แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันอังคารที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2553

เมื่อ ถึงเวลา..ความหาญกล้าก็บังเกิด..สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ


ภายหลังจากการล้อมปราบของทหารเมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา.. แม้จะสร้างความตระหนกอกสั่น และเศร้าสลดใจให้กับพี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตยมากเพียงใด.. แต่ก็มิได้ทำให้เจตนารมย์อันมุ่งมั่นของประชาชนผู้รักประชาธิปไตยเสื่อมถอย ลงไปแม้แต่น้อย..ตรงข้ามกลับยิ่งได้รับความเห็นอกเห็นใจ และเกิดเป็นแนวร่วมมุมกลับจากประชาชนที่เฝ้าดูอยู่ทางบ้านอย่างมากมาย... เห็นได้จากระยะที่ผ่านมานี้มีผู้คนมากมายมาให้การสนับสนุน โดยทั้งขึ้นมาปราศัยบนเวที และสนับสนุนในด้านอื่น ๆ

ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น, แน่วแน่, และไม่ย่อท้อของเหล่าพี่น้องคนเสื้อแดงที่ได้แสดงให้ประชาชนทั่วทั้งประเทศ ได้เห็นแล้วว่า พวกเขาจะไม่ยอมท้อถอยแม้จะถูกล้อมปราบ, ถูกบิดเบือนโจมตี, ถูกทำร้ายโดยผู้มีอำนาจของประเทศนี้... สิ่งเหล่านี้ต้องยอมรับในหัวจิตหัวใจอันยิ่งใหญ่ของพี่น้องเหล่านี้..


ภาพที่ผมเห็นในค่ำวันที่ 10 เมษายน ขณะที่ผมอยู่บริเวณถนนดินสอตอนนั้นก็คือ ประชาชนมือเปล่าที่ปราศจากอาวุธ ถือเพียงตีนตบ, หัวใจตบ, หรืออย่างดีก็ถือธงชาติ.. ต่างวิ่งกรูกันไปท่ามกลางเสียงปืนซึ่งดังระงมจากแถวทหารที่อยู่ในบริเวณสี่ แยกคอกวัว และบริเวณใกล้เคียง.. เสียงโห่ร้องเรียกขานกันดังระงมเซ็งแซ่.. เสียงตะโกนสั่งการเรียกกันโหวกเหวก.. ประสานกับเสียงปืนดังรัวออกมาเป็นระยะ ๆ, เสียงร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด, พร้อมๆ กับเสียงคำรามด้วยความโกรธแค้น,


ขณะที่มีเสียงระเบิดดังออกมาจากที่ใดที่หนึ่ง..ประกายไฟแตกกระจายพร้อม กับเสียงตะโกนโห่ร้องฟังไม่ได้ศัพท์.. เสียงปืนยิ่งดังรัวออกมาไม่ขาดสาย.. แต่ภาพเหล่านี้มิได้ทำให้ประชาชนเสียขวัญหรือล่าถอยออกมาจากจุดปะทะแต่อย่าง ใด ตรงข้ามกลับยิ่งทำให้ประชาชนเหล่านั้นรีบวิ่งกรูกันเข้าไปอย่างไม่ ลดละ..เหมือนดังว่าเสียงปืนเสียงระเบิด และการบาดเจ็บล้มตายเหล่านั้น มิได้เกิดขึ้นจริงแต่อย่างใด..

ในค่ำคืนนั้นมีประชาชนมากมายนับหลายหมื่นคนได้รับประสบการณ์เดียวกันกับ ผมในจุดล้อมปราบที่ผ่านฟ้า.. และผมเชื่อว่าทุก ๆ ท่านต่างก็จะมีความรู้สึกเดียวกันก็คือ..เมื่อถึงเวลานั้น, ถึงจุดนั้น, ไม่มีใครเกรงกลัวต่อความตายอีกต่อไป.. ความรู้สึกเดียวกันที่มีในขณะนั้นก็คือ ต้องปกป้องพื้นที่เอาไว้ให้ได้..

พี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลายครับ.. ด้วยหัวใจนักสู้, ความไม่เกรงกลัว และไม่ยอมแพ้ที่ได้เห็นแล้วนั้น.. ข้าพเจ้าขอน้อมคารวะ ด้วยหัวใจอย่างแท้จริง และด้วยความไม่กลัวนี่เอง จะเป็นอาวุธที่สำคัญที่สุด ที่จะทำให้ได้มาซึ่งชัยชนะต่ออำนาจเผด็จการในที่สุด..

ไม่ว่าการชุมนุมครั้งนี้จะจบลงอย่างใด หรือแม้จะถูกล้อมปราบอีกหรือไม่ก็ตาม.. แต่ในที่สุดแล้วก็คือ เมล็ด แห่งความกล้าที่จะต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรม นั้นได้ถูกสำแดงให้เห็น และได้หว่านลงไปในจิตใจของพี่น้องประชาชนไทยทั่วทั้งประเทศแล้ว.. เพียงแต่รอวันที่เมล็ดนั้นจะกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ที่เติบโตเต็มที่ และยั่งยืนสถาพรต่อไปในประเทศนี้เท่านั้น


ปูนนก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน