ภาพล่าสุดจากสังคม Facebook รูปภาพของ Guy Redshrit ทำให้แฟนคลับอริสมันส์โล่งใจแต่มันแสนจะบีบใจอำมาตย์
--------------------------------------------------------------------------------------
สลักธรรม โตจิราการ
ท่านใดที่ ได้เข้าร่วมในเหตุการณ์ที่ทหารทำร้ายประชาชนในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมที่ ผ่านมา และได้เผชิญเหตุการณ์ที่ทหารทำร้ายหรือฆ่าประชาชนด้วยตนเองหรือได้รับบาด เจ็บจากการกระทำของทหารในช่วงเวลาดังกล่าวม ผมขอให้ท่านที่พร้อมจะเป็นพยานในชั้นศาลเพื่อสู้คดีให้กับพวกเราทุกคนทั้ง แกนนำและพี่น้องคนอื่นๆช่วยติดต่อผมด้วยครับ ผ่านทาง salaktham@yahoo.co.th แล้วก็ช่วยกันเผยแพร่ข่าวนี้ให้ออกไปให้กว้างที่สุดนะครับ ผมยินดีที่จะรับข้อมูลของทุกๆคน
----------------------------------------------------------
...จดหมายจากน้องเดียร์....เรื่องเล่าจาก (DSI)
ถ้าใครที่ติดตามข่าว คงได้เห็นวันที...่เดียร์ไปพบกับสมาชิกวุฒิสภา
ที่รับหน้าที่ดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรงทางการเมืองที่ผ่า่นมา
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม เดียร์เล่าให้ ท่านสว. ทุกๆ คนที่อยู่ในนั้นฟังว่า
เดียร์ไปพบเจ้าหน้าที่ DSI มา เนื่องจากเค้าอยากได้ข้อมูลเพิ่ม
และต้องการสอบปากคำเดียร์เพิ่มเติม เดียร์ก็เลยตอบตกลงไปกับพี่เก๋
เมื่อไปถึง DSI สภาพตึกภายนอกที่ถนนแจ้งวัฒนะ (ทุกๆ คนคงเคยเห็น)
มันดูดีและสง่ามาก แต่พอเข้าไปข้างใน แม่ง! (ขอใช้คำหยาบหน่อยนะคะ)
เละเทะโคตรๆ ก่อสร้าง ทุบผนังกันโปกปากๆ เจ้าหน้าที่ให้เดียร์เข้าไปในห้องเล็กๆ
ห้องหนึ่ง เจอเจ้าหน้าที่อยู่กันประมาณ 6-7 คน เจ้าหน้าที่เริ่มถามเดียร์ว่า
จากภาพถ่ายที่ถ่ายโดยกล้องส่วนตัวของคุณพ่อ
ก่อนคุณพ่อถูกยิงประมาณครึ่งชั่วโมง ที่เดียร์เอาไปให้ตำรวจ
เดียร์จะให้การอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ เดียร์ก็บอกไปว่าไม่มี
หลังจากนั้นเค้าถามเดียร์กันว่า รู้จักลูกน้องคนไหนในรูปบ้างมั้ย
จะได้ให้เดียร์ติดต่อมาเพื่อสอบปากคำ
เดียร์คิดในใจ "ถ้ากูรู้จัก กูจะโง่บอกมึงมั้ยวะ โดนหมายจับกันทุกคน
กูเอาตัวมาให้มึงก็จะได้แต่งข่าวบ้าๆ บอๆ แล้วก็หาว่าเค้าสารภาพนั่นนี่
แล้วก็แถลงข่าวเอาหน้า แล้วก็ยัดเค้าเข้าคุก
เด็กติดยาแถวสวนลุมเค้ายังรู้เลยว่ามึงจะทำอะไร"
(เดียร์ไม่ได้ว่าเจ้าหน้าที่นะ ก็เข้าใจว่าคงโดนสั่งมาแบบนี้อีกทีนึง)
หลังจากนั้น เค้าก็ถามข้อมูลเดิมๆ เหมือนที่ สน. ลุมพินีเคยถาม
จากนั้นพอพี่เก๋มา พี่เก๋อยากดูรูปที่ถ่ายคุณพ่อเก็บไว้ตอนชันสูตรศพ
เพราะเดียร์ดูไปแล้ว แต่พี่เก๋ยังไม่เห็น และรูปนี้มันจะต้องอยู่ในแฟ้ม
สำนวนคดีของคุณพ่อ เชื่อมั้ยคะ ว่าเค้าใช้เวลาหาแฟ้มนานมากๆ
พี่เก๋ถึงขนาดพูดออกไปว่า นี่ให้ความสำคัญกับคดีมากเลยนะ
ขนาดหาแฟ้มคดีที่ต้องใช้สอบสวน คุณยังหาไม่เจอเลย
นี่แสดงว่าไม่ได้ใส่ใจกันเลยหรือไง เอาแฟ้มพ่อฉันไปเก็บไว้ที่ไหนก็ไม่รู้
จากนั้น อีกสักพัก อัยการของคดีคุณพ่อก็เดินออกมาหลังจากที่พวกเรา
นั่งอยูู่ตรงนั้นกันได้พักใหญ่ๆ (ไม่ได้จำชื่ออ่ะคะ เพราะเซ็ง)
แต่ท่านอัยการมัวแต่คุยโทรศัพท์อยู่ข้างหลังเลยเพิ่งเดินออกมา
เชื่อมั้ยคะ (อีกแล้ว) ถ้าเดียร์เดาไม่ผิด
อัยการไม่เคยอ่านสำนวนคดีมาก่อนเลย ท่านมาอ่านวันนั้นวันแรก
อ่านไปพร้อมๆ กับที่เจ้าหน้าที่ถามข้อมูลเดียร์ไป
และไม่ว่าเดียร์กับพี่เก๋จะพูดอะไร ท่านก็จะเห็นตรงกันข้ามทุกอย่าง
เอาเป็นว่าเดียร์กับพี่เก๋ไม่หวังพึ่งท่านแน่นอนอ่ะ เจ้าหน้าที่ถามเดียร์ว่า
ไม่มีหลักฐานอะไรเลย วิถีกระสุนก็ไม่ทราบ พยานก็เห็นไม่ตรงกัน
ท่าทางจะลำบาก เดียร์เลยถามเค้าว่า แน่ใจหรอคะ?
แล้วพวกนักข่าวต่างประเทศที่อยู่รายล้อมคุณพ่อก่อนโดนยิงเป็นสิบ
กล้องที่ตั้งอยู่เป็นสิบๆ ตัว ทำไมคุณไม่ไปที่สมาคมนักข่าวต่างประเทศ
แล้วทำจดหมายเชิญให้เค้ามาให้ข้อมูลละคะ จะได้รู้ว่าคุณพ่อหันหน้าไปทางไหน
ยังไงมันก็ต้องมีบันทึกอยู่ในกล้องพวกเค้า
นอกจาก........จะสั่งให้ทำลายหมดแล้ว (ทำไมมันคิดเองกันไม่ได้วะ
ถ้ามันคิดจะทำคดีนี้กันจริงจัง) พวกเจ้าหน้าที่ก็ทำท่าอ้อมๆ แอ้มๆ ตะกุกตะกัก
แล้วก็บอกว่าจะลองเรียกดู แม่เจ้า!!!!!!!!!! กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ภาษีกูทั้งนั้น)
ส่วนอัยการไม่ต้องพูดถึงนะคะ เงียบกริบอย่างเดียวเลยคะ เงอะงะใช้ได้
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นไงต่อไป เดียร์อยากใช้คำรุนแรงกว่านี้
แต่ก็เสียวว่าจะโดนข้อหาหมิ่นเอา เพราะไม่มีคุณพ่อคอยคุ้มกะลาหัวแล้ว
ต้องดูแลตัวเอง ไว้ถ้ามีอะไรอีก จะมาเล่าให้ฟังนะคะ
ขอบคุณมากๆ
..น้องเดียร์...
โดย: Jim Bandon
อืม วิเคราะห์ตามอยู่นะ
ตอบลบ