แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2553

เมื่อประชาชนและศาสนาจักรหมดความอดทน จึงเกิดบันได 7 ขั้น ...ส่งรัฐบาลเผด็จการกลับสู่ปรโลก


หลัง จากศาสนจักรได้อ่านแถลงการณ์ประณามรัฐบาลที่โกงผลการเลือกตั้ง บรรดานักบวชและประชาชนก็ประกาศรวมพลังกันเดินขบวนประท้วงโดยมีผู้เข้าร่วม ชุมนุมกว่า 3 ล้านคน ถึงแม้ว่าสื่อของรัฐในอาณัติของมาร์กอสจะออกข่าวว่า มีคนเพียง 2 หรือ 3 พันคนเท่านั้นก็ตาม

7 ขั้นตอนการโค่นล้มมาร์กอสประกอบด้วย

1. ขั้นแรก คือให้ทุกคนหยุดทำงานในวันทำงานวันแรกหลังการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของมาร์กอส
2. ขั้นต่อมา ได้แก่การร่วมมือร่วมใจกันเลิกใช้บริการของธนาคารที่เป็นพรรคพวกของมาร์กอส ใครที่เป็นลูกค้าอยู่ก็ให้ถอนเงินออกและอย่านำเงินเข้าฝากใหม่
3. จากนั้นก็บอยคอตสื่อมวลชนทุกแขนงที่เป็นทาสรับใช้มาร์กอส
4. จากนั้นชาวฟิลิปปิโนได้รับการขอร้องให้ชะลอการจ่ายเงินค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาให้ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้
5. รวมทั้งบอยคอตการซื้อข้าวของในห้างสรรพสินค้ารัสตันและร้านขายของชำในเครือ
6. และเลิกอุดหนุนผลิตภัณฑ์ของเครือซานมิเกลซึ่งมี เบียร์ ไอศกรีม นม เนยแข็ง ซึ่งบริษัทนี้เป็นตัวแทนจำหน่าย
7. เริ่มจุดชนวนการประท้วงโดยสงบที่กรุงมะนิลาก่อน แล้วจึงค่อยๆ แผ่ขยายออกไปทั่วฟิลิปปินส์

การเรียกร้องของ โครี่ อากีโน่ ให้บอยคอตได้รับการตอบสนองด้วยดีและในทันที...
ขณะที่อิเมลด้า มาร์กอส พยายามดิ้นรนอย่างเต็มที่ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถจะดึงวงการศาสนากลับมาร่วมด้วยได้ อย่าว่าแต่จะซื้อเสียง ขนาดดึงให้มาเข้าข้างมาร์กอส หล่อนก็ยังทำไม่ได้เสียแล้ว แน่นอนว่า "สำหรับนักบวชนั้น เงินไม่มีความหมาย" จากปากคำของบราเธอร์ คิซอน หนึ่งในนักบวชผู้เคลื่อนไหว

ยุคปัจจุบันเมื่อทำเนียบ"มาลากันยัง"สถานที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นดุจ พระราชวังอันหรูหราของครอบครัวมาร์กอส เปิดให้คนทั่วไปเข้าชมได้ คนฟิลิปปิโนจนๆ เข้าไปชม แล้วก้พูดกันว่า "แปลกนะ ...อิเมลด้าบูชานักบุญตั้งหลายองค์ แต่ไม่เห็นมีองค์ไหนช่วยหล่อนเลยสักองค์เดียว"

ขบวนการต่อต้านมาร์กอสเรียกว่า"การประท้วงโดยสันติ" ใช้สัญญลักษณ์สีเหลืองแทนการสนับสนุนโครี่ อากีโน (ขณะที่ฝ่ายมาร์กอส ใช้สีแดง-น้ำเงิน) ประชาชนเหล่านั้นจะพกผ้าขนหนูเปียกๆ ไว้ในกระเป๋าถือ พร้อมด้วยน้ำมะนาวพันธุ์พื้นเมืองซึ่งมีคุณสมบัติแก้พิษระเบิดแก๊สน้ำตาได้ ในถุงพลาสติกพร้อมสรรพ สุดท้ายรัฐบาลมาร์กอสก็พังพินาศลงเมื่อฝูงชนรวมทั้งพระและแม่ชีเข้าล้อม ทำเนียบรัฐบาลและฝ่ายทหารส่วนหนึ่งไม่ปราบปรามประชาชนแต่ได้แปรพักตร์เข้าปก ป้องมิให้ทหารฝ่ายทรราชย์มาร์กอสเข่นฆ่าประชาชน การประท้วงครั้งนี้มีคริสต์ศาสนาจักรร่วมสนับสนุนด้วยอย่างแข็งขัน (โมเดลนี้พันธมิตรได้เคยนำมาประยุกต์ใช้โดยให้นักบวชสันติอโศกเป็นตัวแทน ศาสนาจักร ใช้สีเหลืองเป็นสัญญลักษณ์ ใช้ผู้หญิงเป็นแนวหน้า ล้อมทำเนียบและเตรียมการให้เกิดความรุนแรงด้วยคาร์บอมเพื่อให้ฝ่ายทหารยึด อำนาจ แต่ล้มเหลวจนต้องบุกยึดสนามบินซึ่งก็ไม่สำเร็จสุดท้าย"มือที่มองไม่เห็น "ต้องใช้คำตัดสินจากตุลาล้มรัฐบาล)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน