แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

แถลงการณ์ งานรำลึก “ 19 กันยา ตาสว่างทั้งแผ่นดิน ”




แถลงการณ์

งานรำลึก 19 กันยา ตาสว่างทั้งแผ่นดิน

ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) โดยกลุ่มคณะราษฎร ในวันที่ 24 มิถุนายน 2475 การเปลี่ยนแปลงการปกครองกระทำได้สำเร็จพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานรัฐธรรมนูญให้แก่ประชาชน การปกครองของประเทศจึงเปลี่ยนไป คือมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ พระมหากษัตริย์ทรงอยู่ใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ

แต่ระบอบประชาธิปไตยที่ให้อำนาจการปกครองทั้งหลายเป็นของประชาชนนั้น กลับไม่สามารถพัฒนาก้าวหน้าไปได้ตามเจตนารมณ์ของกลุ่มคณะราษฎร เพราะตลอดเวลานานกว่า 78 ปี ประเทศไทยกลับต้องเผชิญกับการก่อการรัฐประหารหลายครั้งทั้งในรูปแบบโจ่งแจ้ง และในรูปแบบรัฐประหารเงียบ จากการกระทำการของกลุ่มอำนาจเก่าที่ต้องการอำนาจการปกครองประเทศกลับคืน โดยได้สนับสนุนสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มเผด็จการทหาร ทำการปล้นชิงอำนาจของ ประชาชน และหลอกลวงประชาชนให้กลับไปสนับสนุนการกระทำของพวกเขา แต่เมื่อพวกเขาได้อำนาจไปแล้วก็ไม่สามารถบริหารประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรือง มีแต่การแข่งขันกันแย่งชิงฉกฉวยหาแต่ผลประโยชน์ส่วนตัวให้กับพวก กลุ่ม และบริวารของพวกเขา จนสร้างปัญหาต่อประชาชนและประเทศชาติจนเกือบสิ้นชาติ และเมื่อนั้นพวกเขาก็จะผลักภาระปัญหาของประเทศชาติทั้งหมดกลับมาให้ประชาชนเป็นผู้แก้ไข

และหากเมื่อใดก็ตามเมื่อระบอบประชาธิปไตยและประชาชนเข้มแข็งขึ้น สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศชาติลุล่วง สร้างความเจริญรุ่งเรืองขึ้นทัดเทียมนานาอารยะประเทศทั่วโลก เมื่อนั้นระบอบเผด็จการอำนาจเก่าก็จะกลับเข้ามายึดอำนาจปล้นชิงผลประโยชน์ของประเทศชาติเอาไปเป็นของส่วนตนอีก เป็นวงจรวัฎจักรที่เลวร้ายของประเทศไทยมานานกว่า 60 ปี

รัฐบาลของ นายกฯทักษิณ ชินวัตร ที่ประชาชนเลือกเข้ามาเป็นรัฐบาล ที่กำลังสร้างประเทศชาติให้รุ่งเรือง เจริญก้าวหน้า สร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีเลิศให้กับประชาชน มุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาชีวิตและปากท้องของประชาชน จนเป็นที่จับตาของนานาประเทศว่าประเทศไทยกำลังก้าวไปสู่ความเจริญและก้าวหน้า

แต่ในวันที่ 19 กันยายน 2549 ก็เกิดการรัฐประหารโดยเหล่าทหารที่ไม่มีความคิด พวกเขาได้รับการสนับสนุนจากเหล่าเผด็จการอำนาจเก่า นักการเมืองใจทาส และสมุนบริวารที่กลัวระบอบประชาธิปไตย ทำการล้มล้างรัฐบาล และโค่นล้มรัฐธรรมนูญที่ถือว่าดีที่สุดฉบับหนึ่งที่ประเทศไทยเคยมีมา

ตั้งแต่วันนั้น วันที่ 19 กันยายน2549 เป็นต้นมา ประเทศไทยก็เกิดปัญหาติดตามมาอย่างมากมาย ความรัก ความสามัคคี ของคนในชาติล่มสลายลง เกิดการแบ่งฟักแบ่งฝ่าย มีการปะทะกันทั้งด้านความคิดและการใช้กำลัง จนถึงกับต้องเข่นฆ่ากันตายอย่างโหดเหี้ยม อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ เหล่าเผด็จการที่กลัวการสูญเสียอำนาจก็ใช้อำนาจเถื่อนบิดเบือนกฎหมายจนเกิดปัญหาสองมาตรฐานสร้างความมัวหมองต่อระบบความยุติธรรมของประเทศ บิดเบือนข่าวสารความเป็นจริงสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชนเพิ่มมากขึ้น จนมาถึงปัจจุบันนี้ปัญหาต่างๆ ที่ไม่อาจเยียวยาแก้ไขโดยกลุ่มบุคคลกลุ่มเดียวได้ ยังจะกลายเป็นปัญหาวิกฤติของประเทศชาติจากการทำงานของรัฐบาลที่บ้าอำนาจที่เป็นผลพลอยได้และสืบทอดอำนาจ มาจากการรัฐประหารในครั้งนั้น

วันที่ 19 กันยายน 2553 ที่จะมาถึงในวันอาทิตย์นี้ กลุ่มประชาชนทั่วประเทศที่รักและต้องการระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง จึงถือเอาวันที่มาบรรจบครบรอบ 4 ปีของการทำรัฐประหารทำลายชาติ และครบรอบ 4 เดือน ที่รัฐบาลที่นำโดยพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำสั่งการไปยังทหารใจโหดเหี้ยมใช้อาวุธสงครามเข้าทำร้ายประชาชนในมาตรการหลอกลวงครั้งใหญ่ที่ว่า กระชับพื้นที่ จนทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนหลายพันคนที่ยังตรวจสอบสืบหาผู้กระทำความผิดไม่ได้ และยังจับกุมคุมขังแกนนำของฝ่ายประชาชนที่โดนทำร้ายอย่างขาดความยุติธรรม

พวกเราประชาชนในนาม กลุ่ม นปช.แดงทั้งแผ่นดิน , กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย , กลุ่มThailand Mirror , กลุ่มประชาชนเสื้อแดงเชียงใหม่ และศูนย์ประสานงานกลาง นปช. แดงเชียงใหม่ จึงร่วมกันจัดงาน มหกรรม “ 19 กันยา ตาสว่างทั้งแผ่นดิน ที่เชียงใหม่ ในวันที่ 19 กันยายน 2553 สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ ตั้งแต่เวลา 13.00 น. ถึง 24.00 น. เพื่อเป็นการรำลึกถึงสาเหตุที่สร้างปัญหาของประเทศชาติในปัจจุบัน ที่เกิดมาจากการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 และรำลึกถึงการสูญเสียชีวิตของผองเพื่อนของเราประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่ออกไปเรียกร้องการยุบสภาแก้ปัญหาประเทศชาติ แต่พวกเขากลับได้รับกระสุนปืนปลิดชีวิตเป็นการตอบแทน ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553

เราจัดงานในครั้งนี้เพื่อย้ำเตือนต่อทุกๆฝ่าย ทั้งประชาชนเจ้าของประเทศ เผด็จการอำนาจเก่า ทหารที่หลงมัวเมาในอำนาจ นักการเมืองใจทาส ข้าราชการทุกภาคส่วน การจะเสริมสร้างความรุ่งเรือง สร้างความเจริญ สร้างความผาสุกให้แก่ประชาชนและประเทศชาติ การแก้ปัญหาทุกอย่างในระบอบประชาธิปไตยนั้น ไม่อาจจะมุ่งไปหาอำนาจนอกระบบใดๆ จะต้องฟังเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศนี้เท่านั้น จึงจะแก้ปัญหาของประเทศชาติในครั้งนี้ได้

และเราประชาชนส่วนหนึ่งที่อยากให้ประเทศของเราสงบสุข จึงขอเรียกร้องต่อประชาสังคมไทยว่า

1.ให้ปล่อยตัวนักโทษการเมืองนปช.ทุกคนนับตั้งแต่หลังรัฐประหาร 19กันยายน2549เป็นต้นมา เพื่อสร้างสังคมปรองดองอย่างแท้จริง

2.ปฏิรูปศาลยุติธรรมให้เชื่อมโยงกับอำนาจของประชาชนและนำคณะลูกขุนมาใช้ในกระบวนการยุติธรรม

3.ปฏิรูป เศรษฐกิจ กระจายรายได้เป็นธรรมด้วยการยกเว้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ลดภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7 เปอร์เซ็นต์เหบือ 5 เปอร์เซ็นต์ จัดเก็บภาษีอัตราก้าวหน้า ภาษีมรดก ภาษีที่ดิน เพื่อนำมาสู้การจัดตั้งรัฐสวัสดิการ
4.
ประกันรายได้เกษตรกรและกรรมกรให้พอเพียงต่อการดำรงชีพสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

ในระบอบประชาธิปไตย ประชาชนทุกคนในประเทศไทยมีสิทธิความเท่าเทียมกันทุกๆคนการปกป้องระบอบ ประชาธิปไตยคือการปกป้องความสงบสุขของประเทศชาติ จงร่วมกันต่อต้านการใช้อำนาจเผด็จการทุกรูปแบบ ความอยู่ดีมีสุขของประชาชนจะเกิดขึ้นได้จริง จะต้องร่วมกันเสริมสร้างระบอบการปกครองประชาธิปไตยของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน เท่านั้น



..........................................................



รายละเอียดกิจกรรม งานมหกรรม " 19 กันยา ตาสว่างทั้งแผ่นดิน " ที่เชียงใหม่

18 – 19 กันยายน 2553



วันที่ 18 กันยายน 2553

ขบวนแรลลี่กรุงเทพ เชียงใหม่ พร้อมด้วยข้อความรณรงค์ให้ปล่อยตัวนักโทษการเมืองทั้ง 50 คน พร้อมออกเดินทางตั้งแต่งเวลา 06.00 น. ที่ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิล์ดลาดพร้าว โดยใช้เส้นทางถนนสายเอเชีย ผ่านจังหวัดปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี ชัยนาท นครสวรรค์ กำแพงเพชร ตาก ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ นัดคนเสื้อแดง และ ประชาชนร่วมกันแสดงความยินดีกับขบวนแรลลี่ตลอดเส้นทาง และ กลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเวทีประชาธิปไตยที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เพื่อรอรับขบวนแรลลี่จากกรุงเทพ และมวลชนคนเสื้อแดงจากต่างจังหวัดที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ แล้วนำเข้าที่พักในเวลา 23.30 น.


วันที่ 19 กันยายน 2553

ตั้งแต่เวลา13.00 น. นัดรวมตัวกันที่ สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ เวลา 14.00 น. จัดการเดินขบวนออกเดินพาเหรดรอบเมือง มีขบวนประเพณีวัฒนธรรม สะล้อซอซึง ตีกลองสะบัดชัย ขบวนล้อเลียนการเมือง เต้นระบำสมานฉันท์ชาวเหนือและชาวกรุง ขบวนรำลึกวีระชน พร้อมด้วยการแสดงการตัดสินประหารชีวิตผู้สั่งการสังหารหมู่ประชาชน ไปตามถนนรอบตัวเมืองเชียงใหม่

และในเวลา 18.00 - 23.30น. มีการปราศรัย ของ อดีตท่านนายกฯสมชาย วงศ์สวัสดิ์ , คุณสุนัย จุลพงษศธร , คุณจตุพร พรหมพันธ์ , คุณวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ , คุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข และนักพูดเสื้อแดงอีกหลายท่าน รวมทั้งการโฟนอินจากแดนไกลอีกหลายเสียง


มาพบกันให้ได้ครับพี่น้องเสื้อแดงทุกๆท่าน




...............................................




ภาพงานแถลงข่าวของ ศูนย์ประสานงานกลาง นปช. แดงเชียงใหม่ ในการจัดงานมหกรรม " 19 กันยา ตาสว่างทั้งแผ่นดิน " ที่เชียงใหม่ ในวันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน นี้ เพื่อเป็นการรำลึกถึงการครบรอบ 4 ปี ที่เผด็จการทหารและอำนาจเก่าทำรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลของประชาชน และล้มล้างระบอบประชาธิปไตย 19 กันยายน 49 และครบรอบ 4 เดือนการที่รัฐบาลสั่งฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่แยกราชประสงค์ 19 พฤษภาคม 53







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน