วันอังคารที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2553
ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : หลังรัฐประหาร
ตอนที่ 57: สมานฉันท์ให้ถูกจุด
โดย : กาหลิบ
พิมพ์ ครั้งแรก : กุมภาพันธ์ 2550 (หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน)
****************************************************************************
อย่า ลืมว่าความไม่สมานฉันท์ในพื้นที่สามจังหวัดแต่เดิมนั้น ส่วนสำคัญมาจากความไม่สมานฉันท์ของผู้กำหนดนโยบายของประเทศในทุกระดับ ทั้งเจ้าของประเทศ ผู้บริหารประเทศ และผู้ปฏิบัติ
****************************************************************************
สมานฉันท์ให้ถูกจุด
สิ่ง หนึ่งที่รัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ฯ ประกาศว่าจะทำ คือการปรับเปลี่ยนแนวนโยบายการแก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และก็ได้ลงมือไปแล้วหลายเปลาะ รวมทั้งการเดินทางเยือนมาเลเซียและยกเรื่องนี้ขึ้นเป็นวาระหลักในการหารือ กับนายกรัฐมนตรีบาดาวี
ขณะนี้ขยับจะนิรโทษกรรมผู้ต้องหา ๕๘ คนจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่อำเภอตากใบ ซึ่งเป็นท่าทีที่สอดคล้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
วิธี การมองปัญหาใต้ของคุณสุรยุทธ์ฯ จึงดูแตกต่างค่อนข้างมากกับคุณทักษิณฯ เมื่อเป็นนายกรัฐมนตรี
หลายคนเห็นว่าเป็นความแตกต่างระหว่าง ความคิดสมานฉันท์กับการมุ่งหน้าปราบปราม
ความเคลื่อนไหวของ รัฐบาลในครั้งนี้จึงมีความสำคัญและสมควรช่วยกันจับตามอง มองแล้วก็เอาใจช่วยให้แก้ไขปัญหาให้ถูกจุดเสียที โดยอาจจะละวางความยึดมั่นถือไปสักช่วงหนึ่งก่อนว่ารัฐบาลชุดนี้มีที่มาจาก การรัฐประหาร
เพราะปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นับเป็นจุด อ่อนของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นจุดอ่อนที่ใครทำก็ตาม
เรื่อง นี้เรื่องเดียวอาจจะทำให้รัฐบาลชุดนี้แจ้งเกิดได้
ขณะเดียว กันก็มีเหตุประจวบเหมาะ ซึ่งเกิดต่างกรรมต่างวาระ แต่ดูจะสอดคล้องกันดี นั่นคือพรรคไทยรักไทยแต่งตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่ ได้แก่ คุณ
คุณ จาตุรนต์ฯ ในขณะที่เป็นรองนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายให้ทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายว่า จะหาทางบรรเทาไฟแห่งความขัดแย้งที่กำลังโหมกระหน่ำสามจังหวัดชายแดนภายใต้ใน ขณะนั้นได้อย่างไรบ้าง
หายไประยะหนึ่งแล้วคุณจาตุรนต์ฯ ก็กลับมาเสนอแนวทางสมานฉันท์
สายเสรีนิยมปรบมือกราว ชื่นชมยินดี
แต่สายอนุรักษ์โกรธเคือง เห็นว่าคุณจาตุรนต์ฯ “ไร้เดียงสา” และ “ไปตกหลุมเขา”
กระทบกระเทือนถึงสถานะทางการ เมืองของคุณจาตุรนต์ฯ ในครั้งนั้นเป็นอย่างมาก เพราะแนวคิดหลักของรัฐบาลในขณะนั้นคืออนุรักษ์นิยม
พรรคไทย รักไทยในขณะนี้อาจจะไม่ใช่ตัวแปรที่สำคัญอะไรในทางการเมือง แต่ถ้าแนวทางสมานฉันท์ควรก้าวลึกมากกว่านโยบายต่อ “ฝ่ายตรงข้าม” ก็ควรจะเริ่มต้นใช้แนวทางดังกล่าวกับ “ฝ่ายเดียวกัน”
ครับ ไม่ว่ารัฐบาลชุดนี้จะใส่ใจกระบวนการประชาธิปไตยแค่ไหน แต่การได้พันธมิตรทางการเมืองที่มีจุดร่วมกันในบางเรื่อง ก็คงไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไร
คุณจาตุรนต์ฯ อาจใช้โอกาสนี้เปิดกระบวนการกำหนดนโยบายต่อชายแดนภาคใต้ภายในกรอบของพรรคไทย รักไทย เพราะเมื่อพรรคการเมืองย้อนกลับมาเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลในอนาคตแล้ว ย่อมจะต้องมีแนวนโยบายว่าจะเป็นรัฐบาลประเภทไหน
ระหว่างนี้ เองก็กำหนดท่าทีและการแสดงออกสาธารณะได้ ไม่แพ้พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และพรรคการเมืองอื่นๆ ทุกพรรค
ถ้ารัฐบาลใช้ ประโยชน์เป็น กระบวนการแก้ไขปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็จะราบรื่นและสอดคล้องต้องกัน มาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศชาติต้องการ
อย่าลืมว่าความไม่ สมานฉันท์ในพื้นที่สามจังหวัดแต่เดิมนั้น ส่วนสำคัญมาจากความไม่สมานฉันท์ของผู้กำหนดนโยบายของประเทศในทุกระดับ ทั้งเจ้าของประเทศ ผู้บริหารประเทศ และผู้ปฏิบัติ
ถ้าแก้ไข ตรงนี้ได้ก็จะเป็นคุณูปการยิ่ง.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น