ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระ ประมุข... นี่คือหลักการและโครงสร้างการปกครองของประเทศไทยที่ถูกกำหนดเอาไว้ในรัฐ ธรรมนูญไทย..โดยถือเป็นระบอบการปกครองที่เป็นสากลที่นานาอารยะประเทศก็กระทำ เช่นนี้ และยอมรับกันเสมอมา.. แต่ในระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ประเทศที่ประกาศตัวเองว่าปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยกลับมีประชาชนภายใน ประเทศจัดการชุมนุมเรียกร้อง “ประชาธิปไตย และรัฐธรรมนูญ” เสมอมาทั้งการชุมนุมเล็ก และการชุมนุมใหญ่
จนหลายครั้งที่การ ชุมนุมมีคนเข้าร่วมการชุมนุมนับหลายแสนคน และเมื่อการชุมนุมมีการเรียกร้องถึงขั้นวิกฤติ ทุกครั้งรัฐบาลขณะนั้นก็จะประกาศใช้อำนาจจากกฏหมายที่ตนเองมีอยู่ แล้วส่งกำลังทหารเข้าล้อมปราบประชาชน เพื่อสลายการชุมนุมทุกครั้ง... ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่มาเข้าร่วมการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยด้วยมือเปล่า และด้วยเจตนาบริสุทธิ์..จนประชาชนต้องบาดเจ็บ..ล้มตาย.. และเกิดความสูญเสียอย่างมากมายมหาศาล
การชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2516 ประชาชนถูกล้อมปราบจนเกิดการตายและบาดเจ็บของประชาชนรวมแล้วนับร้อยคน..การ ชุมนุมวันที่ 6 ต.ค. 2519 ประชาชนถูกล้อมปราบที่ธรรมศาสตร์เกิดการสังหารหมู่ขึ้นที่นั่นโดยตำรวจและ กองกำลังจัดตั้งของรัฐบาล... เดือนพฤษภาคม 2535 ประชาชนชุมนุมเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย และนายกที่มาจากการเลือกตั้ง..ซึ่งในที่สุดประชาชนก็ถูกล้อมปราบโดยทหารทำ ให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก..และครั้งล่าสุดที่ประชาชนมีการ ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยและถูกล้อมปราบอีกครั้งก็คือวันที่ 10 เมษายน 2553 นี้ ประชาชนสูญเสียชีวิตกว่า 20 คนและบาดเจ็บเกือบ 1,000 คน..
การ สูญเสียของประชาชนจากอดีตจนถึงปัจจุบันในทุกครั้งเกิดจากการที่มีผู้สั่งการ ให้ทหารทำการล้อมปราบประชาชนโดยการสลายการชุมนุมด้วยการใช้กำลัง.. และในที่สุดแล้วเมื่อประชาชนเกิดเสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากการใช้กำลังเข้า สลาย..กลับไม่เคยมีแม้แต่ครั้งเดียวที่มีการจับกุมดำเนินคดี ต่อผู้สั่งการหรือผู้ปฏิบัติการทำร้ายประชาชนในแต่ละครั้งนั้น แม้จะมีภาพถ่ายและข้อมูลที่ชัดเจนก็ตาม แต่ไม่เคยมีใครต้องรับผิดชอบต่อการสูญเสียของพี่น้องประชาชนในประเทศนี้เลย แม้แต่ครั้งเดียว
เหมือนกับว่าชีวิตของประชาชนในประเทศนี้มีค่า แค่เพียง “เศษเถ้าธุลี” ที่ใครจะสั่งให้มีการสังหารผลาญชีวิตเมื่อใดก็ได้.. โดยไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ ประชาชนผู้เสียสละเลือดเนื้อชีวิตปกป้องชาติบ้านเมือง ให้ดำรงความเป็นชาติมาได้จนถึงปัจจุบัน.. ประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศ อย่างแท้จริง กลับมีชีวิตที่ไร้ค่า ไร้ศักดิ์ศรี ไร้เกียรติ์ได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ ??
มีคำถามที่ไม่เคยได้ รับคำตอบมาเนิ่นนานนับจากอดีตมาก็คือว่า “ใครกันที่เป็นผู้สั่งให้มีการ สังหารประชาชน” และ “ใครกันที่จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อการสูญเสียชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ อันมากมายของประเทศนี้” เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีใครออกมารับผิดชอบต่อความสูญเสียนี้แม้แต่คน เดียว..
หรือว่าประชาชนชาวไทยที่อยู่ในประเทศไทยสมควรที่จะได้รับ การสูญเสียได้ตลอดเวลา..โดยไม่จำเป็นต้องสนใจว่า “ใครจะเป็นผู้รับผิด ชอบหรือไม่ ??”.. ถ้าเป็นดังนี้ การปกครองในระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทย หมายถึงสิ่งใดกัน..
ภาพ ที่ปรากฎต่อหน้าของผมที่ สี่แยกคอกวัว และบริเวณสะพานผ่านฟ้า ในวันที่ 10 เมษายน 2553 นั้น.. มันสะท้อนความเจ็บปวดต่อสิทธิความเป็นประชาชนไทยของประเทศนี้เสียเหลือ เกิน.. นายกอภิสิทธิ์ชี้แจงตลอดเวลาว่าตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาตามรัฐธรรมนูญใน ระบอบประชาธิปไตย.. แต่ทว่าจนถึงขณะนี้แสดงให้เห็นแล้วว่านายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาตามรัฐธรรมนูญก็จริงแต่ “มิใช่ตาม ระบอบประชาธิปไตยอย่างแน่นอน” เพราะประชาธิปไตยจะตัดสินกันด้วยเสียงข้างมาก และการลงคะแนนเลือกตั้งของประชาชน
ถึงชั่วโมงนี้ การสูญเสียที่เกิดขึ้นต่อชีวิตของประชาชนไทยผู้บริสุทธิ์ได้เกิดขึ้นแล้ว และจะต้องมี “ผู้รับผิดชอบ” ต่อการสูญเสียนี้.. ไม่ว่าการรับผิดชอบนั้นจะครอบคลุมไปถึง นายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, นายสุเทพ เทือกสุบรรณ, พล.อ. ประยุทธ จันทรโอชา หรือใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังของคนเหล่านี้ จะต้องได้รับผลแห่งการกระทำในครั้งนี้อย่างทั่วถึงกันทุกคน
ปูน นก
รักประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการ ต่อต้านการรัฐประหารทุกรูปแบบ สร้างขวัญกำลังใจและความสุขเพื่อปวงชน
แดงเชียงใหม่
กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม
เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน
"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"
.
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"
.
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น