“ที่ดิน” ไม่ว่าจะยากดีมีจน ใครๆก็ต้องอยากได้ ... แต่การได้มาควรจะต้องเป็นเรื่องที่ถูกต้อง และไม่มีข้อครหาใดๆ ตามมา โดยเฉพาะกับกรณีของบุคคลสาธารณะ ที่มีโอกาสในการเข้าไปกุมกลไกอำนาจรัฐ
อย่างเช่นนักการเมืองทั้งหลาย ควรจะต้องเป็นตัวอย่างสังคม แต่กลับกลายเป็นว่า มีนักการเมืองหรือเครือญาตินักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องกับที่ดิน จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาวอยู่เป็นประจำ
ล่าสุดที่ดินเขาแพง กำลังทำให้ครอบครัวเทือกสุบรรณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนาย
ว่าจริงๆ แล้วที่ดินเขาแพง ที่อยู่ในความครอบครองของนาย
เพราะประเด็นในเรื่องที่ดินเขาแพงนั้น ถูกตั้งข้อสังเกตในหลายประเด็น
1. คือ เรื่องชื่อผู้ครอบครองที่ดินเขาแพง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งปัจจุบันเป็นของนาย
2. การที่มีเอกสารต้นขั้ว ส.ค. 1 ที่จะนำมาขอออกเอกสารสิทธิ ที่ดินแปลงที่ลูกชายท่านถือครองหายไป ขณะที่ที่ดินแปลงอื่นไม่หาย
3. มีการพบชื่อนาย
4. มีการเชื่อมโยงเรื่องหลักฐานเอกสารที่แสดงให้เห็นถึงการบริจาคที่ดินของนาย อากร ฮุนตระกูล อดีตนักธุรกิจโรงแรมเกาะสมุย จำนวน
ที่สำคัญ ปัจจุบันที่ดินที่นายอากรบริจาคมากถึง 4,870 ไร่นั้น ในปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 300 ไร่เท่านั้น ที่เหลือถูกบุกรุกโดยนายทุน ผู้มีอิทธิพลและนักการเมือง ซึ่งมีการกระทำกันอย่างเป็นขบวนการฮุบที่ดินอย่างชัดเจน
5. มีการตั้งข้อสังเกตในเรื่องการจัดซื้อจาก หจก.เรืองปัญญาคอนสตรัคชั่น จะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะ ส.ค.1 หายไปจากสารบบ ซึ่งบางแปลงเจ้าของที่ดินดั้งเดิมและที่ดินแปลงข้างเคียงยืนยันว่าไม่มี ส.ค.1
และ 6. หนึ่งในเจ้าของที่ดินข้างเคียง คือนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งออกมาระบุว่า พร้อม จะถูกเพิกถอนโฉนดที่ดิน หากไม่มีส.ค. 1
แม้ว่านายสุเทพ จะมีการชี้แจงในเรื่องที่ดินเขาแพงของนายแทนว่า เป็นการซื้อที่ดินมาจาก ห.จ.ก. แห่งหนึ่ง อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตอนซื้อเขาก็มีเอกสารสิทธิเรียบร้อย นายแทนก็ครอบครอง มา 8-9 ปีแล้ว
ซึ่งนายแทนนั้นทำสวนยาง สวนปาล์ม ทำปาร์มเลี้ยงกุ้ง มีผลผลิตกุ้งขายทุกปีๆ ละประมาณ 5-6 พันตัน ยอดขายสัก 500-600 ล้านบาท จึงมีความสามารถที่จะซื้อที่ดินได้
แต่แน่นอนว่า แม้นายสุเทพจะยกเหตุผลต่างๆ ขึ้นมาอ้าง เพื่อยันกับข้อสงสัยที่เกิดขึ้นในเรื่องที่ดินเขาแพง... แต่งานนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเรียกว่า “งานเข้า”เต็มๆ
เพราะแม้แต่นาย
และที่สำคัญคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ก็เข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้แล้วด้วยเช่นกัน
เจอเข้าแบบนี้นายสุเทพไม่หงุดหงิดก็แปลกไปแล้ว ทั้งในฐานะที่มีหัวอกเป็นพ่อของนายแทน และในบทบาทหน้าที่ซึ่งกุมอำนาจรัฐอยู่ในมือ
เลยทำให้แม้แต่ผู้สื่อข่าวทั้งหลายก็ยังมองเห็นความหงุดหงิดของนายสุเทพ แทบทุกครั้งที่ถูกสื่อตั้งประเด็นคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่ดินเขาแพง
อย่างเช่นล่าสุด นายสุเทพ ก็ออกอาการฉุนจัด หลังโดนถาม จนต้องตอบ ด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า
“คุณกล่าวหาผมหรือเปล่า? ผมมีหน้าที่ต้องชี้แจงเรื่องนี้ต่อ ป.ป.ช.โดยจะทำรายงานข้อเท็จจริง และเอกสารหลักฐานยื่นต่อ ป.ป.ช. เพื่อแก้ข้อกล่าวหา ตามที่ฝ่ายค้านยื่นเรื่องถอดถอนผมต่อ ป.ป.ช. ถ้าผมผิด ป.ป.ช.ก็จะดำเนินคดีกับผม ดังนั้นขอให้อดใจรอให้ ป.ป.ช.สอบสวนไปตามกระบวนการก่อน อย่าเพิ่งตั้งศาลเตี้ยเล่นงานกันตอนนี้”
หรือก่อนหน้านั้น ก็มีการให้สัมภาษณ์สื่ออย่างเคร่งเครียดว่า
“ผมจะไม่ตอบอะไรตามกระแสของสื่อบางประเภทที่พยายามจะหาเรื่องทำร้ายผมอยู่ ทุกดำเนินการตามกฎเกณฑ์กฎหมาย เดี๋ยวก็จะรู้ชัดว่าใครเป็นใคร ความถูกความผิดเป็นอย่างไร”
เมื่อถามว่า แสดงว่ายืนยันใช่หรือไม่ว่าการถือครองที่ดิน เขาแพงถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมด
นายสุเทพ กล่าวว่า ได้ยืนยันไปหลายหนแล้ว แต่สื่อมวลชนไม่รายงานให้!!!
แต่เมื่อถูกถามว่า นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ ระบุว่าพร้อมจะถูกเพิกถอนโฉนดที่ดิน หากไม่มี ส.ค. 1 กลับปรากฏว่า นาย
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ คงเป็นเรื่องยากที่จะไม่ให้สังคมไทย จับตามองกรณีที่ดินเขาแพง ว่าจุดจบสุดท้ายจะออกมาอย่างไร จะซ้ำรอยที่ดินเขายายเที่ยงอีกหรือไม่?
แต่ประเด็นสำคัญก็คือ กรมที่ดินจะกล้าพอในเรื่องการตรวจสอบการบุกรุกที่ดินเขาแพงเพียงใด!?!
เพราะแม้ว่านายสุเทพ จะยืนยันว่าไม่มีอำนาจหน้าที่สั่งกรมที่ดิน แถมน.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังออกมาช่วยปกป้องถึงกรณีที่มีกระแสว่าข้าราชการอึดอัดกับการตรวจสอบข้อ เท็จจริงกรณีที่ดิน เขาแพง จนส่งผลให้การตรวจสอบไม่เดินหน้านั้น ว่า ถึงแม้ว่าเรื่องเขาแพง จะเกี่ยวข้องกับนายสุเทพ แต่ก็เชื่อว่าไม่มีการเมืองเข้าไปแทรกแซง
ที่ดินเขาแพง จึงเป็นประเด็นร้อนทางการเมือง ที่ต้องจับตาอย่ากะพริบไปแล้วในขณะนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น