว้ในนั้นและปิดลั่นกุญแจ
ค่อยๆๆลากไปเก็บได้แบบ เหนื่อยน้อยหน่อย
และคลายกังวลกับการที่จะต้องเอาของไว้ท้ายรถปิคอัพ
กลัวหายและก็ต้องมาขนของขึ้นลง พี่น้องมวลชน
กลับไปนอนกันสามตื่นแล้วทีมงานยังเก็บของกันอยู่เลย
อันนี้เอาไว้รถคนนั้น นี่เอาไว้รถคันนี้นะ
วุ่นวายแต่ก็สนุกทุกครั้งที่ผ่านมา..เราต้องระวังรักษาของทุกชิ้น
เพราะมันมาจากหยาดเหงื่อแรงงานของพี่น้องเสื้อแดงเรา
ทุกชิ้นทุกอันเลยค่ะที่ช่วยเหลือกันมาโดยตลอด
ไม่ว่าลำโพง ไมค์ เครื่องเสียงต่างๆ ป้ายต่างๆ
งานนี้ก็ต้องให้เครดิต ท่านคำมา ที่เป็นผู้ดูแลเรื่องการตั้งเวที ของแดงเชียงใหม่ค่ะ
ในกล่องนี่เองค่ะที่จะเอาไปจ่ายค่า รถพ่วงเก็บอุปกรณ์
ก็มาจากจิตใจและหยาดเหงื่อแรงงานของพี่น้องเราที่ไม่เคยเคยเหือดแห้งไปเลย
ไม่ว่าจะผ่าน เหตุการณ์ที่บั่นทอนชีวิต จิตใจมาหนักหนาสาหัสขนาดไหนก็ตาม
ใบหน้าแต่ละคนมีความสุขที่ได้มาพบปะกัน
เพราะเดี๋ยวมีรูปสวยๆจากท่านตากล้องระดับ เทพ อีกค่ะ
ที่ยังไม่ได้ไปเอามาค่ะ ดูอันนี้แก้ขัดไปก่อนนะคะ
คำบรรยายคุณ แดงเชียงใหม่และ คุณ prag
ได้ลงไว้ให้แล้วค่ะ เห็นพี่น้องแล้วขอบอกค่ะว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
prag... ออฟไลน์
ดัดจริต
*****
เพิ่งกลับจาก ข่วงท่าแพ...มาถึงบ้าน......
ขอบอกว่า...คนเยอะมาก...ช่วงเย็นคนเริ่มทยอยมากัน
มาตั้งเตนท์ขายของ มีคนหัวใจสีแดงทยอยมา เรื่อย ๆ หนักใจแทน
แกนนำเชียงใหม่ทั้งกลุ่มเลย รู้สึกว่าจะโดนบีบทุกทางที่ไม่ให้จัด
สุดท้ายก็ต้องมีผู้ต้องหา 1 คน เดี๋ยวคุณpuk-cm คงมาเล่าต่อ...
ในที่สุด ก็ลุล่วงสามารถจัดได้ ทุ่มกว่าคนเริ่มเยอะ ผู้คนเิร่มทยอยเข้ามา
เสียงทักทายเสียงตะโกนโหวกเหวก....
หลายคนพูดไม่ออกเหมือนกัน prag เห็นแล้วรู้สึกชื่นใจ
ตื้นตันที่เห็นคนมากันเยอะขนาดนี้
(เห็นคนเตรียมงานแจ้งว่า เวลาการประสานงานน้อย อุปสรรคถึงวินาทีสุดท้าย)
แต่พอมาเห็นคนมาแบบนี้ หายเหนื่อย หายหิว มีแรงฮึดขึ้นมา
..อีกมากมาย และเสียงบนเวทีของ ดร.
เพราะถอยร่นมาอยู่ด้านหลังสุดเพราะคนเริ่มเบียดกันไป อยุู่ด้านหน้า....
ไปได้รูปมา 2-3รูป ซึ่งเขากำลังดูข้อความที่จะเขียนป้ายกัน
เป็นการช่วยกันอย่าง ที่ เงินเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถมาชื้อได้ในสิ่งที่
คนหัวใจสีแดงมอบให้กัน......
แดงเชียงใหม่
ผู้ส่งสาร
*
RE: เพิ่งกลับจาก ข่วงท่าแพ...มาถึงบ้าน......
กรรมการเหนื่อยแทบตาย คาดการณ์ผิด คิดว่า พี่น้องเราคงมากันไม่เกินสองร้อย
เพราะสื่อถูกบล็อคหมด ได้แค่เดินแจกใบปลิวเมื่ออาทิตย์ก่อน
นึกไม่ถึงจริงๆว่า คนจะล้นหลามมากมาย แดงพรึบไปหมด
ตอนที่ peak สุดสมัยก่อนจะไปร่วมที่ราชประสงค์ คนก็ไม่เคยเกินสองร้อย
และแต่ละคนจะเหนียมอาย ไม่กล้าโห่ ได้แต่ทำตาวาววับ แล้วปรบมือแปะัๆ
คืนนี้กรรมการต้องวิ่งเสริมลำโพง เพื่อให้พี่น้องที่อยู่หลังสุดสามารถรับฟังได้ด้วย
และค่ำคืนนี้ผิดแผกไปมาก สุ้มเสียงพี่น้องเราเต็มไปด้วยพลังแห่งความเชื่อมั่น
เชื่อมั่นที่จะสู้สุดใจขาดดิ้น สู้เพื่อทวงคืนสิทธิ์ของเราเอง
เชื่อมั่นในตัวเอง เชื่อมั่นในพี่น้อง
ความกระหึ่มของเสียงที่ดังกึกก้องจึุงเต็มไปด้วยพลัง
พลังของหัวใจเต็มร้อยสองพันกว่าดวง ที่ประสานกันเป็นหนึ่งเดียว
ขนาดยังไม่มีกำหนดการแน่นอน ว่าจะมีการปราศรัยอย่างไรหรือไม่
ใครจะมา กิจกรรมจะเป็นอย่างใด
แต่พี่น้องพร้อมใจกันทำกิจกรรมด้วยความเต็มใจ
ไม่ว่าจะเป็นการลุกขึ้นเต้นอย่างฮึกเหิมทันทีที่เสียงเพลง
"ความจริงวันนี้ " "รักสาวเสื้อแดง" ฯฯฯ ดังขึ้น
แล้ววิทยากรคนโปรดก็เดินทางมาถึง สส.สุนัยผู้ยืนหยัดเคียงข้างประชาชน
มาสามสิบกว่าปี ไม่มีใครยอมให้ท่านพักเหนื่อย
เข้าไปต้อนรับและขอถ่ายรูปกับท่านเป็นที่เอิกเกริก
แล้วยิ่งมันส์มากๆกับคำปราศรัยของท่าน ที่ไม่เคยผิดกฏหมาย
แต่ก็ทำให้เราเข้าใจได้ถึงแก่นแท้ของปัญหาประเทศไทย
แล้วจู่ๆพี่น้องเราก็ลุกขึ้นยืน ส่งเสียงเฮๆๆสุดเสียง พอหันไปดูตาม
ถึงได้เห็นรถบัสคันงาม มีธงแดงโบกพริ้วปลิวไสว บรรทุกพี่น้องเรามาเต็มคันจาก กทม. สส.สุนัยให้เวลาเรากรี๊ดต้อนรับสิบนาที ดีใจกันทั้งผู้มาถึงและผู้ต้อนรับ
พอลงจากรถ ถึงได้เห็นว่า อาคันตุกะนั้นคือ
ทีมงานของ บก.ลายจุดนั่นเอง ผู้นำมาใช่ใครอื่น
คุณนทีคนดังที่เกือบต้องติดคุก เพียงเพราะไปยืนตะโกนว่า "ที่นี่ผมเห็นคนตาย"
ผ่านพ้นวิบากกรรมมาได้ด้วยค่าปรับหนึ่งร้อยบาท ตอนนี้สถานการณ์ทำให้กลายเป็นนักปราศรัยตัวยงไปเสียแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น