|
|
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ว่า
นางเฮเลน คล๊ารค์ หัวหน้าหน่วยงานด้านการพัฒนาแห่งสห ประชาชาติ
และอดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ กล่าวที่กรุงฮานอย ว่า
พม่า ไทย และเวียดนาม ต้องเผชิญกับอุปสรรคท้าทายที่จะพัฒนาประเทศ
โดยไทย ซึ่งที่ผ่านมาประสบความก้าวหน้าในการขจัดปัญหาความยากจน
แต่สถานการณ์ ตึงเครียดทางการเมือง กำลังขัดขวางการเดินไปข้างหน้าในการขจัดปัญหาดังกล่าว
โดยนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์รัฐประหารยึดอำนาจเมื่อปี 2006
ทำให้ ไทยต้องไร้เสถียรภาพทางการเมืองเป็นเวลากว่า 3 ปี
และการเมืองไร้ความ มั่นคงนับตั้งแต่นั้น
ซึ่งไทยควรจะจำเป็นจะต้องมีการเจรจาแห่งชาติ เกี่ยวกับวิธีการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่
ซึ่งจะต้องเป็นไป อย่างบริสุทธิ์และยุติธรรม โดยประชาชนสามารถยอมรับผลเลือกตั้งที่ออกมาได้
ขณะ ที่พม่า ซึ่งถูกปกครองด้วยรัฐบาลทหารนั้น และมีปัญหาความยากจนอย่างใหญ่โต
จะ พบว่าเป็นเรื่องยากที่ประเทศนี้จะบรรลุเป้าหมายแห่งการพัฒนาแห่งสหัสวรรษได้ ก่อนปี 2015
นอกจากนี้ สำหรับเวียดนามนั้น มีผลงานที่ดีในความพยายามในการบรรลุเป้าหมายแห่งการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ
จาก การแก้ไขปัญหาความยากจน การให้การศึกษาในระดับพื้นฐานแก่ประชาชน
และลด อัตราการเสียชีวิตของเด็กและมารดา
ทว่า เวียดนามซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว กำลังเผชิญกับอุปสรรคใหญ่โตเกี่ยวกับภาวะอุณหภูมิโลกเปลี่ยนแปลง
โดย ต้องเผชิญกับภาวะระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นและบ่อยขึ้น และเผชิญสภาพอากาศเลวร้ายต่าง ๆ เช่น พายุไต้ฝุ่น
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1276662076&grpid=03&catid=
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น