แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2553

กวีประชา ไท"แด่...นักสู้ผ่านฟ้า"

กวีประชาไท"แด่...นักสู้ผ่านฟ้า"

เพี่ยงคำ ประดับความ

"เพียงคำ ประดับความ" ใช้ท่วงทำนองเพลงกล่อมลูกอันอบอุ่นอ่อนหวานของภาคอีสานมาอธิบายความรู้สึกอันโศกเศร้าทว่าอาจหาญสำหรับประชาชนที่สละแล้วซึ่งทุกสิ่งต่อสู้เพื่อสิทธิและความเท่าเทียมของพวกเขา

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

"แด่...นักสู้ผ่านฟ้า"

นอนสาหล่าหลับตาแม่สิกล่อม
ดอกเสี้ยวหอมกลางแสงเดือนหงาย
ครั้นเจ้าหลับแล้วแม่สิเดินทางไกล
ไปเอาประชาธิปไตยมาให้เจ้าชม

ทุกข์แท้หนอลูกแก้วแนวเฮาเป็นข้า
เขาย่ำหัวกดบ่าชะตาขื่นขม
เฮาเลือกเขาล้ม...เฮาเลือกแล้วเขาก็ล้ม
ดั่งเสียงในสายลมเขาบ่เห็นหัวเฮา

แม่สิไปสู้...เพื่อความถูกต้อง
ไปตะโกนป่าวฮ้องว่าเฮาบ่แม่นคนโง่เขลา
ไปเป็นนักสู้ผ่านฟ้าเพื่อความเป็นคนของหมู่เฮา
สู้กลางเปลวแดดแผดเผาเอาให้มันฮู้กันไป

แม่เก็บเสื้อผ้าผิว่าสิไปหลายวัน
ไปทำสงครามชนชั้นปลดแอกจากการเป็นไพร่
ไปทวงสิทธิเสรีที่ถูกเขาปล้นชิงไป
เมืองกรุงเทพวิไลคงกวักมือฮับหมู่เฮา

นอนสาหล่านอนอู่สายปอ
อย่าฮ้องไห้แงงอให้หัวใจอับเฉา
เมืองกรุงอยู่ไสแม่สิห่างไกลเงา
เจ้าบ่ต้องรอเฝ้าวันแม่สิคืนเฮือน

เชือกคู่ขาดฮ้อยต่อบ่ติดกัน
ไผน้อสิมาฝั้นเลนปอเป็นเชือกเหมือน
ไปต่อสู้หนนี้อาจเนิ่นนานเป็นแรมเดือน
หรือแม้นคลาดเคลื่อนแม่บ่ได้กลับมา

บ้านเมืองของเฮามีตำนานเจ้าขุนทอง
ผู้ใดแตะต้องเปนสินองน้ำตา
อีกาสีขาวเขาบ่เวทนา
สาปมนต์มายาปิดตาพลเมือง

เจ้าขุนทองน้องนั้นบ่แม่นนักรบ
บ่เคยประสบแดดจ้าฟ้าเหลือง
เขาออกจากบ้านเมื่อตะวันรองเรือง
สั่งน้องน้องเสียงเขื่องว่าพี่จะไปหลายวัน

สะพายย่ามหาดเสี้ยวใส่หนังสือแสงเดือน
พร้อมสมุดที่ลบเลือนคราบน้ำตาอันแปรผัน
เขาสู้เพื่อสิทธิเสรีเพื่อศักดิ์ศรีบางระจัน
แว่วเสียงนกเขาขันเจ้าขุนทองก็ลงเรือน

นั่งรถยนต์เรไรนั่งรถไฟนกแก้ว
ส่งเสียงเจื้อยแจ้วเจ้าขุนทองและเพื่อน
พ่อแม่คดข้าวใส่ห่อถ่อเรือบ่แชเชือน
พบดอกจำปีตายเกลื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา

นอนสาหล่าหลับตาเจ้าอย่าตื่น
ฮอดมื้ออื่นเจ้าอย่าได้ห่วงหา
ฟ้าเปลี่ยนสีใหม่หมู่เฮาสิได้ลืมตา
แม้นเขาร่ำลือมาว่าดอกเสี้ยวป่าถูกปืน

ดอกโสนบานเช้าดอกคัดเค้าบานไหม
แม่นั่งร้องไห้อยู่ในเฮือนจนดึกดื่น
แว่วเสียงนกเขาขันแม่ต้องกลั้นสะอื้น
ตัดใจกล้ำกลืนลุกขึ้นปาดน้ำตา

ดอกโสนบานเช้าดอกคัดเค้าบานกลางคืน
ฮอดมื้ออื่นเจ้าอย่าได้ห่วงหา
หากตัวแม่บ่กลับมีแต่เสียงร่ำลือมา
ลูกจงไปตามหา...ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

เพียงคำ ประดับความ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน