แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553

สหพันธ์นิสิตนักศึกษาชุดใหม่ลั่นเชิดชูการต่อสู้คนเสื้อแดง ประณามมาร์ค/ไม่สังฆกรรมอานันท์-ประเวศ


พวก เรายืนยันว่าพลังนักศึกษาไม่ได้หายไปไหน ความอยุติธรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองนั้น นักศึกษาสัมผัสได้ เราเจ็บแค้น และเศร้าโศกเสียใจเช่นกัน..พวกเรายืนยันแนวทางการต่อสู้ของคนเสื้อแดง เราจะเชิดชูการต่อสู้ของประชาชนผู้ถูกกดขี่เจตน์จำนงของประชาชนจะต้องได้รับ การตอบสนอง



โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
3 กันยายน 2553

สหพันธ์ นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ชุดใหม่ที่เข้าบริหารงานชุดปี 2553 ได้จัดแถลงข่าวเปิดตัว ณ อนุสาวรีย์ 6 ตุลาคม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และได้ออกแถลงการณ์สมัชชาใหญ่ โดยมีเนื้อหาประณามรัฐบาล คัดค้านไม่ให้ความร่วมมือกรรมการปฏิรูปชุดอานันท์-ประเวศ และสนับสนุนการต่อสู้ของคนเสื้อแดง จนกว่าเจตน์จำนงของประชาชนผู้ถูกกดขี่จะได้รับการตอบสนอง ดังมีเนื้อหารายละเอียดดังต่อไปนี้ ( ชมคลิปข่าวคลิ้กที่นี่ )





เป็นเวลากว่าสามเดือนแล้วที่รัฐบาลได้ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมเรียกร้องข้อเสนอที่เป็นประชาธิปไตยของประชาชนคนเสื้อแดง

เป็น เวลากว่าสามเดือนแล้วที่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ถูกประหัตประหารด้วยกำลังจากน้ำ มือของทหาร และอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มาจากภาษีของพวกเขาเอง

ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติยังคงไม่ได้รับความเป็นธรรม

ยัง คงไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบ แม้แต่รัฐบาล ในฐานะที่ควรจะต้องรับผิดชอบมากที่สุด เมื่อมีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากใจกลางกรุงเทพมหานครก็ตาม

รัฐบาล ไม่เพียงนิ่งเฉย หากแต่กลับป้ายความผิดให้กับผู้เสียชีวิตอย่างหน้าด้านๆ ให้พวกเขากลายเป็นผู้ก่อการร้าย เป็นผู้สร้างความเดือดร้อน และ เป็นผู้ทำร้ายประเทศไทย ทั้งๆที่เศรษฐกิจที่ล้มเหลว การเมืองที่เป็นเผด็จการ การทุจริตฉ้อฉลในทุกวงการ ที่เป็นตัวการทำร้ายประเทศไทยอย่างแท้จริงและหนักหน่วงที่สุด ล้วนแต่เป็นฝีมือของรัฐบาลทั้งสิ้น

อีกทั้งในเหตุการณ์เมษา-พฤษภา เลือดที่ผ่านมา หลักฐานมากมายระบุชัดว่า กองกำลังฝ่ายรัฐบาลคือผู้ยิงฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์มากกว่า 90 ชีวิต

ไม่ เพียงเท่านั้นรัฐบาลยังคงใช้สื่อเป็นเครื่องมือในการบิดเบือนข่าวสาร สร้างวาทกรรม ตีฝีปากเพื่อเอาภาพลักษณ์บดบังปัญหา ไม่ได้มีความจริงใจที่จะแก้ไขความขัดแย้งใดๆ หยิบยกเอาตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจปลอมๆที่ขัดแย้งกับความเป็นจริงของ ชีวิตประชาชนตามท้องนาและท้องตลาดที่ลำบากยากแค้นแสนเข็ญ มากลบเกลื่อนปัญหาที่ต้องรับผิดชอบ

ก็เหมือนใช้ใบบัวมาปิดซากศพของ ประชาชนเอาไว้ ตอนนี้ครอบครัวญาติพี่น้องของผู้สูญหายและเสียชีวิตยังคงร่ำไห้ได้แต่เก็บ ความเคียดแค้นไว้ในใจรอวันชำระ

และเป็นเวลาสามเดือนกว่า อีกเช่นกันที่ประชาธิปไตยในประเทศไทยดิ่งลงถึงจุดที่ต่ำที่สุดในนประวัติ ศาสตร์ แน่นอนว่าตัวอย่างที่ชัดเจน ก็คือจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ที่มีจำนวนสูงเกินกว่าในการปราบปรามประชาชนของรัฐบาลเผด็จการในอดีตเสียอีก

การเห็นต่างมีอานุภาพร้ายแรงจนสามารถสั่งเป็นสั่งตายคนได้ เป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยต้องจดจำไว้ว่าเรามีรัฐบาลเผด็จการทรราชย์ครอง เมือง ที่ใช้อำนาจผ่านกฎหมายพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อทำ ร้ายประชาชนอย่างชอบธรรม

นั่นคือรัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ ได้มองประชาชนผู้เรียกร้องการยุบสภา เป็นเพียงศัตรูที่จะต้องปราบปราม
แม้ จะดูเหมือนว่ารัฐบาลได้พยายามแสดงความตั้งใจที่จะคลี่คลายปัญหา และเร่งสร้างภาวะปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นโดยตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ

แต่สิ่งที่เรามองเห็นคือการโกหกปลิ้นปล้อน และการผลาญงบประมาณโดยใช่เหตุ เราจะปฏิรูปประเทศได้อย่างไร ในเมื่อญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตยังไม่ได้รับความเป็นธรรม และเสียงของพวกเขายังถูกทำให้แผ่วหายไปในสายลม

ด้วยเหตุผลดังกล่าว นี้ พวกเรา ในนามของที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) และคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ จึงขอประกาศจุดยืนต่อจากนี้ที่ไม่ยอมอ่อนข้อต่อเผด็จการ และขอประณามการกระทำของรัฐบาลทรราชย์จอมสร้างภาพ ดังนี้:

1. พวกเราจะไม่ขอร่วมสังฆกรรมกับคณะกรรมการปฎิรูปฯ คนที่เป็นคู่กรณีย่อมไม่อาจเป็นตัวกลางผู้ไกล่เกลี่ยได้ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าคณะกรรมการปฏิรูปฯ ที่ถูกตั้งขึ้นโดยรัฐบาล ผ่านการทาบทามนายประเวศ วะสี และนายอานันท์ ปันยารชุน นั้น เป็นเพียงคณะเล่นละครปาหี่ตบตาประชาชนเท่านั้น

และถึงที่ สุดคณะกรรมการที่ว่านี้ ก็ไม่ได้ประกอบขึ้นมาจากประชาชนทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง การปรองดองบนกองเลือดของผู้เสียชีวิตจะทำไม่ได้ การปรองดองบนความเกลียดชังย่อมไม่นำไปสู่สันติภาพ การที่รัฐบาลเข่นฆ่าประชาชนกลุ่มหนึ่ง แล้วยัดเยียดพวกเขาให้เป็นฝ่ายผิด จากนั้นก็มัดมือชกขอให้ลืมเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมา ลืมความแค้น แล้วมาเริ่มต้นความสุขกันใหม่ ผู้ที่มีสามัญสำนึกรู้ผิดชอบชั่วดี ย่อมไม่อาจทำใจยอมรับได้

2. พวกเราขอประณามการใช้อำนาจเกินขอบเขตของรัฐบาล แม้ปากจะบอกให้ปรองดอง แต่รัฐก็ยังกุมอำนาจทุกอย่างไว้ในมือ กระทำการสองมาตรฐานได้อย่างหน้าไม่อาย

ใช้กฎหมายที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และเสรีภาพของประชาชนอย่างไม่สะทกสะท้าน เพื่อสั่งปิดสื่อของฝ่ายตรงข้าม และให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐในการตีความและจับกุมคนที่เห็นต่างได้อย่าง เต็มที่ ทั้งกรณีของนักเรียนนักศึกษาจังหวัดเชียงรายที่ถูกจับเพราะมาชูป้าย เราเห็นคนตายที่ราชประสงค์ กรณี บ.ก.ลายจุด ที่ถูกจับเนื่องจากมาผูกผ้าแดงที่แยกราชประสงค์ หรือคุณนที สรวารี ที่ถูกจับเพียงเพราะตะโกนคำว่า ผมเห็นคนตายที่นี่

ไม่ใช่แต่เพียง เท่านี้ ยังมีประชาชนจำนวนมากที่ถูกจับกุมด้วยเหตุผลอันไม่เป็นธรรม หากแต่ในขณะช่วงเวลาเดียวกันกับกรณีข้างต้น ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรมาปักหลักชุมนุมหน้าสำนักงานยูเนสโก (UNESCO) หรือพยายามจะบุกทำเนียบรัฐบาลอีกครั้งก็ตาม รัฐบาลนี้กลับบอกว่าไม่ถือเป็นการสร้างความเดือดร้อน แม้จะอยู่ใต้การบังคับใช้กฎหมายฉบับเดียวกัน

นอกจากนี้นายอภิสิทธิ์เอง ก็ยังไปร่วมขึ้นเวทีทวงคืนเขาพระวิหารของกลุ่มพันธมิตรอีกด้วย

3. พวกเรายืนยันแนวทางการต่อสู้ของคนเสื้อแดง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เรายังคงขอยึดแนวทางประชาธิปไตยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนอย่างไม่มี เงื่อนไขใดๆเป็นที่ตั้ง เราจะเชิดชูการต่อสู้ของประชาชนผู้ถูกกดขี่เจตน์จำนงของประชาชนจะต้องได้รับ การตอบสนอง

เพราะประชาชนคือเจ้าของประเทศ ไม่ใช่แค่ฟันเฟืองตัวเล็กตัวน้อยที่ตรากตรำทำงานหนักแล้วยังต้องจ่ายภาษีไป ให้กลุ่มอำมาตย์ และรัฐบาลสันดานโจรสูบกินเสวยสุขกันอย่างไร้ประโยชน์ เราจะขอต่อสู้เคียงข้างเจ้าของประเทศตัวจริง นั่นคือ ประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ จนกว่าความเท่าเทียมเสมอภาคจะมาถึง

4. พวกเรายืนยันว่าพลังนักศึกษาไม่ได้หายไปไหน ความอยุติธรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองนั้น นักศึกษาสัมผัสได้ เราเจ็บแค้น และเศร้าโศกเสียใจเช่นกัน แม้ว่าครั้งนี้พวกเราจะรู้ตัวช้า และปล่อยให้พ่อแม่พี่น้องต้องออกแรงก่อน แต่เมื่อพวกเราตื่นขึ้นแล้ว

เรา จะไม่หลับอีกต่อไป เราขอร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับพ่อแม่พี่น้อง เป็นกำลังใจ เป็นแนวร่วม เป็นความหวัง และเป็นเพื่อนร่วมรบกับปีศาจเผด็จการที่ชั่วร้ายในสมรภูมิแห่งนี้ที่ชื่อว่า ประเทศไทยต่อไปจนได้รับชัยชนะ

และท้ายที่สุดแม้ว่าพวกเราจะไม่ใช่ตัวแทนของนิสิตนักศึกษาทั้งประเทศ แต่พวกเราเชื่อว่าสิ่งที่เราทำนั้น เป็นตัวแทนของความถูกต้อง

พวก เราเชื่อว่า หัวใจอันยิ่งใหญ่และบริสุทธิ์ของประชาชนผู้รักความเป็นธรรม จิตวิญญาณแห่งเสรีชนที่รักความก้าวหน้า และไม่ยอมก้มหัวให้กับอำนาจบาตรใหญ่ใดๆ พวกเขาคือประชาชนผู้ศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย และพวกเขาคือคนที่จะหลอมรวมกันเป็นพลังเพื่อจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ บังเกิดประโยชน์สุขต่อประชาชนอย่างแท้จริง

สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่ง ประเทศไทย (สนนท.) ขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะร่วมกันขับเคลื่อนอนาคตของประเทศไทยไปสู่สังคมที่ยึด มั่นในหลักการแห่งเสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพในท้ายที่สุด

จงร่วมกันเร่งสภาวะประชาธิปไตยเสรีสมบูรณ์!

สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)

สหพันธ์ นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยชุดใหม่แจ้งด้วยว่า เตรียมเดินสายภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อสานสัมพันธ์และชี้แจงยุทธศาสตร์ของสนนท.

Posted by นักข่าวชาวรากหญ้า at 9/03/2010 04:57:00 หลังเที่ยง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน