แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ซีรีส์ ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ตอนที่ 7 เจ้า ที่ย่อมมีฤทธิ์


วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ซีรีส์ ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ตอนที่ 7 เจ้าที่ย่อมมีฤทธิ์


http://img688.imageshack.us/img688/7490/19622087.jpg

ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ก่อนรัฐประหาร
ตอน ที่ 7 : เจ้าที่ย่อมมีฤทธิ์
โดย : กาหลิบ
พิมพ์ครั้งแรก : กุมภาพันธ์ 2550 (หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน)


*******************************************************************************
ผู้ใหญ่ บ้านคนหนึ่งรีบออกมารับว่า ลงมือทาสีเอง เห็นศาลพระภูมิท่านเก่ามากแล้ว ไม่น่าดู ก็เลยซื้อสีมาทาจนเอี่ยมอ่องแล้วเห็นไหม?


*******************************************************************************

เจ้าที่ย่อมมีฤทธิ์


สัปดาห์หลังวันหยุดยาวดู จะหนักหนาสาหัสอยู่ ผมก็เลยเปลี่ยนใจไม่อยากเพิ่มความกดดันให้กับใคร เล่านิทานกันเล่นดีกว่า


กาลครั้งหนึ่งไม่นานมานี้ ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งมีศาลพระภูมิเก่าแก่ที่คนในหมู่บ้านนับถือมาก ศาลนี้ก็เหมือนศาลพระภูมิเจ้าที่ทั่วไป ทำด้วยไม้สัก เก่าคร่ำ มีหลังคาทรงไทยสวยงาม เห็นได้ชัดว่าสร้างขึ้นด้วยความประณีตบรรจง ถึงจะไม่หรูหราอัครฐานแต่ก็น่าชม


ความนับถือในศาลพระภูมิแห่ง นี้ทำให้ชาวบ้านเวียนเข้ามาบูชาโดยตลอด บางคนเข้ามาขอทำน้ำมนต์ไปให้พ่อแม่ดื่มกิน เพราะนอนแบบลุกไม่ขึ้น วิธีการก็ทำง่ายๆ เอาขวดใส่น้ำสะอาดมาเต็มปรี่ทีเดียว จากนั้นก็กราบกรานขอพรจากเจ้าที่ตามที่ตัวต้องการ เมื่อยกขวดนั้นขึ้นจบเหนือศีรษะก็เป็นอันเสร็จพิธี เอาน้ำกลับบ้านไปป้อนพ่อแม่


ได้ข่าวว่าหายวันหายคืน นี่เห็นออกมานั่งสบายอยู่ใต้ถุนเรือนแล้ว


บางคนก็มาขอฝน สำหรับนาข้าว เพราะปีกลายแล้งจนใจหาย เป็นหนี้สินเพิ่มขึ้นอีกไม่รู้จักเท่าไหร่ ลูกเรียนอยู่ราชภัฏก็ยังไม่รู้จะไปกู้เงินใครมาส่งเสีย ถ้าเจ้าที่จะกรุณาบันดาลให้ฟ้าฝนสมบูรณ์ ก็จะช่วยเหลือเยียวยาได้อย่างวิเศษ


บ้าง เข้ามาขอหวย อ้างเสียด้วยว่าตลอดชีวิตไม่เคยคิดร้ายต่อใครเลย แต่ก็จนแสนจน ถ้าหลวงพ่อจะให้เห็นเลขสักหน่อยก็จะพอเป็นเบี้ยต่อไส้ได้บ้าง


เลข ก็ปรากฏขึ้นบนเถ้าของธูปทันทีเลยเหมือนกัน ป้าแกก็ดีอกดีใจรีบกลับไปฝากเขาแทง ถูกหรือไม่ไม่ได้กลับมาบอก


ความ นิยมในศาลพระภูมิมีมากจนชาวบ้านบอกให้ผู้ใหญ่บ้านจัดงานประจำปีขึ้นทุกปี งานฉลองเจ้าที่กลายเป็นงานใหญ่ที่สุดของหมู่บ้าน ขนาดนายอำเภอยังมาร่วมงาน ชาวบ้านจะแต่งตัวสวยงามยิ้มแย้มแจ่มใส ไอ้หนุ่มอีสาวก็เฮฮาเตลิดเปิดเปิงไป บางทีกลับมาดึกๆ ดื่นๆ หรือล่อเอาเช้าเลยก็หลายราย


ผ้าแพรสี ต่างๆ ช้างม้าวัวควายตัวเล็กๆ ค่อยปรากฏขึ้นในศาลและรอบศาล สวยงามน่ากราบไหว้ขึ้นทุกที รถจากนอกเมืองผ่านมายังชะลอเหมือนจะรู้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ และพากันบีบแตรถวาย


วันหนึ่งผู้ใหญ่บ้านคนเก่าเกิดล้มเจ็บ บอกให้ใครๆ รู้ว่ากูทำงานไม่ไหวแล้ว ไปตามใครมาทำแทนกูทีเถิด ทำอย่างไรล่ะคราวนี้ ลูกหลานแกก็ไม่มีสักคน ชาวบ้านก็มองหน้ากันไปมา


ฉัน เองชายวัยกลางคนยกมือขึ้นในโบสถ์ฉันอาสาช่วยงานไปก่อนจนกว่าผู้ใหญ่แกจะหายดี


ชาวบ้านซุบ ซิบกันพึมพำ ทุกคนรู้ว่าแกเป็นเจ้าของร้านที่ปากทางเข้าหมู่บ้าน ย้ายมาจากไหนไม่รู้สักสองสามปีแล้ว รู้แต่ว่าแกมาตั้งตัวได้ที่นี่ จนชาวบ้านเป็นลูกค้าและเป็นลูกหนี้แกทั้งนั้น


ผู้ใหญ่บ้านคน ใหม่ออกแรงแข็งขัน เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้นหมู่บ้านก็สวยงามขึ้นอย่างผิดหูผิดตา


ศาลา รอรถที่เคยเอียงกะเท่เร่จะพังมิพังแหล่ เดี๋ยวนี้แข็งแรงมั่นคง มีลุงแก่ๆ สองสามคนไปนั่งโขกหมากรุกได้ทุกวัน


สุขศาลาก็ทาสีใหม่เสีย สวยงาม แค่เข้าไปก็รู้สึกว่าหายป่วย มันเพลิดเพลินเจริญใจดี


วัด กลางก็กลายเป็นวัดสะอาดสะอ้าน องค์พระประธานอร่ามไปหมดทีเดียว เพราะผู้ใหญ่แกนำขบวนสรงน้ำทำความสะอาดองค์พระ และแกยังเลี้ยงมื้อกลางวันกับมื้อเย็นตั้งสองมื้อ


คนเริ่มจะ ลืมผู้ใหญ่บ้านคนเก่าที่นอนป่วยอยู่ พาลนึกว่าแกตายไปแล้วเสียด้วยซ้ำไป


แต่ แล้ววันหนึ่ง คนก็ตะลึงกันไปทั้งหมู่บ้าน เมื่อเดินเข้าถึงลานกลางหมู่บ้านแล้วก็เห็นภาพนั้นกันทั่ว แม่สาวร้องวี้ดว้าย ไอ้หนุ่มเอะอะว่าอะไรกันวะ ส่วนยายแก่สองสามคนนั่นเป็นลมไปเลย


ศาลพระภูมิกลายเป็นสีชมพู สด


ผู้ใหญ่บ้านคนใหม่รีบออกมารับว่าลงมือทาสีเอง เห็นศาลพระภูมิท่านเก่ามากแล้วไม่น่าดู ก็เลยซื้อสีมาทาจนเอี่ยมอ่องแล้วเห็นไหม


ชาวบ้านอ้าปากค้าง


ผู้ใหญ่ บ้านคนเก่ารู้ข่าว จึงตีกลองเรียกประชุมชาวบ้านทั้งหมด บอกให้รู้โดยทั่วกันว่าผู้ใหญ่คนใหม่มันกาลีบ้านกาลีเมือง เอาไว้ไม่ได้แล้ว ขอให้ชาวบ้านจงไปจัดการมันให้จงได้


จงอย่าไปนึกถึงอะไรดีๆ ที่มันเคยทำ


ชาวบ้านก็เลยรุมสหบาทาผู้ใหญ่บ้านคนใหม่ ไม่ยอมฟังเสียงครวญคร่ำว่าทำไปด้วยเจตนาดีแท้ๆ จนแกเงียบเสียงไปเลย


นิทาน เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความคิดที่จะพัฒนาทุกคนนั้นผิด บางคนเขาก็ไม่อยากถูกพัฒนาก็มี


และยังสอนอีกด้วยว่า อยากพัฒนาที่ดินก็ทำไป แต่อย่าไปแตะต้องศาลพระภูมิเข้าให้ก็แล้วกัน.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน