Wikileaks ผู้เปิดโปงความลับบนโลกอินเตอร์เน็ต
สังคม social network บนโลกอินเตอร์เน็ต เริ่มร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเวปไซต์ที่มีชื่อว่า Wikileaks.org ได้มีมือดีนำเอาเอกสารการปฏิบัติการลับในประเทศต่างๆ ของสหรัฐมาเปิดเผยให้ชาวโลกได้รับรู้กัน จนหลายประเทศที่โดนหางแถวต้องปิดกั้นเวปไซต์ Wikileaks.org กันจ้าละหวั่น รวมถึงประเทศไทยด้วย ว่ากันว่าถ้าคุณมีความลับอยากจะบอก แต่ไม่รู้จะบอกใครดี ที่ Wikileaks.org เป็นที่แฉข่าวสำหรับคุณ
Wikileaks.org ไม่ใช่เวปไซต์ธรรมดาๆ ทั่วไป ทั้งในแง่รูปแบบและเนื้อหา โดยรูปแบบของเวปเป็นการนำระบบของ Wikipedia หรือสารานุกรมออนไลน์ชื่อดังมาใช้ ทำให้ใครก็ตามสามารถเข้าไปแก้ไขบทความหรือเนื้อหาได้ตลอดเวลา ส่วนความไม่ธรรมดาในแง่ของเนื้อหานั้นก็คือ ที่นี่เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลความลับต่างๆ ปัญหาความไม่ชอบธรรม เรื่องราวการคอร์รัปชั่น หรือเรื่องที่สาธารณชนควรรับรู้โดยอาจเป็นข้อมูลของรัฐบาล ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ความลับทางทหาร ไม่เว้นแม้กระทั่งความลับขององค์กรทางศาสนา
เวปไซต์ที่ว่านี้มีชื่อว่า Wikileaks.org ซึ่งเปิดตัวมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2007 หรือเป็นเวลาหลายเดือนมาแล้วที่สมาชิกใน Wikileaks ได้เข้ามาเผยแพร่บทความเปิดโปงความลับและเรื่องอื้อฉาวต่างๆ จนเป็นที่กล่าวขวัญกันไปทั่วโลก ขณะเดียวกันก็ถูกเพ่งเล็งจากรัฐบาลในหลายประเทศแล้วเช่นกัน เพราะเวปไซต์นี้เปิดรับข้อมูลจากทั่วโลก โดยเน้นประเทศในเอเชีย ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง แอฟริกา และกลุ่มประเทศที่เคยเป็นอดีตสหภาพโซเวียต
เรื่องแรกที่นำมาเปิดโปงตั้งแต่ก่อนเปิดตัวเวปไซต์อย่างเป็นทางการก็คือ การปล้นชาติในประเทศเคนยา ด้วยอำนาจการบริหารของอดีตประธานาธิบดี Daniel Arap Moi ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็ได้สร้างความวุ่นวายในระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่กำลังจะเกิดขึ้นพอสมควร
ถัดมาเป็นการเปิดโปงปฏิบัติการควบคุมตัวนักโทษในคุกของสหรัฐอเมริกา ที่อ่าวกวนตานาโม โดย Wikileaks ระบุว่าสหรัฐมีนโยบายซ่อนตัวนักโทษบางคน จากการช่วยเหลือขององค์การกาชาดสากล รวมทั้งยังมีการใช้สุนัขในการข่มขู่นักโทษอีกด้วย
บทความต่างๆ เหล่านี้สร้างความไม่พอใจแก่กระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นการนำความลับสุดยอดทางทหารมาเปิดเผย ขณะที่ Julian Assange หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Wikileaks บอกว่านี่เป็นเรื่องที่ทุกคนมีสิทธิ์รับรู้ถึงความไม่ชอบธรรมที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เกิดขึ้นในประเทศของตัวเอง นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลความลับและความไม่ชอบธรรมในประเทศต่างๆ อีกนับร้อยประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย และล่าสุดทางการสหรัฐฯ ก็โดนเข้าเต็มๆ เมื่อข้อมูลลับสุดยอดรั่วบน Wikileaks โดยมีการแฉว่ากษัตริย์ซาอุฯ ได้กระตุ้นสหรัฐฯ ให้โจมตีอิหร่าน
เวปไซต์ที่ชื่อ วิกิลีกส์ (Wikileaks) ตั้งขึ้นเพื่อนำข้อมูลลับในประเทศต่างๆ ออกมาเปิดเผยในสื่อมวลชน โดยเมื่อเร็วๆ นี้ เวปไซต์แห่งนี้ นำข้อมูลลับจำนวนกว่า 250,000 ชิ้น ส่งมอบให้กับสื่อมวลชนสำคัญทั่วโลก
ล่าสุดนี้ หนังสือพิมพ์การ์เดียน ของอังกฤษเปิดเผย โดยอ้างแหล่งข่าวของวิกิลีกส์นี้ว่า กษัตริย์อับดุลเลาะห์ King Abdullah ของซาอุดิอาระเบีย “ได้เกลี้ยกล่อมหลายครั้งให้สหรัฐฯ ทำการโจมตีอิหร่าน เพื่อหยุดโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ (ของประเทศนั้น)...”
“ตัดหัวของงูตัวนี้ซะ” เป็นคำพูดที่ทูตซาอุดิอาระเบียประจำกรุงวอชิงตัน อ้างว่ากษัตริย์ซาอุฯ กล่าวกับนายพลเดวิด เพทราอีอุส (General David Petraeus) ในการพบปะกัน เมื่อเดือนเมษายน 2008
นาย Julian หนึ่งในผู้ก่อตั้ง เป็นชาวออสเตรเลียโดยกำเนิด แต่ขณะนี้อาศัยอยู่ในแอฟริกา นอกจากเขาจะเป็นผู้ก่อตั้ง Wikileaks แล้ว Julian ยังเป็นนักเขียนและแฮคเกอร์อีกด้วย ซึ่งเหตุนี้เองที่อาจจะทำให้เวปไซต์แห่งนี้อยู่รอดปลอดภัยจากการปิดกั้น เสรีภาพในการเผยแพร่ข้อมูลมาจนถึงทุกวันนี้
เจ้าของชื่อ Wikileaks ที่แท้จริงนั้นอาศัยอยู่ในเคนยา แต่เจ้าตัวกลับไม่รู้เรื่องเวปไซต์แห่งนี้มากนัก ส่วนเซิร์ฟเวอร์ก็ดูเหมือนจะตั้งอยู่ในประเทศสวีเดน แต่จริงๆ ยังมีเซิร์ฟเวอร์สำรอง (Mirror) ตั้งอยู่มากมายทั่วโลก แม้กระทั่ง Ben Laurie ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบความปลอดภัยของ Wikileaks และยังเป็นหนึ่งในที่ปรึกษาของเว็บ ก็ยังไม่รู้ว่าเซิร์ฟเวอร์ที่แท้จริงตั้งอยู่ที่ไหนกันแน่ และใครเป็นผู้ดูแลเวปนอกเหนือจากผู้ก่อตั้งอย่าง Julian
นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่สมาชิกทั่วโลกต่างยอมรับในการรักษาความลับได้เป็น อย่างดีของ Wikileaks จึงนำเรื่องราวต่างๆ มาเผยแพร่กันอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามพบว่าหลายครั้งมีบทความที่ไม่น่าเชื่อถือปะปนอยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่ง Julian ก็กำลังพิจารณาว่าจะเลิกใช้ระบบ Wiki ดีหรือไม่ และจะเปลี่ยนมาเผยแพร่บทความก็ต่อเมื่อเรื่องที่สมาชิกส่งเข้ามาได้พิสูจน์ ความจริงแล้วเท่านั้น
“เวลานี้เป็นยุคของนักสื่อสารมวลชนและนักเคลื่อนไหวต่างๆ ที่จะได้เผยแพร่ข้อมูลได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องเกรงกลัวอิทธิพลใดๆ หรือไม่ต้องเซ็นเซอร์ตัวเองอีกต่อไป ลองนึกถึงโลกที่รัฐบาลหรือบริษัทคอยดูแลประชาชนและพนักงานบริษัทให้อยู่กัน อย่างมีความสุขสิ นั่นคือโลกที่เรากำลังสร้างให้มันเป็นจริงขึ้นมา”
แม้วันนี้Julian จะวาดฝันไว้อย่างสวยหรู แต่ยังไม่มีใครรับประกันได้ว่า Wikileaks จะอยู่รอดปลอดภัยไปได้นานเท่าไร อย่างไรก็ตาม นี่ถือเป็นเวปไซต์ที่มีแนวคิดและอุดมการณ์อันสร้างสรรค์และน่ายกย่องไม่น้อย ในสภาพวะมีความไม่ชอบธรรมและทุจริตเกิดขึ้นไปทั่วทุกหัวระแหง
ในสังคม social network ที่กำลังเข้มแข็งขึ้นทุกวันๆ มันดูเหมือนจะอันตรายขึ้นเป็นเงาตามตัวไปด้วย ลองย้อนความหลังเมื่อครั้งที่ google เครื่องมือในการค้นหาที่เจ๋งที่สุดในโลกกำเนิดขึ้น หลายคนต่างทึ่งในความสามารถของเจ้าเครื่องมือที่เรียกว่า serch engine ตัวนี้ หลายคนแทบจะก้มลงกราบหรือจุดธูปขอบพระคุณอะไรก็ตามที่ช่วยดลบันดาลให้กำเนิด google ขึ้นมา ทำให้เครื่องมือในการหาอะไรก็ได้ที่อยากรู้ มันเป็นห้องสมุดของโลกที่ใหญ่มาก
อย่างไรก็ตาม google ก็ยังเป็นเวปไซต์ที่นำเสนอเฉพาะข้อมูลทั่วไป ที่ใครๆ ก็สามารถรู้ได้ และเช่นกันก็ทั่วๆ ไปที่ใครๆ ก็สามารถจะอัพโหลดข้อมูลที่ใครๆ เขียนขึ้นไปบนเวปนี้ได้ แต่ปัจจุบันได้มีเวปไซต์ที่เกิดขึ้นมาเพื่อทาบรัศมี google ชื่อว่า Wikileaks แต่แนวทางดูเหมือนจะต่างกัน
เวปไซต์ Wikileaks ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อเผยแพร่ข้อมูลที่ว่ากันว่าเป็นความลับทั้งจากภาครัฐและ เอกชนทั่วโลก โดยรับประกันเรื่องความปลอดภัย และการรักษาความลับของแหล่งข้อมูล พูดง่ายๆ ก็คือ เมื่อก่อนหากเรามีข้อมูลหรือเอกสารที่เป็นความลับอยู่ในมือ 1-2 ฉบับ เราก็ไม่รู้จะนำออกเผยแพร่ที่ไหน เพราะห่วงเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งอาจโดนตามเก็บ ตามอุ้ม ได้ไม่ยาก ในแดนดินถิ่นสยามแห่งนี้ แต่ในปัจจุบัน หากเรามีเอกสารหลักฐานที่เป็นความลับ เกี่ยวกับการทหาร นักการเมือง เราก็สามารถส่งข้อมูลเหล่านี้ไปยัง Wikileaks เพื่อทำการอัพโหลดขึ้นระบบ โดยที่รัฐบาล หรือนักการเมืองตัวโกงเหล่านั้นไม่สามารถติดตามได้แม้แต่เงาว่าเอกสารต่างๆ เหล่านี้มีแหล่งที่มาจากใคร
เวปไซต์นี้จดทะเบียนเวปไซต์ที่สวีเดน ส่งข้อความหรือข่าวสารไปอัพโหลดที่เบลเยี่ยม และถอดรหัสลับ หรือ encode ที่ไอซ์แลนด์ โดยทั้งสามประเทศนี้เป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูล และคุ้มกันความลับของแหล่งข่าวอันดับ 1 และ 2 ของโลก มีกฎหมายหลายฉบับที่เอื้อให้สามารถดำเนินกิจกรรม “เปิดโปง” ได้อย่างสบายอุรา
หากมองกันอย่างเร็วๆ เวปไซต์นี้ก็ดูเหมือนจะเป็นคุณมากกว่าโทษ เพราะมันเปิดโอกาสให้คนทั่วโลกได้เข้าถึงสิ่งที่เรียกว่า “ความลับ” ซึ่งคนธรรมดาสามัญไม่อาจเข้าถึงได้ ยกตัวอย่างเช่น การที่เวปไซต์นี้พึ่งเผยแพร่เอกสารลับเกี่ยวกับปฏิบัติกาทางทหารใน อัฟกานิสถานของอเมริกา และพันธมิตรที่แสดงให้เห็นถึงความโหดร้าย ป่าเถื่อน และไร้ซึ่งมนุษยธรรม รวมถึงคลิปวีดีโอการกราดยิงพลเรือนและนักข่าวนับสิบด้วยปืนกลอากาศจากเฮลิ คอปเตอร์ซึ่งสร้างความอัปยศและโกรธาให้กับกระทรวงกลาโหมสหรัฐจนถึงขนาด พยายามตามปิดเวปไซต์นี้ทั้งบนดินและใต้ดิน แต่ Wikileaks มีตัวประกันที่เรียกว่า “เอกสารลับ” อีกนับหมื่นฉบับที่ทาง Wikileaks ประกาศว่าหากรัฐบาลสหรัฐคิดทำลายเวปนี้ละก็ เอกสารลับเหล่านี้จะถูกเผยแพร่บนอินเตอร์เน็ตทันที ซึ่งอาจจะพลิกโฉมหน้าสงครามก่อการร้ายเหมือนเมื่อสมัยมีคดีอื้อฉาว Watergate เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว อันส่งผลให้ประชาชนอเมริกัน มีมุมมองต่อสงครามเวียดนามต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม มีการกล่าวอ้างว่า ความลับที่นำมาเปิดเผยดังกล่าว ส่งผลต่อความปลอดภัยของทหารอเมริกัน และแหล่งข่าวทางทหารในอัฟกานิสถาน เนื่องจากในเอกสารเหล่านั้น ระบุทั้งชื่อ ชั้นยศ สถานที่ เวลา ในการนัดหมาย หรือการส่งมอบข่าวกรองต่างๆ ซึ่งจะส่งผลให้ปฏิบัติการทางทหารของอเมริกันตกอยู่ในภาวะเสียเปรียบทันที หากข้อมูลสำคัญเหล่านี้ตกไปอยู่ในมือของผู้ก่อการร้าย
ด้วยความร้อนแรงของ Wikileaks ส่งผลให้ทางการไทย ได้ใช้กฎหมาย พรก.ฉุกเฉิน ปิดกั้นเวปไซต์ http://WWW.Wikileaks.org ในประเทศไทย โดยอ้างเหตุผลเรื่องความมั่นคง
การบล็อกเวปไซต์ของ Wikileaks ในไทยนั้น เนื่องจากพบว่าในเวปไซต์นั้นมีเอกสารและข้อมูลที่เรียกกันว่า “ลับ ลวง พราง” ที่ทางรัฐบาลไทยอยากให้เป็น “ความลับตลอดกาล” รวมอยู่ด้วย ผ่านไปได้ไม่กี่วัน มีเวปไซต์ใหม่เกิดขึ้นมีชื่อว่า “thaileaks” เกิดขึ้น พร้อมกับข้อความถึงรัฐบาลไทย กล่าวหาว่าเป็นการปิดเวปไซต์อย่างไม่เหมาะสม ตามด้วยคำขู่สำทับประมาณว่า หากยังพยายามปิดกั้นการตีแผ่ความจริง (น่าจะเรียกว่าแฉ) เราซึ่งมีเครือข่ายเปรียบเสมือนใยแมงมุม มีท่อ (ใน message ใช้คำว่า tunnel) ที่เปรียบเสมือนอุโมงค์ในการนำส่งข่าวสารอย่างกว้างขวาง จะทำการ “แฉ” ข้อมูลที่เป็นความลับมากกว่านี้
จากการเผลแพร่เอกสารลับหลายครั้งหลายคราว หลายฝ่ายยังไม่สามารถฟันธงได้ว่า เวปนี้มีประโยชน์หรือเป็นโทษกันแน่ เพราะถ้ามองในแง่มุมของการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร การประพฤติมิชอบของนักการเมือง และข้าราชการคดโกงที่มีอยู่มากมายเหลือเกินในขณะนี้ในเมืองไทยของเรา ก็อาจทำให้พวกเหลือสังคมพวกนี้ ได้ตระหนักว่า “ความลับไม่มีในโลก” ก็อาจจะลดความชั่วในตัวลงได้บ้าง
ในทางกลับกัน ข้อมุลที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ ทั้งที่ตั้ง พิกัด กลยุทธ ยุทธวิธีต่างๆ อาจจะถูกนำมาเปิดเผยส่งผลให้ความสามารถในการรุกราน การป้องกันประเทศลดน้อยถอยลงไปอีกก็ได้ ก็นับเป็นจุดเปลี่ยนอีกอย่างบน social network ที่หมิ่นเหม่อยู่บนเส้นบางๆ ที่กั้นระหว่าง “โจร” กับ “ผู้พิทักษ์”
http://www.internetfreedom.us/thread-7016.html
Wikileaks ล้วน ๆ ไม่มีเจือ ไล่ตั้งแต่อันแรกจนถึงล่าสุด
http://www.guardian.co.uk/world/series/u...-documents
wikileaks จับมือกับ Guardian ปล่อยของ
เวป นี้สรุปเอกสารต่างๆ ที่วิกีลีก แฉออกมา ล่าสุดมีของอิสราเอล ของไทยก็หาอ่านเอาครับ
http://blogs.voanews.com/breaking-news/tag/wikileaks/
http://www.internetfreedom.us/showthread.php?tid=6919
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น