Sat, 2010-08-14 16:57
มุกดาหาร มีผู้ถูกจับกุมข้อหาร่วมกันวางเพลิงเผาศาลากลางจังหวัดทั้งสิ้น 28 คน 24 คน ฝากขังอยู่ในเรือนจำมุกดาหาร 3 คน ได้รับการปล่อยตัว เนื่องจากเข้ารายงานตัว เยาวชนอายุ 15 ปี 1 คน อยู่ในสถานพินิจ จ.นครพนม
ญาติและผู้ต้องหาหวังจะได้ประกันตัวหลังยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน แต่ฝันค้าง ล่าสุด รอลุ้นปล่อยตัวชั่วคราวหาก ตร.ทำสำนวนฟ้องไม่ทัน หลังฝากขังครบ 84 วัน ก็ต้องผิดหวังอีกเนื่องจากอัยการสั่งฟ้องแล้ว เช่นเดียวกับแกนนำ นปช.
ศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายชุมนุมกรณีเมษายน-พฤษภาคม 2553 ( ศปช.) สรุปข้อมูลผู้ถูกจับกุมในจังหวัดมุกดาหาร พบมีผู้ต้องหาถูกจับกุมในข้อหาร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์อันเป็นสาธารณสมบัติ ของแผ่นดินตามหมายจับคดีอาญาที่ 548/2553 ซึ่งโอนเป็นคดีพิเศษทั้งสิ้น 28 ราย เป็นชาย 26 ราย หญิง 1 ราย เยาวชนชายอายุ 15 ปี 1 ราย
ผู้ต้องหา 16 ราย ถูกจับกุมในวันเกิดเหตุ บริเวณรอบศาลากลาง ออกมาถึงบริเวณนอกรั้วโดยรอบ ซึ่งเป็นศาลจังหวัด ตลาดราตรี และห้างสรรพสินค้า จากนั้น มีการทยอยจับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดย จนท.ตร.ใช้ภาพถ่ายในวันเกิดเหตุเป็นหลักฐานสำคัญในการตามจับผู้ต้องหา ซึ่งพบว่าบางรายถูกจับกุมเนื่องจากมีรูปถ่ายขณะนั่งอยู่บนกองยางรถยนต์ บางรายถูกจับเพราะมีรูปถ่ายขณะกำลังกลิ้งยาง บางรายมีรูปถ่ายขณะกำลังยืนดูเหตุการณ์ในบริเวณรั้วศาลากลางก็ถูกจับกุม รายล่าสุด ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาชื่อนาย
นอกจากนี้ยังพบว่า การจับกุมในวันเกิดเหตุ ซึ่งมีการสนธิกำลังกันระหว่างตำรวจ สภ.เมืองมุกดาหาร ทหารจากค่ายพระยอดเมืองขวาง จ.สกลนคร ตชด. และอาสาป้องกันภัย จนท.ได้ทำการสลายการชุมนุมโดยใช้กระบองทุบตีทำร้ายและเตะถีบ โดยไม่มีการประกาศเตือนผู้ชุมนุมก่อน ผู้ต้องหาเกือบทุกคนถูกการทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บขณะถูกจับกุม ก่อนถูกคุมขังอยู่ในรถขนผู้ต้องหาบริเวณกลางแจ้งหน้าศาลากลาง จำนวน 1 คันในวันที่ 19 พ.ค. และมีรถมาเพิ่มอีก 1 คัน เพื่อลดความแออัดในวันที่ 20 พ.ค. ทั้งนี้ สามารถเข้าห้องน้ำได้เฉพาะเวลาถ่ายหนัก หากถ่ายเบาต้องทำธุระบนรถที่คุมขัง และถูกย้ายมาเรือนจำในวันที่ 21 พ.ค.53 รวมเวลาที่ถูกขังอยู่ในรถคุมขังที่จอดอยู่กลางแจ้ง 2 คืนกับ 1 วัน โดยที่ไม่มีการนำตัวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมเข้ารับการรักษา แต่อย่างใด
จากการเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาในเรือนจำจังหวัดมุกดาหารพบว่า มีผู้ต้องหาที่ถูกฝากขังอยู่ในเรือนจำ 24 ราย เยาวชนชายถูกนำไปฝากขังที่สถานพินิจจังหวัดนครพนม ส่วนอีก 3 ราย จนท.ตร.ให้ข้อมูลว่า เข้ารายงานตัวต่อเจ้าพนักงานก่อนที่จะออกหมายจับ จึงได้รับการปล่อยตัว
ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธทุกข้อหา ส่วนหนึ่งยอมรับเข้าร่วมการชุมนุมจริง แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการเผาศาลากลาง ส่วนใหญ่ยืนดูเหตุการณ์ขณะไฟไหม้ศาลากลางอยู่ทั้งในและนอกรั้วศาลากลาง บางคนโดยเฉพาะสามล้อรับจ้างมีส่วนในการลำเลียงยาง ไปกองที่ถนนข้าง และบริเวณรอบศาลากลางจริง แต่เป็นเพราะได้รับการว่าจ้าง ไม่ได้คิดว่าเหตุการณ์จะบานปลายถึงขั้นเผาศาลากลาง บางคนมีส่วนในการห้ามปรามไม่ให้ผู้ชุมนุมเผายางที่กองอยู่หน้าศาลากลาง บางคนปีนขึ้นไปนำพระบรมฉายาลักษณ์ที่ติดอยู่หน้าอาคารศาลากลางลงมาขณะไฟ กำลังลุกไหม้ อีกส่วนหนึ่งเป็นเพียงผู้ที่เดินทางมาดูเหตุการณ์ เนื่องจากได้ทราบข่าวว่าเกิดเพลิงไหม้ศาลากลาง รวมทั้งมีหนึ่งรายเป็นเพียงคนที่เข้าไปเก็บขยะเท่านั้น มีเพียงรายเดียวให้การรับสารภาพว่า ได้ขายยางให้ผู้ชุมนุมจริง โดยเข้าใจว่าผู้ชุมนุมจะนำไปขู่ทางราชการ ในขณะที่ผู้ที่ลงมือจุดไฟเผาอาคารศาลากลางจริง จนท.ตร.ยังไม่สามารถตามจับกุมตัวได้
จากการสำรวจข้อมูลพบว่า ผู้ต้องหามีอาชีพเกษตรกร ขับรถสามล้อรับจ้าง รับจ้างทั่วไป พ่อค้าเร่ พนักงานบริษัท เก็บขยะขาย เปิดร้านขายของชำ และปะยางรถ นอกจากนี้ยังพบว่าส่วนใหญ่เป็นผู้ที่พักอาศัยอยู่ในเขตอำเภอเมือง มีเพียง 6 ราย ที่อยู่ในอำเภอดอนตาล
ในเรื่องการขอประกันตัว หลังการจับกุม ผู้ต้องหาบางรายที่พอหาหลักทรัพย์ในวงเงิน 5 แสนบาทได้ ทนายความก็ได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวหลายต่อหลายครั้ง เพื่อออกมาดูแลครอบครัว อีกทั้งบางรายมีโรคประจำตัว เช่น ไวรัสตับ โรคไต ลำไส้อักเสบ โรคประสาท ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ แต่ยังไม่เคยได้รับการอนุมัติจากศาล บางรายยื่นอุทธรณ์ขอประกันตัวกับศาลอุทธรณ์จังหวัดขอนแก่น แต่ก็ไม่ได้รับการประกันตัวเช่นกัน ล่าสุด หลังการประกาศยกเลิก พรก.ฉุกเฉินในเขตจังหวัดมุกดาหารเมื่อ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา ทนายความได้ยื่นขอประกันตัวอีกครั้งโดยหวังจะได้รับความเมตตาจากศาล แต่ปรากฏว่าศาลจังหวัดมุกดาหารก็ยังไม่อนุมัติให้ประกันตัวอีกเช่นเคย มีเพียงเยาวชนชายที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่สถานพินิจ จ.นครพนม เพียงคนเดียวที่ได้รับการประกันตัวออกมาเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม
และในวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในวันเกิดเหตุเผาศาลากลางวันที่ 19 พ.ค. ครบกำหนดฝากขัง 84 วัน ครอบครัวและ ญาติพี่น้อง ที่มีความหวังว่าผู้ต้องขังจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวก็ต้องผิดหวังอีก ครั้งเมื่อ จนท.ตร.สรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการ และอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องแล้ว ทั้งนี้ ญาติผู้ต้องหามีความสงสัยว่ามีการเรียกพยานฝ่ายจำเลยไปให้ปากคำน้อยมาก ทำไมตำรวจถึงสรุปสำนวนส่งฟ้องได้ อีกทั้งอัยการก็มีความเห็นให้สั่งฟ้องอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น