การ เมืองเรื่องสัตว์ โดย กาหลิบ
คอลัมน์ : เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง : การเมืองเรื่องสัตว์
โดย : กาหลิบ
การ กระทำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและเหล่าบริวาร “สวรรค์” ในขณะนี้ ไม่ผิดอะไรกับอมตวาจาทางการเมืองที่กาหลิบเคยอ่านและซาบซึ้งใจมานานแล้ว แถมยังตรงความหมายทุกถ้อยคำอย่างน่าประหลาด
เสมือนช่วยยืนยันว่าความ ชั่วร้ายของระบอบปัจจุบันของไทย มันไม่ได้ต่างอะไรกับความชั่วร้ายในประวัติศาสตร์ที่เหล่าทรราชวินาศฉิบหาย ไปแล้วไม่รู้จักกี่ระบอบ
“Political language is designed to make lies sound truthful and murder respectable, and to give the appearance of solidity to pure wind.”
สำนวนกาหลิบถอดออกมาได้ว่า
“เขา คิดภาษาการเมืองกันขึ้นมา เพื่อทำให้การโกหกตอแหลดูเสมือนเป็นความจริง เพื่อทำให้การฆ่าคนกลายเป็นเกียรติยศน่านับถือ และเพื่อทำให้ลมลวงดูหนักแน่นมีสาระ”
ช่างตรงกับความลื่นไหลของนาย อภิสิทธิ์ในขณะนี้เสียเหลือเกิน!
คนที่เขียนประโยคนี้ออกมาคือ จอร์ช ออร์เวลล์ นักเขียนชาวอังกฤษที่ตายไปตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ.๒๔๙๓ โน่นแล้ว แต่ผลงานคลาสสิคที่ผู้คนทั่วโลกยังตามอ่านกันอยู่ ไม่เคยขาดหายจากแผงหนังสือ เช่น “Animal Farm” “
นาย
คน ที่นึกถึงนายอภิสิทธิ์ จึงนึกถึงคำพูดที่สละสลวยสวยเก๋ของเขาได้เสมอ แต่กลับนึกผลงานในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่ออกเอาเลย
ล่าสุด นายอภิสิทธิ์ออกมาอ่าน “จดหมาย” เพื่อให้ดูประหนึ่งว่าจริงใจและปรารถนาดี ยกแนวทาง “ปรองดอง” ขึ้นมาข่มความแค้นใจของฝ่ายประชาธิปไตย และเขียนบทใหม่ให้ฝ่ายสีอื่นๆ ที่ไม่ใช่สีแดงเล่น เพราะคนหลายสีเหล่านี้กำลังเหิมเกริมอยู่ในใจว่าข้าชนะประชาชนรากหญ้าและ อยากจะเข่นฆ่าเอาชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ
นายอภิสิทธิ์อาศัยวาทศิลป์ที่ ใช้เคลือบคำว่า “ปรองดอง” แบ่งแยกฝ่ายประชาชนออกเป็น “ผู้ก่อการร้าย” และ “ผู้ถูกชักจูงเข้าสู่ขบวนการก่อการร้าย” โดยประเหราะว่ามวลชนส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมเวทีผ่านฟ้าและราชประสงค์ไม่รู้ว่า ตนเองกำลังช่วยเหลือให้มีการ “ก่อการร้าย”
เจตนาก็เพื่อลดปริมาณมวล ชนอันมหาศาลลง
“...เพื่อทำให้การโกหกตอแหลดูเสมือนเป็นความจริง...” ณ จุดนี้ คือการปฏิเสธขบวนการประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั้งระบบ ทำให้ดูเหมือนว่าการลุกฮือของมวลชนไม่มีจริง มีแต่แกนนำซึ่งเป็น “ผู้ก่อการร้าย” ไม่กี่คนที่รัฐบาลของเขาไม่ยอม “ปรองดอง” ด้วย
กด ประชาชนหลายสิบล้านคนของประเทศนี้ลงเป็นมวลชนไร้สมองที่เดินเซื่องๆ ตามแกนนำฝ่ายประชาธิปไตยโดยที่ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรเลย
นี่คือคำ ตอแหลคำใหญ่ และเป็นคำตอแหลที่แสดงถึงความกลัวชนิดหางจุกก้นของเถ้าแก่ใหญ่เจ้าของประเทศ ไทยจนต้องฝากผ่านนายอภิสิทธิ์ลงมา กลัวขบวนการประชาธิปไตย กลัวที่ต้องลงมาเสมอภาคกับเพื่อนร่วมชาติ ท้ายที่สุดก็คือกลัวประชาชนเสียยิ่งกว่าอะไรดี
“...เพื่อทำให้การฆ่า คนกลายเป็นเกียรติยศน่านับถือ...”
เห็นไหมครับว่าชีวิตของพี่น้องเรา ที่สละชีพเพื่อประชาธิปไตยกันที่ราชประสงค์ คลองเตย บ่อนไก่ ประตูน้ำ ราชปรารภ ดินแดง ซอยรางน้ำและที่อื่นๆ อีกมากมาย กลายเป็นเหรียญตราของสัตว์บางประเภทที่เฉลิมฉลองกันเหมือนเข่นฆ่าอริราช ศัตรูได้สำเร็จ
รวมถึงงานฉลองที่ ร.๑๑ ซึ่งคนสำคัญของบ้านเมืองแห่กันไปฉลองยินดีอย่างเหลือล้นนั่นด้วย
และสุด ท้าย “...เพื่อทำให้ลมลวงดูหนักแน่นมีสาระ...” นั้น
ไม่ได้หมายความ ถึงเฉพาะรัฐบาลชั่วคราวของนาย
(พบคอลัมน์ "เมืองไทยหรือเมืองใคร?" ได้ทุกวันจันทร์,พุธ,ศุกร์)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น