สองสามวันก่อน
ผมได้รับเมลจาก ขจรฤทธิ์ รักษา บรรณาธิการสำนักพิมพ์บ้านหนังสือ แจ้งข่าวการจัดงาน “33 ปี นักเขียนเรื่องป่า 60 ปี วัธนา บุญยัง” นักเขียนเรื่องป่าเชิงอนุรักษ์ที่โด่งดังที่สุดในยุคปัจจุบัน ณ บ้านเขาชะเมา เขาชะเมาชาเลต์ (เฮลรีสอร์ต) อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ระหว่างวันที่ 28 - 29 สิงหาคม 2553
โดย งานนี้ เขามิได้เชื้อเชิญและต้อนรับเฉพาะนักเขียน นักอ่าน นักเดินป่า เท่านั้น แต่ยังเปิดกว้างเชื้อเชิญให้คนภายนอกโดยเฉพาะผู้ที่รักธรรมชาติเข้าไปร่วม งานด้วย ผมจึงขอนำรายละเอียดกำหนดการของงานมาเผยแพร่ เผื่อท่านที่สนใจงานนี้อยากจะไปร่วมงาน ดังนี้
วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม
ภาคบ่าย
15.00 น.
- เซ็นสมุดอวยพร แสดงมุทิตาจิต
- แจกหนังสือ 33 ปี นักเขียนเรื่องป่า 60 ปี วัธนา บุญยัง
- ขจรฤทธิ์ รักษา บรรณาธิการสำนักพิมพ์บ้านหนังสือ กล่าวต้อนรับผู้ร่วมงาน นักอ่าน นักเขียน นักเดินป่า และแขกผู้มีเกียรติ
16.00 น.
- สถาพร ศรีสัจจัง ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2548 กล่าวถึงเส้นทางบนถนนวรรณกรรมของ วัธนา บุญยัง
- ยงค์ ยโสธร .ในนามนักเขียนภาคตะวันออก กล่าวถึงการทำงานวรรณกรรมของกล่มนักเขียนภาคตะวันออก
- พระครูปลัด วีรธัมโม เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมสุข อ.นายายอาม กล่าวถึงงานของ วัธนา บุญยัง
- ศิษย์เก่าจากดัดดรุณี กล่าวถึงอาจารย์
17.00 น.
เชิญแขก ประกอบด้วยเพื่อน นักเขียนรุ่นน้อง นักอ่าน และนักเดินป่า กล่าวอวยพร
17.30 น.
วัธนา บุญยัง กล่าวถึงเส้นทางชีวิตที่ผ่านมา ตั้งแต่ 26 สิงหาคม 2493 จนถึงปัจจุบัน พร้อมขอบคุณผู้มาร่วมงาน
18.00 น.
รับประทานอาหารร่วมกัน
วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม
ภาคเช้า
7.30 น.
อาหารเช้า กาแฟและข้าวต้ม
8.30 น.
เดินป่าชมธาร และเล่นน้ำตก
11.30 น.
- รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน ก่อนจะแยกย้ายจากกัน
หมายเหตุ ; งานนี้ เจ้าภาพมีอาหารบริการสามมื้อ มีบ้านสองหลัง เต็นท์ 10 หลัง และลานกางเต็นท์ขึงเปลนอนได้ตามอัธยาศัย หรือท่านใดต้องการนอนในห้องพักรีสอร์ตเชิญติดต่อได้ที่ สำนักพิมพ์บ้านหนังสือ 02 - 5802- 978, 08 - 1940 - 7806
ครับ ขอให้งานนี้จงลุล่วงไปด้วยความอบอุ่น และขออวยพรล่วงหน้าให้คุณ
ครับ ก่อนจากกันอาทิตย์นี้
ผมขอนำเรื่องจากหนังสือ “นิทานปรัชญาเต๋า” ของ เสถียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต เรื่อง “โรคอรหันต์” ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมชอบมากอีกเรื่องหนึ่งนอกจากเรื่องรัฐ ที่ผมนำมาเสนอในคราวที่แล้ว เพราะคำว่า “อรหันต์” หรือ “พระอรหันต์” นี่ เป็นคำที่ผมหรือใครๆที่อยู่ภายใต้ร่มเงาของพุทธศาสนา ต่างก็ได้ยินกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นพุทธแท้ พุทธเทียม พุทธผี พุทธพราห์ม ฯลฯ
แต่ก็ไม่เคยมีใคร มาชี้ให้เราเห็นเป็นรูปธรรมที่เข้าใจได้ง่ายว่าบุคลที่บรรลุอรหันต์นั้นมี ลักษณะและคุณสมบัติเช่นไร ผมเองก็ไม่เคยติดใจสงสัย ใครเขาว่า ฆราวาสคนโน้นคนนี้ พระองค์โน้นองค์นี้เป็นอรหันต์ เห็นเขาปฏิบัติดูดี เทศนาธรรมน่าเลื่อมใส ก็มักจะเชื่อตามๆเขาไป เพราะวัฒนธรรมทางบ้านเรา ไม่เอื้ออำนวยให้เราไปพิสูจน์ว่าใครเป็นอรหันต์ จริงหรือไม่จริง
เพราะ อะไรๆที่คนไทยเราได้ปักใจเชื่อไปแล้ว ขืนใครสุ่มสี่สุ่มหาเข้าไปแตะต้อง เป็นต้องถูกศิษยานุศิษย์ของท่านรุมกินโต๊ะเอาจนเละนั่นแหละครับท่าน (ฮา) เพราะสังคมไทย ว่ากันว่า ยังไงๆก็ยังเป็นสังคมของความเชื่อ มากกว่าข้อเท็จจริงและเหตุผล ไม่ว่าจะเจริญทางเทคโนโลยีขนาดไหน แถมยังเป็นความเชื่อที่ไม่ต้องการให้ใครมาพิสูจน์ และบางทีงมงายถึงขนาดพระบางองค์หิ้วสีกามานอน เอาเด็กไปข่มขืนไม่รู้กี่คน จนถูกจับเข้าคุก ก็ยังอุตส่าห์มีศิษยานุศิษย์ติดตามไปฟังท่านเทศน์ และบริจาคเงินเป็นล้านๆถึงในเรือนจำ ดังที่เคยเป็นข่าวกันมาแล้ว...
แต่เมื่อได้อ่านเรื่องนี้แล้ว โดยไม่สงสัย โดยไม่เคยคิดจะตั้งคำถามมาก่อน ผมก็ได้แต่บอกแก่ตัวเองว่า เออ คนที่เป็นอรหันต์ น่าจะเป็นอย่างนี้แหละว่ะ โดยเฉพาะเมื่อผ่านการกลั่นกรองจากท่านอาจารย์
โรคอรหันต์
เสถียรพงษ์ วรรณปก
หลุงชู พูดกับหมอ เหวินฉี ว่า
“ผมรู้สึกไม่ค่อยสบาย คุณช่วยรักษาให้หน่อย”
“ได้ ไหนบอกมาซิมีอาการอย่างไร”
“ผมไม่รู้ว่าเป็นอะไร เวลาได้ยินคนอื่นเขาสรรเสริญเยิรยอ ไม่รู้สึกดีใจหรือเป็นเกียรติแต่อย่างใด เวลาได้ยินเขาติฉินนินทาก็ไม่รู้สึกเสียใจ ผมมองชีวิตเหมือนความตาย ความรวยเหมือนความจน คนเหมือนหมู มองตัวเองเหมือนคนอื่น รู้สึกว่าบ้านของผมเหมือนโรงเตี๊ยมที่เช่าเขาอยู่ มองออกไปข้างนอกบ้าน เห็นบ้านข้างเคียงแปลกหูแปลกตาไปหมด ยศเสื่อมยศ ลาภเสื่อมลาภ ความเจริญ ความเสื่อม คุณ โทษ สุข ทุกข์ ไม่มีอิทธิพลเหนือจิตใจผม ตั้งแต่ผมป่วยเป็นโรคประหลาดนี้ ผมไม่สามารถทำหน้าที่ทางโลกได้เหมือนคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นงานราชการรับใช้เจ้านาย ปฏิบัติตนต่อเพื่อนและญาติพี่น้อง แม้กระทั่งลูกเมียและคนใช้ โรคของผมมีทางรักษาหายไหม”
หมอเหวินฉี
บอกให้หลุงชีหันหลังให้แสงสว่าง เขาถอยหลังไปสองสามก้าว ยืนเพ่งอยู่พักหนึ่งแล้วกล่าวว่า
“ผมมองเห็นหัวใจของคุณแล้ว เนื้อที่ประมาณตะรางนิ้วหนึ่งนี้ว่างเปล่า ในหัวใจของคุณมีรูอยู่ 6 รู ทะลุถึงกัน แต่รูหนึ่งอุดตัน อาจเป็นเพราะอย่างนี้ก็ได้ คุณสมบัติของการเป็นอรหันต์ที่คุณมี คุณกลับเข้าใจว่าเป็นความป่วยไข้ วิชาแพทย์อันคับแคบของผมไม่สามรถรักษาได้หรอก”
21 กรกฎาคม 2553
กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น