แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันอังคารที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เฉพาะหน้าเราจะ สู้อย่างไร

โดย วัฒนะ วรรณ
องค์กรเลี้ยวซ้าย

มีบางคนอธิบายเหตุการณ์สังหารหมู่พี่น้องประชาธิปไตยโดยพวกอำมาตย์ ว่าเป็นเพียงความพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์เท่านั้น แต่ไม่ได้พ่ายแพ้ทางการเมือง เป็นคำอธิบายที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ทำให้เห็นภาพ ขบวนการ นปช แดงทั้งแผ่นดินที่เคยก่อร่างสร้างตัว จากคนตัวเล็กๆรวมกันเป็นกลุ่มก้อน กระจายตัวตามจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ จนเป็นเครือข่ายการต่อสู้ของประชาชนที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย ผ่านการฝึกฝนการต่อสู้ทั้งทางทฤษฎีและภาคปฏิบัติ มาอย่างเข้มข้นและดุเดือดตลอดระยะหลายปีที่ผ่านมา ว่าตอนนี้ขบวนการประชาธิปไตยได้เติบโตไปมากแล้ว ทั้งทางทฤษฎีแนวคิดและจิตสำนึก เพียงแต่โครงสร้างเดิมนั้นได้ถูกทำลายไปชั่วคราวเท่านั้น เคยมีบทเรียนเช่นนี้มาแล้วเมื่อเมษายน ปีที่แล้ว คงต้องรอเวลารื้อฟื้นโครงสร้างเดิมหรือเปลี่ยนเป็นโครงสร้างใหม่ ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ก็แล้วแต่มวลชนจะต้องออกแบบกันเอง และอีกประการที่เรายังไม่แพ้ทางการเมือง ก็เพราะมวลชนยังพร้อมจะสู้ต่อ พวกอำมาตย์เผด็จการไม่สามารถทำลายมวลชนประชาธิปไตยให้หมดไปจากประเทศนี้ได้ ไม่มีทาง

สิ่งที่ นปช แดงทั้งแผ่นดินได้สร้างสรรค์ไว้อย่างมหาศาลก็คือ การฉายภาพเผด็จการที่เป็นเหลือบแอบซ่อนในคราบของประชาธิปไตยรัฐสภาไทยๆมาอย่างยาวนาน ได้เห็นชาติธาตุแท้กันจริงๆก็คราวนี้แหละ ว่าอยู่ฝ่ายไหน ฝักใฝ่แนวทางการเมืองอย่างไร ลบภาพฉากหน้าที่หลอกลวงสังคมว่าเป็นคนดีมีคุณธรรมเสียจนหมดสิ้น อีกทั้งเครือข่ายบริวาร นักวิชาการ ศาล ทหาร สื่อสารมวลชน ดารา นักร้อง หรือเอ็นจีโอ ที่อวดอ้างความดีงาม ความเป็นกลางของตนเอง ก็ล่อนจ้อน เห็นเนื้อหนังมังสากันไม่มีข้อยกเว้น

“ชาวบ้านชาวเมืองหูตาสว่างแจ่มชัดกันหมดแล้ว” จะมาหลอกเล่นปาหี สร้างความปรองดองสมานฉันท์ แต่อีกด้านก็ใช้ พรก ฉุกเฉิน ไล่ล่า จับกุม คุมขัง ฝ่ายตรงข้าม บางคนต้องหนีกันไปคนละทิศละทาง คิดดูซิ ว่ามันจะปรองดองกันได้จริงรึเปล่า และลองคิดดูว่ามวลชน เขาจะคิดอย่างไร จะมีความรู้สึกอย่างไร จิตใจคงเต็มไปด้วยความเคียดแค้น เจ็บช้ำน้ำใจ รอวันจะทวงศักดิ์ศรีคืนเพียงเท่านั้น

ยังไม่รวมการสูญเสียเพื่อนมิตร วีรชนประชาธิปไตย ที่บาดเจ็บเป็นพัน ล้มตายเกือบร้อย สูญหายอีกหลายสิบ ยังไม่รับการสะสาง ยังเป็นภาพความทรงจำที่เลวร้าย คับอกคับใจพี่น้องเสื้อแดงอยู่ตอนนี้ ชาตินี้อย่าได้ปรองดองกันเลยเสียดีกว่า

ถึงแม้ว่าตอนนี้โครงสร้าง นปช เดิม จะถูกทำลายไปอย่างมาก จนเพื่อนมิตรเสื้อแดงอธิบายไว้ว่า “ขบวนการเสื้อแดงมีมวลชนแต่ไร้แกนนำในตอนนี้” แต่เราต้องหยัดยืนปกป้อง ส่วนที่เหลืออยู่และพยายามก่อรูปมันขึ้นมาใหม่ให้ได้ การนำตนเองและการรวมกลุ่มกัน เป็นเรื่องสำคัญในตอนนี้ เพราะจะไม่ทำให้เราหดหู่เกินไป รวมถึงยังสามารถรังสรรค์กิจกรรม ทวงคืนศักดิ์คนเสื้อแดงได้อีกด้วย ดั่งเช่น กิจกรรมวันอาทิตย์ใส่แดง หรือ ใส่เสื้อแดงไปเลือกตั้ง เป็นต้น

และที่สำคัญ ถึงแม้สื่อเดิมของเราจะถูกปิดไปจนหมด เราก็ต้องกลับมาหาสื่อของเราในรูปแบบอื่นๆ แบบที่เราเคยทำในยุคเริ่มต้น ตามชุมชนต่างๆ มีเรื่อง มีราวอะไร ก็ฝากบอกกันไป ปากต่อปาก มีข้อมูล มีภาพ ก็ถ่ายเอกสาร แบ่งกันอ่านตามชุมชนตามเครือข่าย พวกอำมาตย์มันจะปิดหูปิดตาเราไม่ได้หรอก

นอกจากนี้แล้ว การรณรงค์ภาพกว้างก็ยังจำเป็น เบื้องต้น ต้องเรียกร้องให้มีการยกเลิก พรก ฉุกเฉิน มันแสดงให้เห็นแล้วว่า เป็นกฎหมายเผด็จการเต็มรูปแบบ จะจับคุมขังใครก็ได้ตามอำนาจความพอใจ โดยไม่มีข้อกล่าวหา หรือหลักสิทธิมนุษยชนใดๆ ทั้งสิ้น ร่วมถึงการเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษการเมืองทั้งหมดทันที ไม่มีประเทศประชาธิปไตยที่ไหนจะมีนักโทษการเมือง เว้นแต่ประเทศเผด็จการอย่างพม่าเท่านั้น ที่มีนักโทษการเมืองเต็มบ้านเต็มเมือง ซึ่งประเทศไทยจะต้องไม่เดินไปในแนวทางนั้น

สุดท้ายต้องสร้างกลุ่มศึกษาการเมือง ของแต่ละกลุ่มขึ้นมา เพื่อศึกษาบทเรียนการต่อสู้ในอดีต ทั้งบทเรียนของ นปช แดงทั้งแผ่นดินเอง หรือบทเรียนประวัติศาสตร์ของขบวนการอื่นๆ ทั้งไทย และสากล เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ สำหรับการต่อสู้รอบใหม่ ซึ่งผมเห็นด้วยกับข้อเขียนของ ใบตองแห้ง ที่บอกว่า “ต้องสู้บน ดินไม่ใช่ใต้ดิน” และ สมบัติ บุญงามอนงค์ ที่บอกว่า “เราต้องเอาชนะทางการเมือง ไม่ใช่ทางการทหาร” แนวทางเหล่านี้เท่านั้น ถึงจะสร้างสังคมใหม่ หรือรัฐไทยใหม่ ที่มีความเสมอภาพ และเท่าเทียมได้อย่างแท้จริง แนวทางอื่นๆ นั้น ก็ย่อมส่งผลให้สังคมเป็นแบบอื่นตามไปด้วย เนื่องจากเป้าหมายกับการกระทำมันจะสอดคล้องกัน

--
วัฒนะ วรรณ
องค์กรเลี้ยวซ้าย
ตู้ ปณ 2049 ปณฝ จุฬาลงกรณ์ กทม 10332

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน