แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2553

ดร.ซุนยัดเซ็น ผู้นำในการโค่นล้มฮ่องเต้

ดร.ซุนยัดเซ็น ผู้นำในการโค่นล้มฮ่องเต้

วันนี้ได้ดูหนังเรื่อง


ดร.ซุนยัดเซ็น
ผู้นำในการโค่นล้มระบอบฮ่องเต้ของจีน
ผู้ก่อตั้งพรรคก๊กมินตั๋ง
ผู้เป็นประธานาธิบดีคนแรกของจีน
ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาของประเทศจีน


หนังเรื่องนี้เป็นเสี้ยวหนึ่งของเส้นทางการปฏิวัติ
เป็นช่วงที่ ดร.ซุนยัดเซ็น จะเดินทางมาที่ฮ่องกง
เพื่อร่วมประชุมวางแผนโค่นล้มราชวงศ์ชิงของจีน
โดยจะมีการก่อจราจลในหลายๆ มณฑล
จนปฏิวัติล้มราชวงศ์ชิงได้สำเร็จ
หนังเรื่องนี้เน้นเรื่องบอดี้การ์ด
หรือคนที่มาคอยอารักขาดร.ซุนยัดเซ็น
ขณะอยู่ในฮ่องกง
โดยที่ราชวงศ์ชิงก็ส่งคนมาลอบสังหาร
สรุปสุดท้ายของหนังเรื่องนี้
บอดี้การ์ดแต่ละคน
ได้ทำหน้าที่ปกป้อง ดร.ซุน จนตายไปทีละคนจนหมด
และลูกชายคนเดียวของ หลีอิ้วถัง
ซึ่งจับฉลากได้เป็นคนปลอมตัวเป็นดร.ซุน
เพื่อหลอกล่อมือสังหารที่ตามฆ่าหลงทาง
ระหว่าง ดร.ซุน ประชุมวางแผนการณ์ประมาณ 1 ชั่วโมง
ซึ่งได้รับการคัดค้านจากอาจารย์ที่รับปากกับหลีอิ้วถัง ผู้เป็นพ่อ
ว่าจะไม่ให้ลูกชายเขามาเสี่ยงอะไร
แต่ลูกชายเขาไม่ยอม โดยบอกว่า
จะเป็นประชาธิปไตยได้ยังไง
ถ้าเขาจับฉลากได้แล้วจะให้จับฉลากใหม่
เพราะเห็นชีวิตเขาสำคัญกว่าคนอื่น
และชีวิตคนอื่นไม่สำคัญหรือยังไงอะไรทำนองนั้น
ตอนจบก็ถูกหัวหน้าใหญ่ตามมาฆ่าจนตาย
ขณะ ดร.ซุนยัดเซ็น ประชุมเสร็จและขึ้นเรือ
เพื่อออกเดินทางต่อไป


หลีอิ้วถังเป็นนักธุรกิจฮ่องกง
ผู้สนุบสนุนทุนลับๆ ให้กับขบวนการปฏิวัติของ ดร.ซุนยัดเซ็น
แต่เขาไปเจอลูกชายตนเองขณะไปแจกใบปลิวเรียกร้องประชาธิปไตย
ช่วงแรกๆ ก็โกรธลูกชายเพราะเขาเป็นพ่อค้าไม่ต้องการออกหน้า
แต่สุดท้ายทั้ง นสพ. ของเขาโดนปิดธุรกิจโดนรังควาน
จากคนของทางการซึ่งตอนนั้นอังกฤษปกครองฮ่องกง
เลยทำให้ หลีอิ้วถัง เปิดตัวร่วมขบวนการ
เพื่อล้มราชวงศ์ชิงอย่างเต็มตัว
โดยกล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าลูกน้องว่า


"เราได้มาถึงจุดพลิกผันแล้ว
หากจะให้การปฏิวัติครั้งนี้สำเร็จ
เราต่างคนต่างรบไม่ได้แน่
เราต้องมีแผนรวบรวมพรรคพวก
ต้องให้ทุกหมู่เหล่ารวมตัวกัน
กำลังคนจะได้พอ
ดร. ซุน มาเพื่อที่จะ
รวมกำลังกลุ่มต่อต้านที่กระจัดกระจายกันอยู่
ให้รวมพลังเป็นหนึ่ง
จากนั้นเปิดฉากปฏิวัติใน 3 ปีข้างหน้า
ถึงตอนนั้นการเปลี่ยนแปลง
รากฐานของจีนจะต้องสั่นคลอนแน่ๆ
เราจะก้าวสู่การเปลี่ยนแปลง
โลกใหม่กำลังจะมาถึงเชื่อเถอะ
การปฏิวัติใหญ่ครั้งสำคัญจะต้องเริ่มต้นขึ้นที่นี่
และเราทุกคน
ทุกคน
จะล้วนมีส่วนร่วมด้วย
ทุกคนต้องเชื่อใจฉัน
ฉันหลีอิ้วถัง
จะนำทุกคนผ่านพ้นเหตุการณ์นี้
เราปกป้องด็อกเตอร์ซุนแน่"

ตอนนั้นผู้ปกครองฮ่องกงชาวอังกฤษแอบช่วยราชวงศ์ชิง
แกล้งทำเป็นหลับตาข้างหนึ่ง
ปล่อยให้คนของราชวงศ์ชิงมาลอบสังหาร ดร.ซุน
ซึ่งก็ถูกเหล่าบอดี้การ์ดที่ หลี่อิ่วถัง ไปขอร้องยอดฝีมือ
จากหลายๆ ที่มาช่วยเป็นบอดี้การ์ดในงานนี้
ซึ่งมีทั้งพ่อค้าขายเต้าหู้ คนที่คนอื่นมองว่าเป็นพวกขอทาน
และก็มีลูกสาวของเจ้าของโรงงิ้วซึ่งเป็นอดีตนักปฏิวัติ
หนีจากจีนมาตั้งหลักที่ฮ่องกงแล้วถูกคนของราชวงศ์ชิงตามมาฆ่าตายหมด
รวมไปถึงนักพนันที่เมียเขาหนีมาแต่งงานกับ หลี่อิ้วถัง
มาช่วยเพราะอดีตเมียเก่าขอร้องให้ช่วย
และบอกว่าลูกสาวของเขาคือลูกหลี่อิ่วถังในตอนนี้
แต่ในที่สุดเหล่าบอดี้การ์ดก็ตายทีละคนจนหมด
เหลือแต่วีรกรรมความกล้าหาญไว้ให้จดจำ

สุนทรพจน์ของ ดร.ซุนยัดเซ็น ในหนังเรื่องนี้

"ข้าพเจ้าสละอาชีพแพทย์
เพื่อร่วมล้มล้างจักรวรรดิชิง
และปลดปล่อยพี่น้องร่วมชาติ
ให้พ้นทุกข์เข็ญ
ตอนข้าพเจ้าออกจากฮ่องกง
ต้องทนลำบากยิ่งยวดในการเดินทาง
แม่ข้าพเจ้าวิตกมาก
ท่านพูดว่าการปฏิวัตินั้นช่วยชีวิตคนได้
แต่การแพทย์ก็ช่วยได้เช่นกัน
แล้วทำไมถึงเลือกหนทางที่ยากกว่าเล่า
ข้าพเจ้า ตอบว่ามีอีกมากที่แม่ไม่เข้าใจ
การแพทย์อาจช่วยชีวิตคนได้แค่หยิบมือ
แต่การปฏิวัติ
จะช่วยผู้คนได้นับล้านๆ ชีวิตแน่นอน
หลัง 260 ปี ใต้อำนาจชนต่างชาติ
กับ 2,000 ปี ภายใต้ประมุขเผด็จการ
ชาติจีนเราตกต่ำลง
รัฐบาลแมนจูที่โกงกินเกินกว่าประชาชนธรรมดาจะรับได้
นับวันมีแต่จะทำให้เกิดทุกข์เข็ญยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
ผู้คนเดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า
คลื่นปฏิวัติกำลังเอ่อท้น
ความต้องการของประชาชนจะกำชัยชนะ
เราต้องรวบรวมความกล้าเพื่อโค่นราชวงศ์ชิง
และก่อตั้งชาติที่เป็นประชาธิปไตยโดยแท้จริง
เส้นทางการปฏิวัติย่อมนองเลือด
ชีวิตข้าพเจ้าถูกลิขิตให้ตายเมื่อถึงฆาต
ทว่าสาธารณรัฐเราจะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่
แห่งความสงบสุขและเจริญรุ่งเรือง
เราต้องดิ้นรนที่จะเอาชนะอุปสรรคต่อไป
เพื่อยุติความทุกข์ยากของผู้คนนับล้านๆ
และอีกหลายล้านคนที่ถูกเนรเทศ
ให้ได้กลับคืนสู่มาตุภูมิ"

"เมื่อ 10 ปี ก่อน
ผมกับชูจุนได้คุยกันถึงเรื่องการปฏิวัติ
ผมพูดขึ้นว่า
เราจะปฏิวัติเพื่อความเจริญรุ่งเรือง
ของคน 400 ล้านคนให้ไม่ต้องอดอยากขาดแคลน
10 ปี ผ่านมาแล้ว
ผมได้เห็นบรรดาสหายเสียสละชีวิต
ผมโดนเนรเทศและได้กลับมา
คำว่าปฏิวัติไม่ได้มีความหมายเดิมๆ อีกต่อไป
ถ้าถามผมว่าการปฏิวัติคืออะไร
ผมจะตอบว่า
ชาติจะก้าวหน้าหากเราเสียสละ
เส้นทางอารยธรรมฉาบด้วยหยดเลือด
และเลือดนั้น
เรียกว่าการปฏิวัติ"


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน