Wed, 2010-09-01 01:00
แกนนำเสื้อแดงเชียงรายเผยผ่าน facebook อัยการสั่งไม่ฟ้อง 4 ผู้ต้องหา กรณีชุมนุมหน้าโรงแรมแสนภู เมื่อเดือนเมษา ปี 52 เจ้าตัวเผยความคิดอยากฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ให้เป็นคดีตัวอย่าง ทั้งแจงล่าสุดแค่ไปให้กำลังใจ 5 นร.-นศ.ชูป้ายไม่เอา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดนข้อหาเป็น “ผู้บงการ” เตรียมไปรายงานตัวต่ออัยการ 28 ก.ย.นี้
วันนี้ (31 ส.ค.53) เครือข่ายสังคมออนไลน์ facebook ในหน้าส่วนตัวของ นายธนิต บุญญลสินีเกษมได้เผยแพร่เอกสารคำสั่งแจ้งไม่ฟ้อง ของสำนักงานอัยการจังหวัดเชียงราย ลงวันที่ 26 ส.ค.53 ถึงผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเชียงราย สั่งไม่ฟ้อง 4 ผู้ต้องหา กรณีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อช่วงเดือนเมษายน ปี 2552 ซึ่งมีการตั้งเวทีปราศรัยประท้วงเพื่อขับไล่นาย
ผู้ต้องหาทั้ง 4 ประกอบด้วย นาย
คำวินิจฉัยของอัยการจังหวัดเชียงรายระบุ พิจารณาแล้วเห็นว่าการชุมนุมของผู้ต้องหาทั้ง 4 และกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นการชุมนุมทางการเมือง การชุมนุมดังกล่าวไม่มีผู้ใดพกพาอาวุธมาในการชุมนุมและไม่มีผู้ใดใช้กำลัง ประทุษร้ายแก่ชีวิตและร่างกาย ไม่มีการบุกรุกเข้าไปยังสถานที่ราชการ ทั้งไม่ปรากฏว่ามีการทำลายทรัพย์สินของทางราชการ แม้จะปรากฏว่ามีการปิดกันถนนบริเวณที่มีการชุมนุม แต่ก็เป็นการปิดกั้นในบางส่วน ซึ่งผู้ใช้ยวดยานสามารถสัญจรไปมาได้ถือได้ว่าเป็นการชุมนุมทางการเมืองโดย สงบ ปราศจากอาวุธ ย่อมได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63
ส่วนในความผิดฐานยืน ตั้ง วาง หรือกระทำการใดๆ ที่เป็นการกีดขวางการจราจร และความผิดฐานร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น คดีได้ขาดอายุความแล้ว
แกนนำเสื้อแดงเผยความคิดอยากฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ให้เป็นคดีตัวอย่าง
ด้านนาย
นอกจากนั้น ในปี 2552 เขายังถูกตั้งข้อหาอีกคดีหนึ่งจากกรณีเหตุการณ์เมื่อวันที่ 13 เม.ย.52 ซึ่งเขาและกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งได้รวมตัวกันปิดถนนบริเวณสี่แยกแม่กรณ์ หลังจากที่เมื่อวันที่ 12 เม.ย.กลุ่มคนเสื้อแดงนำโดยอดีต ส.ส.เชียงรายได้รวมตัวกันปิดถนนมาแล้วก่อนหน้า เพราะสถานการณ์การชุมนุมในกรุงเทพฯ มีความตึงเครียดขึ้น ทั้งนี้ คดียังกล่าวยังอยู่ในการพิจารณาของอัยการจังหวัดเชียงราย และสำนวนยังไม่มีการส่งกลับมา
แฉไปเรียกร้องรัฐฯ ยุติฆ่าประชาชน เจอคดีก่อความไม่สงบ
นายธนิตกล่าวต่อมาว่า ในส่วนคดีที่ถูกตั้งขอหาในปี 2553 มี 2 คดี คดีแรก จากกรณีเมื่อวันที่ 17 พ.ค.53 ซึ่งเขาและกลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดเชียงรายจำนวนร่วม 1,000 คน เดินทางไปยื่นหนังสือถึงรัฐบาลโดยผ่านทางผู้ว่าฯ ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย และให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ผ่านสำนักงานตำรวจภูธร จ.เชียงราย โดยมีเนื้อหาเพื่อเรียกร้องให้ยุติการเข่นฆ่าประชาชน แต่กลับถูกข้อหาผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ชุมนุมก่อความไม่สงบในบ้านเมือง โดยขณะนี้สำนวนคดีอยู่ที่อัยการจังหวัดฯ และต้องไปรายงานตัวกับอัยการพร้อมกับคดีเมื่อปี 2552 ที่ยังเหลืออยู่ ในวันที่ 29 ก.ย.นี้
แค่ไปให้กำลังใจ 5 นร.-นศ.ชูป้ายไม่เอา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดนข้อหาเป็น “ผู้บงการ”
ส่วนคดีสุดท้าย นายธนิตกล่าวว่า มาจากกรณีเมื่อวันที่ 16 ก.ค.53 ที่กลุ่มนักเรียน-นักศึกษาเชียงราย ชูป้ายประท้วง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งเขาถูกตั้งข้อในฐานะ “ผู้สั่งการ” โดยเจ้าหน้าที่นำเอารูปถ่ายที่ถูกโพสต์ไว้ใน Facebook ซึ่งถ่ายขณะที่เขาพูดคุยกับกลุ่มนักเรียน-นักศึกษาในวันที่ทำกิจกรรม มาใช้เป็นหลักฐาน ซึ่งเขาอธิบายว่าในตอนนั้นตัวเขาได้เข้าไปพูดสอบถามกับตำรวจที่จอดรถ จักรยานยนต์อยู่ในบริเวณนั้นว่าพวกนักเรียน-นักศึกษามาทำกิจกรรมอะไร เมื่อกลุ่มเด็กเห็นเข้าก็จึงเข้ามาพูดคุยทักทายแล้วก็มีคนถ่ายภาพในขณะนั้น ไว้และนำไปโพสต์ใน Facebook ในลักษณะที่เขาไปให้กำลังใจกลุ่มนักเรียน-นักศึกษา
นายธนิต ระบุด้วยว่า จากการที่เขาทำกิจกรรมกับคนเสื้อแดงมานานการเป็นที่รู้จักจึงไม่ใช่เรื่อง แปลก แต่เขาไม่ได้รู้จักกันเด็กกลุ่มที่มาทำกิจกรรมเป็นการส่วนตัว นอกจากนี้หากเขาจะสั่งการโดยผ่าน Facebook เขาใช้วิธีให้เด็กเหล่านี้ขับจักรยานยนต์มาหา หรือใช้โทรศัพท์สักการณ์น่าจะเป็นวิธีดีและง่ายกว่า เพราะถึงอย่างไรเด็กเหล่านี้ก็อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงรายอยู่แล้ว แต่ปัญหาก็คือตำรวจไม่เข้าใจ ไม่รู้จักว่า Facebook คืออะไร
“ก่อนหน้านี้เขาพยายามลอบบี้ กดดันน้องนักศึกษา นักเรียน ว่าให้ซัดทอดมาที่ผม แต่น้องเขายืนยันว่านัดหมายกันเอง ไม่มีใครสั่งการ จึงไม่มีการซัดทอด แต่เขาก็ไปเอาข้อมูลจากใน Facebook มาใช้” นายธนิตกล่าว
ส่วนในเรื่องของความคืบหน้าคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่งยื่นเรื่องต่ออัยการเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยสั่งไม่ฟ้องกลุ่มนักเรียน-นักศึกษา ส่วนเขามีนัดไปรายงานตัวกับอัยการในวันที่ 28 ก.ย.นี้ ซึ่งจะทำให้ทราบว่าจะถูกส่งฟ้องต่อศาลหรือไม่
“เขาเห็นว่ารบกับเด็กอย่างไรก็แพ้ เขาก็เลยกันเด็กออก” แกนนำกลุ่มพลังมวลชนเชียงราย แสดงความเห็น
โยกตำรวจ-ย่้ายผู้ว่าในพื้นที่ ส่อเค้าอาจเอี่ยวแดงเคลื่อยไหว
นายธนิตกล่าวต่อสถานการณ์ในพื้นที่ขณะนี้ด้วยว่า ล่าสุดเขาได้ทราบข้อมูลว่า พ.ต.ท.
ส่วนเรื่องความปลอดภัยในพื้นที่ นายธนิตกล่าวว่าหลังจากที่มีข่าวอดีตการ์ด นปช.เชียงใหม่ถูกยิงถล่มด้วยอาวุธสงครามเมื่อวานนี้ ก็ได้รับโทรศัพท์จากคนรู้จักเตือนให้ระวังตัวเองมากยิ่งขึ้น
เว็บบอร์ดคนเสื้อแดงรายงาน อดีตการ์ดเสื้อแดงเชียงใหม่ถูกยิงถล่มอาการสาหัส
ทั้งนี้ ทางเว็บบอร์ดของคนเสื้อแดง internetfreedom มี การรายงานข่าวว่า ที่ จ.เชียงใหม่ อดีตการ์ดเสื้อแดงกลุ่ม รักเชียงใหม่ 51 ถูกใบสั่งเก็บ โดนยิ่งถล่มด้วยอาวุธสงครามอยู่ในอาการโคม่า โดยเมื่อคืนวันที่29 ส.ค. เวลาประมาณ 01.15 น นาย กฤษดา และแฟนสาวกลับจากการขายของที่ ถนนคนเดินท่าแพ ขณะที่ขับรถกำลังจะเข้าบ้าน ที่หางดง ได้ถูกคนร้ายคาดว่าประมาณ 4 คน ขับรถเก๋ง สีบรอน์เข้าประกบแล้วกระหนำยิงด้วยอาวุธสงครามนับร้อยนัดแล้วขับรถหนีไป ซึ่งแฟนสาวของนายกฤษดา ได้ขับรถที่ถูกยิงนำนายก
แพทย์ผู้ดูแล ให้ข้อมูลว่ากระสุนทำลายอวัยวะสำคัญในร่างกายหลายจุด มีเลือดออกในช่องท้องตลอดเวลาซึ่งทาง วิทยุชุมชนได้ประชาสัมพันธ์ในการขอบริจาคโลหิตด่วนเพื่อช่วยชีวิตนายกฤษดา ซึ่งก็มีคนเสื้อแดงมาร่วมกันบริจาคโลหิตจำนวนมาก จากนั้นทางแพทย์ได้ทำการผ่าตัด 1ครั้งแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถหยุดการไหลของเลือดในช่องท้องได้ ซึ่งขณะนี้ผู้ป่วยอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ในห้อง ไอ ซี ยู นอกจากนี้ข่าวยังระบุด้วยว่าทางตำรวจได้เก็บหัวกระสุนในที่เกิดเหตุ พบเป็นกระสุน M16 A1 ซึ่งเป็นกระสุนที่ใช้ในกองทัพ
ครม.เห็นชอบโผแต่งตั้งโยกย้ายกระทรวงมหาดไทย
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ รายงาน ข่าวผลการประชุม ครม.วันที่ 31 ส.ค.นี้ ว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบบัญชีรายชื่อแต่งตั้งข้าราชการระดับอธิบดีใน 4 กรม ของกระทรวงมหาดไทย ตามที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยเสนอ โดยให้ นายวิเชียร ชวลิต อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน มาดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง แทนนายมงคล สุระสัจจะ ที่ขึ้นเป็นปลัดกระทรวง และโยกนายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ขึ้นเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนแทน
แต่งตั้ง นาย
นอกจากนี้ นาย
ก่อนหน้านี้ มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า บัญชีรายชื่อการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ เป็นบุคคลที่ใกล้ชิดนาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น