แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เกษียร เตชะพีระ: 'แด่ฟาบิโอ โพเลนกี'

Fri, 2010-08-06 17:33

เกษียร เตชะพีระ

เกษียร เตชะพีระ นำเสนอรายงานการเสียชีวิตของช่างภาพอิสระชาวอิตาลี จากรายงานการสืบสวนเรื่อง Thailand: Licence to Kill” ที่ประมวลเสนอข้อมูลจากประจักษ์พยานเกี่ยวกับอาชญากรรมต่อสื่อมวลชนทั้งไทย และเทศที่เกิดขึ้นในช่วงเหตุการณ์เมษา-พฤษภาอำมหิต


ฟาบิโอ โพเลนกี ช่างภาพอิสระชาวอิตาลีวัย ๔๘ ปี ทำงานถ่ายภาพให้นิตยสารใหญ่หลายแห่งเช่น Vanity Fair, Vogue, Marie Claire และ Elle เป็นต้น ตลอด ๒๙ ปีที่ประกอบวิชาชีพนี้ เขาเที่ยวตระเวนถ่ายภาพไปราว ๗๐ ประเทศทั่วโลก เขาเคยนำภาพถ่ายไปแสดงนิทรรศการทั้งที่ Cité des Sciences et de l’Industrie อันเป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ณ กรุงปารีสและในงาน Paris Book Expo เขายังเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์และร่วมงานสร้างภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับ พ่อลูกนักมวยชาวคิวบาที่พ่อเป็นแชมป์มวยโอลิมปิก ส่วนลูกเป็นแชมป์มวยแห่งชาติของคิวบาด้วย

อิซาเบลลา โพเลนกี น้องสาวของฟาบิโอ เล่าในการแถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ศกนี้ว่า ฟาบิโอเป็นคนมีจิตวิญญาณเสรี เปิดใจกว้าง คบหาง่าย ยึดมั่นคุณค่าที่ตนเชื่อถือ และรักสันติ เขารักเมืองไทย อยากอยู่ในเมืองไทย และได้เลือกเมืองไทยเป็นบ้าน เพราะเขารักผู้คนที่นี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเธอรู้สึกขอบคุณคนไทยบางคนที่เสี่ยงชีวิตช่วยนำฟาบิโอส่ง โรงพยาบาล

สองวันก่อนเสียชีวิตด้วยคมกระสุนกลางถนนระหว่างทหารบุกล้อมปราบที่ชุมนุม ราชประสงค์ของ นปช. ฟาบิโอได้เขียนข้อความสั้น ๆ ไว้ในหน้า Facebook ของเขา ซึ่งอิซาเบลลาอ่านให้ฟังทั้งน้ำตาว่า:

ทุก ๆ วันเหมือนของขวัญที่เราได้มา ฉะนั้นจงทำให้ดีที่สุดเพื่อที่จะได้เป็นสุข ด้วยรักแด่ทุกคน

0 0 0

เมื่อเดือนกรกฎาคมศกนี้ Reporters Without Borders (ผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน) อันเป็นองค์กร เอ็นจีโอระหว่างประเทศที่ต่อสู้เพื่อเสรีภาพของสื่อสิ่งพิมพ์และประณามการ ละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลก ได้เผยแพร่รายงานการสืบสวนเรื่อง “Thailand: Licence to Kill” (ประเทศไทย: ใบอนุญาตฆ่า http://en.rsf.org/IMG/ pdf/REPORT_RSF_THAILAND_Eng.pdf ) เขียนโดย Vincent Brossel & Nalinee Udomsinn เพื่อประมวลเสนอข้อมูลจากประจักษ์พยานเกี่ยวกับอาชญากรรมต่อสื่อมวลชนทั้ง ไทยและเทศที่เกิดขึ้นในช่วงเหตุการณ์เมษา-พฤษภาอำมหิตที่ผ่านมารวม ๑๐ กรณี โดยยกกรณีการตายของ ฟาบิโอ โพเลนกีขึ้นมาเป็นอันดับแรกสุด รายงานระบุข้อมูลเกี่ยวกับกรณีนี้ไว้ที่หน้า ๔ ๕ ว่า: -


ช่างภาพ ฟาบิโอ โพเลนกี ถูกยิงตายราว ๑๐.๔๕ น. วันที่ ๑๙ พฤษภาคมใกล้สวนลุมพินี ห่างใจกลางที่ชุมนุมเสื้อแดงราวหนึ่งกิโลเมตร โพเลนกีถูกยิงในสภาพสวมหมวกกันน็อคขณะเกิดการปะทะอย่างรุนแรงระหว่างทหารกับ ผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่ป้องกันบังเกอร์อยู่ มีผู้อื่นถูกสังหารอีก ๔ คนในช่วงการปะทะนี้

มาซารุ โกโตะ ช่างภาพชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นพยานรู้เห็นการตายของโพเลนกี เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ Reporters Without Borders ฟังว่า: -


ถาม: คุณช่วยบรรยายสภาพที่คุณเป็นพยานรู้เห็นการตายของฟาบิโอให้หน่อยได้ไหม?

มาซารุ โกโตะ: ผมเห็นฟาบิโอหนแรกกลางเดือนเมษายน ระหว่างการชุมนุมในกรุงเทพฯซึ่งผมอาศัยอยู่มา ๙ ปีแล้ว เรากลายเป็นเพื่อนกันผมอยู่ใกล้เขาตอนเขาถูกฆ่า เราอยู่ตรงแยกถนนสารสินตัดกับราชดำริในกรุงเทพฯ ใกล้สวนลุมพินี กองทัพเริ่มโจมตี นปช.ที่นั่นเช้าวันนั้น ฟาบิโอกับผมกำลังถ่ายภาพจากฝั่งนปช. คุณจะว่าเราอยู่ตรงแนวหน้าสุดก็ได้ กองทัพเริ่มระดมยิงหนักหน่วงขึ้นราว ๑๐ โมง ผมอยากออกจากแยกนั้นเพราะผู้ชุมนุมคนหนึ่งเพิ่งบอกผมว่าพลซุ่มยิงกำลังจะยิง ใส่เรา เรากำลังถอนตัวอยู่ทีเดียวเมื่อผมสังเกตเห็นร่างคน ๆ หนึ่งอยู่บนถนนลาดยางข้างหลังผม ผมรู้ทันทีว่านั่นคือฟาบิโอ ผมบอกไม่ถูกว่ากระสุนยิงมาจากไหน


ผมไม่แน่ใจว่าเขาถูกฆ่าเพราะเป็นนักข่าวหรือเปล่า กระสุนที่ยิงสวนกันไปมาหนาแน่นมากตอนนั้น ไม่มีการยับยั้งชั่งใจกันต่อไปแล้วไม่ว่าจะในฝ่ายทหารหรือ นปช.

ภาพฟาบิโอถูกยิง
โดย Masuro Goto
www.masarugoto.com/#mi=2&pt=1&pi=10000&s=25&p=0&a=0&at=0


ถาม: กล้องถ่ายรูปของฟาบิโอหายไป คุณรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?

มาซารุ โกโตะ: เมื่อเขาถูกยิง เราพยายามดึงเขาให้พ้นวิถีกระสุน มีการเผยแพร่ภาพวีดิโอที่พวกเรากำลังลากเขาในตอนหลัง คุณจะเห็นชายคนหนึ่งแต่งตัวเหมือนนักข่าวกุมมือข้างหนึ่งของฟาบิโอและกล้อง ของเขาไว้ ตั้งแต่นั้นมาเราก็ไม่เจอกล้องถ่ายรูปนี้เลย เรากำลังหามันอยู่


ถาม: คุณคิดว่าฟาบิโอถูกหมายหัวในฐานที่เป็นนักข่าวหรือเปล่า?

มาซารุ โกโตะ: มีข่าวลือแพร่สะพัดตั้งแต่กลางพฤษภาคมว่าพลซุ่มยิงไม่ทราบฝ่าย อาจเป็นฝ่ายกองทัพหรือนปช.ก็ได้ กำลังจะฆ่านักข่าว คนบางคนอาจอยากให้วิกฤตเลวร้ายลงเพื่อประโยชน์ของตน พอฆ่านักข่าวได้ คุณก็จะยกระดับความวุ่นวายขึ้นไปอีก แต่ผมไม่มีหลักฐานว่าข่าวลือนี้มีข้อเท็จจริงอะไรรองรับ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยได้แนะนำว่าอย่าไปที่บางแห่งที่ ถือว่าอันตรายเกินไป


ถาม: คุณคิดว่าทางตำรวจไทยชันสูตรพลิกศพอย่างถี่ถ้วนไหมหลังฟาบิโอตาย?

มาซารุ โกโตะ: ศพของเขาถูกฌาปนกิจอย่างรวดเร็วหลังเขาตาย ผมไม่แน่ใจว่าตำรวจได้ชันสูตรพลิกศพอย่างถี่ถ้วนหรือเปล่า


0 0 0


ทาง Reporters Without Borders ได้สัมภาษณ์บุคคลอีกคนหนึ่งเกี่ยวกับการตายของโพเลนกี คือ นักถ่ายทำภาพยนตร์สารคดีชาวสหรัฐฯชื่อ แบรด คอกซ์ เขาอยู่ในที่เกิดเหตุการยิงและตัวเองก็ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนด้วย คอกซ์เป็นผู้สร้างหนังสารคดีเรื่อง ใครฆ่าเจีย วิเจีย?” เกี่ยวกับกรณีฆาตกรรมนักเคลื่อนไหวสหภาพแรงงานชาวเขมรคนหนึ่งซึ่งหนังดัง กล่าวถูกสั่งห้ามฉายในกัมพูชา


Bradley Cox

ถาม: เกิดอะไรขึ้นครับ?

แบรด คอกซ์: ผมไม่เคยพบฟาบิโอมาก่อน ตอนนั้นผมเลือกไปอยู่ตรงแยกถนนตัดกันทางฝั่งบังเกอร์เสื้อแดง มีการระดมยิงจากฝ่ายกองทัพมาหนักทีเดียว พวกเสื้อแดงก็ตอบโต้ด้วยระเบิดเพลิงและระเบิดทำเอง กระสุนนัดหนึ่งยิงถูกยางรถยนต์ข้างหน้าผมห่างหัวผมแค่ ๔๐ เซนติเมตร พอเกือบ ๑๑ โมง ผมเห็นการเคลื่อนไหวบางอย่างบนถนนโพ้นออกไป ผมก็เลยไปดูแล้วกลับมาที่เขตเสื้อแดง ตอนกลับนี่แหละที่ผมรู้สึกปวดแปลบที่เข่าขวาและรู้ตัวว่าถูกยิงเข้าแล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่หนักหนานัก ผมหันกลับเพื่อพยายามมองว่ามันยิงมาจากไหนและตอนนั้นแหละที่ผมเห็นฟาบิโอ กองอยู่กับพื้นห่างไปไม่ถึง ๑๐ เมตร ผมเริ่มถ่ายหนังไว้เมื่อนักข่าวคนอื่นและพวกเสื้อแดงลากเขาไปหาที่กำบังแล้ว เอาเขาขึ้นมอเตอร์ไซค์ แต่มันก็สายไปเสียแล้ว


ฟาบิโอถูกบรรทุกซ้อนหลังมอเตอร์ไซค์ส่งโรงพยาบาล

ถาม: เกิดอะไรกับกล้องถ่ายรูปของเขา?

แบรด คอกซ์: ในฟิล์มหนังที่ผมถ่ายคุณจะเห็นชายคนหนึ่งดูเหมือนจะเป็นนักข่าวเข้าไปช่วยฟา บิโอและถือกล้องของเขาอยู่ แต่ไม่ได้ยื่นกล้องคืนให้มา (ชมหนังข่าวเหตุการณ์ตอนนี้ได้ที่ www.youtube.com/ watch?v=BhPydgjZ9GI)



ถาม: ฟาบิโอถูกหมายหัวในฐานที่เป็นนักข่าวหรือเปล่า?

แบรด คอกซ์: ผมพูดไม่ได้เต็มปากเต็มคำว่าใครยิงฟาบิโอกับผม ผมคิดว่าเราถูกยิงโดยกระสุนจากทหารหรือพลซุ่มยิง ตอนที่พวกเขายิงเรา มีคนอยู่บนถนนแถวนั้นไม่มากนักและพวกเสื้อแดงที่อยู่ใกล้ที่สุดก็ห่างออก ไปกว่า ๑๐ เมตร ดังนั้นผมจึงไม่เข้าใจว่าทำไมเราถึงถูกยิงใส่ เราตกเป็นเป้าหมายหรือโดนลูกหลงกันแน่? ผมก็ไม่รู้ ผมกำลังถือกล้องถ่ายหนังตัวใหญ่อยู่และก็เห็นได้โดยง่ายว่าผมเป็นชาวต่าง ชาติ แต่ฟาบิโอเขาใส่ชุดดำ เป็นไปได้ไหมว่าพวกนั้นหลงเข้าใจผิดไปว่าเขาเป็นพวกเสื้อดำคนหนึ่ง?

0 0 0


ผมต้องขอเก็บคำถามเหล่านี้ไว้เขียนถึง "ความตายที่รอคำตอบของฟาบิโอสัปดาห์หน้า



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน