กษัตริย์กัมพูชาโปรดเกล้าฯให้ ทักษิณ ลาออกจากที่ปรึกษารบ.เขมร ไทยเตรียม

วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 23:58:48 น. มติชนออนไลน์

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

ภาพประกอบข่าว

"มาร์ค"เผยมีสัญญาณที่ดีความสัมพันธ์2ปท. หลัง"แม้ว" ถอนตัว "นพดล"อ้างนายขอลาออกเอง เหตุไม่มีเวลา

รบ.กัมพูชาออก แถลงการณ์ "แม้ว"ลาออกที่ปรึกษา"ฮุนเซน-รบ." เหตุประสบความลำบากส่วนตัว ไม่สามารถทำหน้าที่อย่างเต็มที่ได้ "กษิต"ดีใจ หมดเงื่อนไข ส่งทูตกลับไปประจำทันที "อภิสิทธิ์"ชี้มีสัญญาณที่ดีเรื่องความสัมพันธ์ เชื่อการแก้ไขปัญหาต่างๆง่ายขึ้น กุนซือ"ทักษิณ"บอกออกเองโดยสมัครใจ ไม่มีเวลาทุ่มเททำงานตอบแทน

"แม้ว"ลาออกที่ปรึกษาฮุนเซน-รบ.

รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ลงวันที่ 23 สิงหาคม ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เสนอขอยุติการปฎิบัติหน้าที่ในฐานะที่ปรึกษาส่วนตัวสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และที่ปรึกษารัฐบาลด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้นำความกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดมสี หมุนี เพื่อทรงลงพระนามในพระราชกฤษฎีกาลงวันที่ 23 สิงหาคม 2553 ให้พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นจากตำแหน่งดังกล่าว

ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มีส่วนอย่างสำคัญในการให้ความช่วยเหลือเพื่อช่วยยกระดับความสามารถในการแข่ง ขันของประเทศกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการค้า พาณิชย์ การลงทุน กสิกรรม และการท่องเที่ยว ทั้งยังได้ช่วยให้นักลงทุนระดับสำคัญของต่างประเทศสนใจและเข้าใจถึงศักยภาพ ของกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ดี โดยที่พ.ต.ท.ทักษิณ ประสบความยากลำบากส่วนตัว จึงไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นจึงได้เสนอขอลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาได้รับทราบข้อเสนอและขอแสดงความขอบคุณพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ต่างๆด้านเศรษฐกิจแก่ประเทศกัมพูชา

สื่อนอกชี้อ้างเหตุผลส่วนตัว

สำนักข่าวเกียวโดและเอเอฟพีรายงานว่า รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาส่วนตัวของสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และตำแหน่งที่ปรึกษาเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชาแล้ว โดยกล่าวอ้างเหตุผลด้วยความไม่สะดวกส่วนตัวจึงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ อย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้กัมพูชาแต่งตั้งพ.ต.ท.ทักษิณให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวในเดือนพฤศจิกายน 2552 ทำให้ไทยประกาศลดระดับความสัมพันธ์กับกัมพูชาพร้อมกับเรียกเอกอัครราชทูต กลับประเทศทันที แถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชาระบุด้วยว่าระหว่างทำหน้าที่ที่ปรึกษา ทักษิณได้แลกเปลี่ยนความเห็น แนวคิด และประสบการณืเพื่อช่วยกัมพูชาในเรื่องการค้า การลงทุน การเกษตร และการท่องเที่ยว

กษิตเฮส่งทูตไปประจำทันที

นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ได้สั่งการให้นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชา เดินทางกลับไปปฏิบัติหน้าที่ที่ประเทศกัมพูชาในวันที่ 24 สิงหาคม หลังจากที่ทางกัมพูชาได้มีถ้อยแถลงออกมาว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะได้ลาออกจากตำแหน่งแล้ว ทำให้เงื่อนไขของการเรียกเอกอัครราชทูตไทยกลับประเทศหมดไปโดยปริยาย ขณะที่กัมพูชาก็จะส่งเอกอัครราชทูตกลับมาปฏิบัติหน้าที่ในไทยเช่นกัน"ผม รู้สึกยินดีและขอบคุณรัฐบาลกัมพูชาที่จะร่วมมือกันสร้างความสัมพันธ์ให้คืบ หน้าต่อไป"นายกษิตกล่าว

ด้านนายกอย กวง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชายืนยันกับสำนักข่าวเกียวโดว่า จะส่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยเดินทางกลับไปปฏิบัติหน้าที่ในวัน ที่ 24 สิงหาคมด้วย

แบะท่าพร้อมเจรจาทุกเรื่องทันที

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวแสดงความยินดีที่ทั้งสองประเทศจะมีเอกอัครราชทูตไปประจำการจะได้เริ่ม ต้นทำงานด้วยกันอีกครั้ง เพราะขณะนี้สถานการณ์ตึงเครียดหากความสัมพันธ์กลับไปเหมือนเดิมก็จะเป็น ประโยชน์สำหรับสองประเทศ เชื่อว่าการประสานงานและความตึงเครียดด้านชายแดนจะดีขึ้น ส่วนปัญหาเรื่องคณะกรรมการมรดกโลกคงต้องมาพูดคุยกันว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ทั้งนี้เชื่อว่าสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาอยากจะแก้ไขปัญหา ขณะที่ฝ่ายไทยก็พร้อมที่จะเจรจาทุกเรื่องทันทีเช่นกัน

"มาร์ค"เชื่อแก้ปัญหา2ปท.ง่ายขึ้น

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาเกิดขึ้นอยู่เป็นระยะๆ เรื่องการข้ามไปมา การจับกุมตัวบ้าง การยิง แต่ทุกกรณียังอยู่ในวิสัยที่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ยังไม่ได้เป็นปัญหาขึ้นมาในระดับที่จะส่งผลกระทบกระเทือนในระดับชาติ ขณะนี้จึงไม่จำเป็นต้องใช้ช่องทางทางการทูตเข้าไปเจรจา คิดว่าในพื้นที่ยังดูแลได้ ถ้าพื้นที่ดูแลไม่ได้ก็คงจะรายงานขึ้นมา จากนั้นก็เป็นเรื่องที่จะไปดำเนินการอีกครั้ง แต่เข้าใจว่าจะมีสัญญาณในทางที่ดีเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา

ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายถึงจะยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า “ทำนองนั้นแหล่ะครับ ขณะนี้กำลังรอยืนยันอยู่ และเข้าใจว่าทางกัมพูชาเขากำลังประกาศอยู่ ทางเราก็กำลังตรวจสอบครับ ซึ่งถ้าเขายกเลิก เราก็ยินดีที่จะมีการแลกเปลี่ยนทูตกันเหมือนเดิม”

ทั้งนี้สัญญาณจากกัมพูชาที่ออกมา สะท้อน การเจรจาเพื่อแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างประเทศจะดีขึ้นด้วยหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "คิดว่าถ้าความสัมพันธ์กลับไปอยู่ในระดับที่มีทูตอยู่ที่ 2 ประเทศ การแก้ปัญหาต่างๆ ก็คงจะง่ายขึ้น"

กุนซือแม้วอ้างออกเอง-งานยุ่ง

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า จากการตรวจสอบข้อมูลแล้ว ยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาเศรษฐกิจรัฐบาลกัมพูชาจริง โดยการลาออกเป็นความประสงค์และเจตนารมณ์ส่วนตัว ด้วยความสมัครใจเพื่อให้ความสัมพันธ์ทั้ง2 ประเทศดีขึ้น เนื่องจากระยะหลังพ.ต.ท.ทักษิณ มีภารกิจและธุรกิจในหลายประเทศที่ต้องเดินทางมาก จึงไม่มีเวลาทุ่มเท การทำงานให้กับรัฐบาลกัมพูชา จึงได้ตัดสินใจลาออก และไม่ได้เป็นไปตามที่รัฐบาลไทยอ้างว่าการตั้งเป็นพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจรัฐบาลกัมพูชาแล้วทำความสัมพันธ์ไทย กัมพูชา เสื่อมทรามลง หรือมีผลกระทบ คิดว่าเมื่อลาออกแล้ว ความสัมพันธ์จะดีขึ้น จึงลาออก เพื่อที่ให้ทั้งสองประเทศจะฟื้นฟูความสัมพันธ์ต่อไป ให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ส่วนขั้นตอนการลาออกเป็นอย่างไร ควรให้โฆษกรัฐบาลกัมพูชาออกมายืนยันในรายละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากเป็นเรื่องภายในของเขา

"ระยะหลังๆพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ปรากฎตัวหรือแสดงความเห็นทางการเมืองก็ไม่มีอะไร ช่วงหลังเดินทางบ่อย หากออกข่าวแสดงความเห็นทางการเมือง กลัวจะถูกนำไปบิดเบือนได้ เลยอยากอยู่เงียบๆ เพื่อให้รัฐบาลมีเวลาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน พ.ต.ท.ทักษิณ ลาออกก่อนที่จะมีข่าวออกมาเสียอีก"นายนพดลกล่าว

ไทยทำหนังสือขอเยี่ยม3พราน

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวกรณี ชาวอ.สังขะ จ.สุรินทร์ 3 คน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาจับกุมตัว หลังพลัดหลงข้ามเขตแดนไปยังฝั่งกัมพูชาขณะออกหาของป่าและล่าสัตว์เมื่อวัน ที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ว่า จากรายงานสถานะล่าสุด 3 คนไทยถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำในจ.เสียมราฐ โดยถูกตั้งข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเข้าไปในดินแดนกัมพูชา ขณะนี้กระทรวงทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชาเพื่อขอเข้าเยี่ยมคนไทย ทั้งสามแล้ว ซึ่งหากเป็นไปตามขั้นตอนก็น่าจะได้เข้าเยี่ยมในวันที่ 26 สิงหาคมนี้ อย่างไรก็ดีฝ่ายกงสุลของสถานเอกอัครราชทูตก็กำลังพยายามประสานขอเข้าเยี่ยม ด้วย โดยหากเข้าเยี่ยมได้ก่อนกำหนดก็จะเป็นการดี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

กมธ.ชายแดนยุทหารตอบโต้บ้าง

นายอิทธิเดช แก้วหลวง ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)กิจการชายแดนไทย สภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเพื่อไทย(พท.) พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้ารับฟังปัญหาจากชาวบ้าน ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ สระแก้ว ซึ่งร้องเรียนกรณีทหารระงับการออกโฉนดที่ดินตามแนวชายแดน ที่ห้องประชุมอำเภออรัญประเทศ เมื่อเวลา 08.30น. จากนั้นไปตรวจสอบหลักเขตแดนที่ 46 ซึ่งชาวกัมพูชาบุกรุกเข้ามายึดพื้นที่ของชาวบ้าน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง

พ.อ.ธรรมนูญ วิถี รองเสนาธิการกองกำลังบูรพา ชี้แจงกับคณะกรรมาธิการฯ ว่า ปัญหาตามแนวชายแดนด้าน จ.สระแก้ว ที่ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ทำกินให้กับประชาชน ทางด้านทิศตะวันออกถนนศรีเพ็ญ เนื่องจากเป็นพื้นที่ทับซ้อน ไทยและกัมพูชาถือแผนที่คนละฉบับ นอกจากนี้ฝ่ายกัมพูชาได้ละเมิดตามข้อตกลงห้ามก่อสร้างหรือเปลี่ยนแปลงใดๆ ตามแนวชายแดนนับตั้งแต่ปี 2549ถึงปัจจุบันกว่า40ครั้ง ส่วนบริเวณหลัก กิโลเมตร(กม).ที่ 4-5 ถนนศรีเพ็ญ ต.ป่าไร่ ที่ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ ให้ผู้ถือครองที่ดินได้ เนื่องจากส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่กองกำลังขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้

ภายหลังรับฟังคำชี้แจง คณะกรรมาธิการฯ เสนอแนะเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยดำเนินการกับฝ่ายกัมพูชา ที่เข้ามาถากถางสร้างอาคารติดเขตแดน พร้อมออกเอกสารสิทธิ์ให้ชาวกัมพูชา