เนื่องจากในขณะนี้ ปัญหาชายแดนปราสาทพระวิหารเป็นที่สนใจของพี่น้องประชาชน พรรคเพื่อไทยเห็นว่าปัญหาเรื่องนี้เป็นปัญหาที่สำคัญที่ทุกฝ่าย ทุกสี ทุกพรรคการเมือง ควรร่วมมือหาทางออกให้กับประเทศ เพื่อที่จะสามารถร่วมมือกันปกป้องประโยชน์ของชาติ โดยไม่มีการนำประเด็นนี้ไปเป็นประเด็นการเมือง และจุดกระแสคลั่งชาติ อย่างที่มีการกระทำมาในอดีต
อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทย เห็นว่าจุดยืนและท่าทีของท่านนายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์ และรัฐบาล เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการแก้ปัญหา เพราะหากท่าทีและจุดยืนเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตามกระแส ก็ยากที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ ในเบื้องต้นนี้พรรคเพื่อไทยจึงขอแถลงถามจุดยืนและท่าทีของท่านนายกรัฐมนตรี ในประเด็น ดังต่อไปนี้
1. พรรคขอถามจุดยืนของนายกรัฐมนตรีว่า เส้นเขตแดนระหว่างประเทศไทย และกัมพูชาบริเวณเขาพระวิหารนั้น เป็นแบบใด นายกฯ จะยืนยันแบบใช้สันปันน้ำทั้งหมด ตามสนธิสัญญาปี 1904 หรือ ยืนยันแบบ ใช้สันปันน้ำทั้งหมด ยกเว้นกันตัวปราสาทให้อยู่ในเขตกัมพูชา ตาม แผนที่ชุด L 7017
2. พรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนว่าตัวปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา แต่ที่ดินใต้ตัวปราสาทเป็นของไทย นายกฯ เคยหยิบยกเรื่องนี้หารือกับกัมพูชาหรือไม่ และเคยสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศแสดงจุดยืนและท่าทีนี้กับกัมพูชาหรือ ไม่ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ท่าทีของกระทรวงการต่างประเทศ
3. นายกฯ มีจุดยื่นอย่างไรเกี่ยวกับการขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกร่วมกันกับกัมพูชา และถ้าเห็นด้วยกับการขึ้นทะเบียนร่วม นายกฯ จะขอจดทะเบียนร่วมในอะไร เช่น ร่วมในตัวปราสาทพระวิหาร หรือ ร่วมในพื้นที่ทับซ้อน หรือ ในทั้งสองส่วน
4. MOU ปี 2543 ที่ ม.ร.ว. สุขุมพันธ์ บริพัตร ไปลงนามกับกัมพูชา ในวันที่ 14 มิถุนายน 2543 ได้รับความเห็นชอบจากสภาหรือไม่ และทำไมจึงมีการใช้แผนที่อัตราส่วน 1: 200,000 ที่ฝรั่งเศสเป็นผู้จัดทำที่ทำให้ไทยแพ้คดีในศาลโลก มาใช้ในการปักปันเขตแดนทางบก
พรรคเพื่อไทยประสงค์ที่จะร่วมมือกับทุกฝ่ายในการปกป้องดินแดนและประโยชน์ของ ชาติ ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ตามข้อเท็จจริง และประวัติศาสตร์ที่ชัดเจน ทั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาข้อพิพาทเรื่องเขตแดนให้เป็นที่พอใจของทั้งสองประเทศ และเพื่อนำสันติภาพและความสุขกลับมายังประชาชนตามแนวชายแดนของทั้งสองประเทศ ต่อไป
พรรคเพื่อไทย
6 สิงหาคม 2553
แดงทังตัวและใจเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกท่านน่ะค่ะ
ตอบลบ