แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันพุธที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2553

กลุ่มคนเสื้อแดงรั้งสุดยอด 10 ข่าวดังแห่งปี 2553 จากการประกาศผลของ นิตยสารไทม์




นิตยสารไทม์ แมกกาซีน นิตยสารเชิงข่าวชื่อดังของโลก
เปิดเผยผลการจัดอันดับ 10 ข่าวดังที่สุดแห่งปี 2010 (Top 10 World News Stories)
ปรากฏว่าข่าวการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ลงเอยด้วยการเผาสถานที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ
และการนองเลือดนั้น ติดทำเนียบ 10 ข่าวเด่นของโลกในปีนี้ด้วย



ไทม์ ระบุว่า เกิดความเคลื่อนไหวและข่าวสารขึ้นมากมาย
ในช่วงเดือน เม.ย. และ พ.ค.ที่ผ่านมาในประเทศไทย

เมื่อผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลจำนวนมากรวมตัวกันที่บริเวณย่านธุรกิจ ใจกลางกรุงเทพฯ
เพื่อแสวงหาหนทางในการโค่นล้มรัฐบาล
ที่กลุ่มผู้เคลื่อนไหวเล็งเห็นว่าเป็นกลุ่มชนชั้นสูงผู้มีอภิสิทธิ์ในสังคม
และมิได้มาจากความเป็นประชาธิปไตย
โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าเชิงในนามของกลุ่มผู้เคลื่อนไหว

นอกจากนี้ ไทม์ยังระบุว่า
นักวิเคราะห์จำนวนมากมองว่าการประท้วงที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของความแตกร้าว
ที่ขยายวงกว้างมากขึ้นในประเทศไทย ระหว่างคนเมืองและคนชนบท คนรวยและคนจน
และกลุ่มคนสนับสนุนพระมหากษัตริย์และกลุ่มประชานิยม

การประท้วงแปรเปลี่ยนเป็นฉากของความรุนแรง ด้วยการปะทะกัน
ระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกลุ่มผู้ประท้วง
นำไปสู่ผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 91 คน และบาดเจ็บกว่า 1,800 คน
ทำให้เหตุการณ์นี้ตกเป็นที่จับตาของสื่อต่างชาติทั่วโลก
โดยมีรายงานและแพร่ภาพแทบตลอด 24 ชั่วโมง จากแนวเขตต่อสู้ในพื้นที่กรุงเทพฯ

นอกจากนี้ ไทม์ยังเห็นว่า แม้เหตุการณ์ทั้งหมดจะสงบลงแล้ว
แต่อารมณ์และความรู้สึกของผู้คนยังคงคั่งค้างอยู่ในสังคมไทย

ในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มคนเสื้อแดงก็ยังรวมตัวในกรุงเทพฯ
เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์เมื่อราว 6 เดือนก่อน
ซึ่งนิตยสารดังกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า การเคลื่อนไหวและการประท้วง
จึงมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน