คำสาปจากหลวงธำรงค์ ฯ โดยมหาชำร่วย
นี่เป็นเรื่องเล่าที่ไม่ค่อยจะแพร่หลายนัก และเป็นการอ้างว่าเรื่องราวทั้งหมดนับจากนี้
เป็นเรื่องที่ได้มาจากการบอกเล่าของอดีตนักหนังสือพิมพ์ท่านหนึ่ง ที่บังเอิญได้อยู่ใน
เหตุการณ์ระหว่างที่คณะรัฐประหาร 2490 เตรียมเข้าจับกุมหลวงธำรงค์ นาวาสวัสดิ์
ผมไม่ยืนยันว่าทั้งหมดนี้จะเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ และขอให้พวกเราอ่านด้วยวิจารณญาณ
และกรุณาวิจารณ์ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากหลายท่านที่มีส่วนในเรื่องราวนี้ได้ถึงแก่
อสัญกรรมไปแล้วครับ
เหตุการณ์เริ่มขึ้นในเดือน ต.ค. 2490 กลุ่มนายทหารซึ่งประกอบด้วย น.อ.
พ.ท.
พล.ท.
ในขณะนั้น แต่ อ.ปรีดี ซึ่งเป็นพันธมิตรกับหลวงธำรงค์ ฯ ได้ระแคะระคายถึงเรื่องนี้และได้
วางแผนกับหลวงธำรงค์ ฯ เพื่อเข้าจับกุมคณะผู้ก่อการรัฐประหารในเช้ามืดของวันที่ 9 พ.ย. 2490
แต่เรื่องจริงกลับเป็นเสียยิ่งกว่านิยาย .. ข่าวการเตรียมการจับกุมคณะผู้ก่อการ ฯ ก็ได้รั่ว
ไปถึงกลุ่มของพล.ท.
ก่อน โดยบุกเข้ายึดอำนาจในคืนวันที่ 7 พ.ย. 2490 ก่อนหน้าแผนของรัฐบาล 2 วัน คณะทหาร
กลุ่มนึงได้ไปควบคุมตัว อ.ปรีดี แต่ อ.ปรีดีได้หลบหนีไปก่อนหน้าแล้ว ขณะที่ทหารอีกส่วนหนึ่ง
ได้มุ่งหน้าไปจับกุม หลวงธำรงค์ ฯ ที่สวนอัมพร
ทำไมต้องเป็นสวนอัมพร ?
คืนวันที่ 7 พ.ย. 2490 นั้น พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดงานราตรีการกุศล “เมตตาบันเทิง” ขึ้น
ที่สวนอัมพร หลวงธำรงค์ ฯ ได้เป็นแขกรับเชิญของนายควง และในคืนนั้นได้เกิดปรากฏการณ์
พิเศษขึ้น โดยหลวงธำรงค์ ฯ และนายควง ผู้ซึ่งเป็นขมิ้นกับปูนอย่างถาวรได้ร่วมกันนั่งรถสามล้อถีบ
คันเดียวกัน ซึ่งมี ดร.
ประชาธิปัตย์เป็นผู้ถีบรถสามล้อพาวนไปรอบสวนอัมพร
แขกเหรื่อและนักข่าวที่มาร่วมงานต่างก็ยินดี คิดว่าทั้งสองขั้วคงจะประสานกันได้แล้ว
แต่ไม่ทันจะได้เต้นรำ นายทหารเรือคนสนิทของหลวงธำรงค์ ฯ ได้เข้ามากระซิบว่า
คณะรัฐประหารกำลังจะเข้ามาจับกุมตัวหลวงธำรงค์ ฯ ขอให้หลบหนีไปเสียแต่ตอนนี้
เมื่อหลวงธำรงค์ได้ทราบข่าวนี้ ท่านก็ปักใจในทันทีว่านาย
กับคณะรัฐประหาร และร่วมลวงให้ท่านมาถูกจับที่สวนอัมพรซึ่งเป็นการสะดวกสำหรับ
คณะรัฐประหารเนื่องจากไม่มีกองกำลังของรัฐบาลคอยอารักขาท่าน
ไคลแมกซ์ของเรื่องนี้อยู่ตรงช่วงเสี้ยวของนาทีก่อนที่หลวงธำรงค์ ฯ จะหลบหนีจากสวนอัมพร
มีนักข่าวจากหนังสือพิมพ์การเมืองรายสัปดาห์ได้ยินหลวงธำรงค์ ฯ หันมากล่าวกับนายควง
ก่อนที่จะจากไปว่า
“ผมเสียใจที่เราทั้งสองไม่มีโอกาสจะร่วมกันสร้างชาติให้วัฒนาต่อไปได้ และผมไม่เคยคิดว่า
นักการเมืองที่ทรงเกียรติอย่างท่านจะมีเล่ห์กลมากมายอย่างนี้ ผมไม่เสียดายในตำแหน่งของผม
แม้แต่น้อย แต่ผมเสียดายที่ประเทศของเราไม่มีโอกาสให้ประชาธิปไตยได้อยู่บนแผ่นดินนี้นานนัก
และผมชิงชังเหลือเกินกับผู้ที่มุ่งหาประโยชน์ใส่ตัวด้วยการหักหลังและตระบัดสัตย์ที่เคยให้ไว้แก่
ประชาชน ผมขอสาปแช่งทุกคนที่มีส่วนทำให้ประชาชนและแผ่นดินนี้ต้องย้อนกลับไปสู่อำนาจ
ศักดินาที่กดขี่และตักตวง มันผู้ใดคิดคดทรยศต่อประชาชนเพื่อหวังในอำนาจบารมี ผมขอให้มัน
มีอันเป็นไปต้องทุกข์ทรมานด้วยสิ้นลมก่อนจะสิ้นใจ และพบกับความวิบัติจัญไรล่มสลายไปด้วย
น้ำมือของประชาชนภายใน 7 ชั่วคน”
นั่นคือบันทึกถ้อยคำสุดท้ายของหลวงธำรงค์ นาวาสวัสดิ์ ที่นักข่าวท่านนั้นบันทึกไว้
ก่อนที่หลวงธำรงค์ ฯ จะหลบหนีไปลี้ภัยที่ฮ่องกง
ผมไม่ทราบว่าคำสาปแช่งของหลวงธำรงค์ ฯ ท่านจะเป็นจริงขึ้นมาหรือไม่
แต่ก็ให้น่าแปลกใจที่ในเวลาต่อมา นาย
ในวัย 66 ปี ด้วยโรคทางเดินหายใจขัดข้อง
ท่านต่อมาก็ได้แก่ มรว.เสนีย์ ปราโมช ซึ่งเชื่อกันว่าท่านมีส่วนในการร่างรัฐธรรมนูญ
ฉบับ”ใต้ตุ่ม” ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญที่คณะรัฐประหาร 2490 ได้นำออกประกาศใช้หลังจากที่
ได้ทำรัฐประหารสำเร็จ ซึ่งในเวลาต่อมาท่าน มรว. เสนีย์ ปราโมช ป่วยเป็นโรคหลอดลม
อักเสบเรื้อรังอยู่นานหลายปี และได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพ จนถึงแก่อสัญกรรม
ในวัย 92 ปี ด้วยโรคถุงลมโป่งพอง
ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่ฟังแล้วดูเหมือนจะสอดคล้องและทำให้อดคิดไม่ได้ว่า
อำนาจความเคียดแค้นที่รุนแรงจนกลายเป็นคำสาปแช่งนั้น อาจจะมีอยู่จริง
และยังคงดำเนินต่อไปอย่างซื่อสัตย์จนทุกวันนี้ และที่ใกล้ตัวเราที่สุดในขณะนี้
ก็ได้แก่ เรื่องอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์เองซึ่งดำเนินงานทางการเมืองผิดพลาด
จนเป็นเหตุให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยเกลียดชังและเบื่อหน่ายกับรัฐบาลภายใต้
การนำของพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งคดียุบพรรคที่กำลังดำเนินอยู่ถึง 2 คดีไล่เลี่ยกัน
ทำให้อนาคตของพรรคประชาธิปัตย์เริ่มอยู่บนความไม่แน่นอน
และสิ่งที่ผมอยากจะเรียนให้พวกเราจับตาดูในเรื่องนี้เป็นพิเศษก็คือ
นาย
ผมจึงอดขนลุกไม่ได้กับประโยคสุดท้ายในคำสาปแช่งของหลวงธำรงค์
.. “และพบกับความวิบัติจัญไรล่มสลายไปด้วยน้ำมือของประชาชนภายใน 7 ชั่วคน” ..
รายละเอียดเกี่ยวกับการทำรัฐประหาร 2490 พวกเราสามารถย้อนกลับไปอ่านได้ที่นี่ครับ
https://www.rajdumnern.net/showthread.php?tid=1617
และ https://www.rajdumnern.net/showthread.php?tid=1636
รักประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการ ต่อต้านการรัฐประหารทุกรูปแบบ สร้างขวัญกำลังใจและความสุขเพื่อปวงชน
แดงเชียงใหม่
กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม
เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน
"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"
.
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"
.
วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
คำสาปจากหลวงธำรงค์ ฯ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น