Posted by ภาณุมาศ_ทักษณา
วันนี้ 5 กันยายน 2553 พรรคการเมืองใหม่ ได้จัดให้มีการประชุม ณ ที่ทำการถนนพระสุเมรุ
หัวข้อในการประชุมของพรรค เท่าที่ผมจับประเด็นได้ก็คือ
การ แจ้งผลการรับรองรายชื่อกรรมการบริหารพรรคอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการการ เลือกตั้ง (กกต.) รายงานผลการประชุมร่วมกับผู้สมัคร ส.ก.และ ส.ข.พรรคเมื่อวันที่ 3 ก.ย.ว่าผู้สมัครทุกคนพร้อมจะสู้ใหม่อีกครั้งใน 4 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ได้แจ้งกำหนดว่า พรรคจะจัดให้มีการสัมมนาในวันที่ 6 – 8 ก.ย.นี้เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์และแนวทางของพรรคที่จะก้าวเดินต่อไป จากนั้น 11 – 12 ก.ย.จะประชุมระดมความคิดที่จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดนครสวรรค์
ในการประชุมระดมความคิดเห็นทั้งสองแห่งนั้น พรรคการเมืองใหม่จะหารือกับสมาชิกใน 3 ประเด็นใหญ่คือ
1.การจัดความสัมพันธ์ของพรรคกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรียกว่า ยุทธศาสตร์ 2 ขา
2. หากจะใช้ยุทธศาสตร์นี้ต่อไป จะจัดระดับความพันธ์ของพรรคกับพันธมิตรฯอย่างไร
3.หากคิดว่ายุทธศาสตร์ดังกล่าวถูกทางแล้ว กรรมการบริหารพรรคจะต้องสรุปความเห็นอย่างเป็นเอกภาพ
และ ในวันที่ 25 กันยายนนี้ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรค จะไปเปิดศูนย์ประสานงานและรับสมัครสมาชิกพรรคที่จังหวัดตรัง
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ ย้ำในที่ประชมว่า
“การ จัดทัพหรือจัดขบวนใหม่เพื่อเตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง ทั้งการคัดเลือกผู้สมัคร และผู้ที่อยากเข้ามาสนับสนุนและทำงานกับพรรคการเมืองใหม่ ที่จะมีการกำหนดยุทธวิธีการสรรหาบุคลากรให้มาร่วมงานกับพรรคมากขึ้น รวมไปถึงการจัดทำนโยบาย
จาก บทเรียนการเลือกตั้งที่ผ่านมาซึ่งเราถือเป็นพรรคใหม่ นโยบายไม่ชัด การจัดทำนโยบายและการชูนโยบายจึงควรทำตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งในครั้งหน้า ทั้งยังจะมีการพูดคุยในส่วนของการระดมทุน
ซึ่ง ที่ผ่านมาผู้สนับสนุนพรรคมาจากการบริจาครายเล็กรายน้อย ไม่ได้มีกลุ่มทุนผูกขาด หรือกลุ่มทุนนักการเมือง ซึ่งเราไม่ได้มีปัญหากับกลุ่มทุนระดับชาติ แต่เราจะเน้นทุนที่สะอาด และต้องการปฏิรูปประเทศไทยไปพร้อมๆ กัน” เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่กล่าว
นั่นคือ ประเด็นสำคัญในการประชุมของพรรคการเมืองใหม่ในวันนี้
ผม ดูจากสุ้มเสียงและท่าทีของกรรมการพรรค(ตามข่าว)แล้ว ขอแสดงความชื่นชมในอุดมการณ์เปี่ยมล้นของทุกคนที่พร้อมจะสู้ในสนามเลือกตั้ง ต่อไป
ที่ต้องชม เพราะพรรคการเมืองใหม่เพิ่งพ่ายแพ้การเลือกตั้ง ส.ก.และ ส.ข.มาใหม่ ๆ หมาด ๆ และหลังความพ่ายแพ้ครั้งนั้นแล้ว
แทนที่จะได้รับการช่อดอกไม้ให้กำลังใจจากมวลมิตร
กลับปรากฎว่า ไม่เพียงแต่ได้รับคำหยามหมิ่นจากฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น แต่กรรมการบริหารพรรคทุกคนกลับได้รับความเจ็บปวดอย่างคาดไม่ถึง
จากการซ้ำเติมของ “คนกันเอง” อย่าง คุณสนธิ ลิ้มทองกุล
ดังที่ BG ส่องแสง ทะลุเมฆ เขียนไว้ว่า “น่าสงสาร สมศักดิ์-สุริยะใส และพรรคการเมือง ”
http://www.oknation.net/blog/pansang/2010/09/05/entry-1
(ขออภัย และขอขอบคุณที่ต้องเอ่ยนามและอ้างถึง)
ผม ดูจากความตั้งใจจริงของ กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่แล้ว ทุกคนยังมีกำลังใจที่ดีเยี่ยม หากเป็นทหารในสนามรบที่ถูกข้าศึกล้อมอยู่ก็ต้องเรียกว่า “ขวัญและกำลังใจดีมาก”
ซึ่งในทางทหารถือว่า ขวัญและกำลังใจ มีความสำคัญอย่างที่สุดในการสู้รบกับข้าศึก
ในฐานะที่จับตามองพรรคการเมืองใหม่มาตั้งแต่เริ่มต้น และเคยทักท้วงเพราะไม่เห็นด้วยกับการตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรฯ
เมื่อเห็นความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงของ กรรมการพรรคการเมืองใหม่แล้ว ผมมีข้อเสนอให้พิจารณาดังนี้
1. พรรคการเมืองใหม่ ต้องกล้าที่จะสลัดแอกตัวเองออกจาก สนธิ ลิ้มทองกุล ด้วยการแยกตัวออกมาหาที่ทำการพรรคใหม่
2. พรรคการเมืองใหม่ ต้องกล้าแยกตัวเองออกมาจาก กลุ่มพันธมิตรรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง คือทำงานการเมืองด้วยตัวเอง หากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธืปไตยจะ “เกื้อหนุน” ก็สุดแท้แต่พันธมิตรฯในแต่ละจังหวัด ไม่ควรนำเอาผูกโยงกันเหมือนในระยะเริ่มต้น
3. กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ ต้องหารือกันในเรื่องของชื่อ พรรค ที่ไม่น่าถูกโฉลกกับกิจกรรมทางการเมือง เพราะลงสมัครครั้งแรกก็แพ้ราบ ด้วยการสรรหาชื่อพรรคใหม่ให้มีความหมายในเชิงสัญลักษณ์ที่ “หนักแน่นน่าเชื่อถือ” (อาจให้สมาชิกมีส่วนร่วมในการเสนอชื่อ)
4. พรรคการเมืองใหม่ ควรจะสดับตรับฟัง ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนทั่วประเทศ (ไม่จำเป็นต้องทำการสำรวจหรือวิจัยให้เปลื่องเงิน เก็บจากข่าวที่ปรากฎในสื่อมวลชนก็น่าจะพอ)
แล้วนำเอาความเดือดร้อนของประชาชนทุกเรื่อง มาแปรรูปเป็น “นโยบายพรรค” โดยอาศัย แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแต่ละฉบับที่แล้วมา และที่กำลังร่างเป็นฉบับที่ 11 มาเป็นบรรทัดฐาน
5. พรรคการเมืองใหม่ต้องการที่จะใช้ระบบการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง จากล่างสู่บนอย่างแท้จริง นั่นก็คือ ให้ชาวบ้านในแต่ละตำบล แต่ละอำเภอ แต่ละจังหวัด คัดเลือก “คน” ที่ตัวเองชอบมากที่สุด และคิดว่าจะทำงานแทนตัวเองได้ เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งในแต่ละระดับ ไม่ว่าจะเป็น องค์การบริหารส่วนตำบล องค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือสมาชิกสภาฯ
6. หลังได้รับรายชื่อผู้ที่จะเป็นตัวแทนของพรรคแล้ว พรรคต้องเป็นพี่เลี้ยงคนเหล่านั้นในการทำงานร่วมกับชาวบ้านในทันที โดยไม่ต้องสนใจว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่
7. ลดละการสร้างศัตรูในทุกสาขาอาชีพ เพื่อสร้างแนวร่วม และการแสวงหาผู้ให้การสนับสนุนได้ง่ายขึ้น
8.การให้ข่าวต้องเน้นที่สาระและประโยชน์ที่ประชาชนหรือชาวบ้านจะได้รับมากกว่า คนของพรรคจะได้รับ
9. หลีกเลี่ยงพื้นที่ทางการเมืองที่คู่แข่งขันที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว ด้วยการ “เจาะ” เข้าไปในพื้นที่ที่มี ส.ส.ของพรรคการเมืองที่มีพฤติกรรมอันน่ารังเกียจเป็นอันดับหนึ่งจะดีกว่า ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะในพื้นที่อื่น ๆ
นี่ คือคำแนะนำย่อย ๆ เท่าที่ผมนึกได้ และขอนำเสนอพรรคการเมืองที่มีคนรุ่นใหม่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจเข้ามาปรับ ปรุงแก้ไขบ้านเมืองให้ดีขึ้น รับเอาไว้พิจารณา
คำ แนะนำของผม ไม่ใช่เรื่องยากหากพรรคการเมืองนี้มีความปรารถนาที่จะทำเพื่อประชาชน ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่งที่ยืนถือปฏักอย่างที่เห็นกันอยู่
ทราบแล้ว....เปลี่ยน !
http://www.norsorpor.com/go2.php?t=m&u=http%3A%2F%2Fwww.oknation.net%2Fblog%2Fnetmom%2F2010%2F09%2F05%2Fentry-1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น