Wed, 2010-07-21 19:32
เตรียมเรียก "อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์" ให้ปากคำหลังนักร้องลูกทุ่งแจ้งความเอาผิดฐานหมิ่นสถาบันบนเวทีนาฎราช “สุริยะใส” ระบุตำรวจออกหมายเรียกเลือกปฏิบัติ-ไร้มาตรฐาน เหมือนที่ "สนธิ" โดน "มาร์ค" แนะตำรวจหารือคณะที่ปรึกษาฯ
21 ก.ค. 53 - เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.ต.พัลลภ สุวรรณบัตร รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.หาญ เลิศทวีวิทย์ ผกก.สน.คันนายาว และ พนักงานสอบสวนร่วมประชุมคดีหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้แทนพระองค์ที่ห้องประชุมปารุสกวัน 2 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)
พล.ต.ต.อำนวยกล่าวภายหลังการประชุมว่า เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายภูมิพัฒน์ วงศ์ยาชวลิต หรือ "แน๊ต พีรกร" ศิลปินเพลงลูกทุ่ง ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีนายพงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ดารานักแสดงชื่อดังที่สน.คันนายาว ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้แทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีขึ้นกล่าวบนเวทีขณะรับรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ในงานประกาศรางวัลนาฏราช เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยนำหลักฐานเอกสารถอดเทปคำพูดในงานดังกล่าวและประวัตินายพงษ์พัฒน์มามอบให้ พนักงานสอบสวน
ทั้งนี้หลังจากสอบปากคำผู้มาร้องทุกข์แล้ว ต่อไปก็จะเรียกนายพงษ์พัฒน์ เข้ามาให้ปากคำ โดยคาดว่าหลังจากนี้ 8 วัน หรือวันที่ 29 ก.ค. เวลา 10.00 น. ก็จะนัดมาสอบปากคำที่ บช.น.ได้ ซึ่งต้องรอสอบปากคำก่อนว่าเหตุใดจึงมีอากัปกิริยาอย่างนั้นขณะรับรางวัล เจตนาล่วงเกินสถาบันหรือไม่ และทำไมจึงเรียกว่า “พ่อ” เฉยๆ รวมถึงจะเรียกผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ หรือบุคคลทั่วไปที่ได้รับฟัง ทั้งนักกฎหมาย อาจารย์ภาษาไทย มาฟังว่ารู้สึกอย่างไร โดยหลังจากที่เรียกว่าแล้วไม่มาพบ ก็จะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 แต่หากยังไม่มาพบอีกและไม่มีเหตุผลอันสมควรก็จะออกหมายจับทันที เชื่อว่าคดีนี้ไม่เกิน 1 เดือนก็สามารถสรุปได้
"ยะใส" ระบุตำรวจออกหมายเรียกเลือกปฏิบัติไร้มาตรฐาน-กลายเป็นแนวร่วมมุมกลับขบวนการล้มเจ้า
ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (กมม.) กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกให้ นายพงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง เข้ารับทราบข้อกล่าวหากรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้นว่า น่าจะเป็นวาระซ่อนเร้นของทางเจ้าหน้าที่ที่พยายามจะใช้กฎหมายจัดการกับผู้ ที่กล่าวถึงสถาบันไม่ว่าจะทางบวกหรือลบ โดยไม่จำแนกแยกแยะ คล้ายกับว่าเป็นมาตรการห้ามทุกคนกล่าวอ้างถึงสถาบัน ซึ่งเป็นวิธีคิดที่ผิด เพราะการกล่าวอ้างถึงสถาบันในทางที่เป็นการเทิดทูนควรจะเป็นนโยบายของรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ต้องสนับสนุนส่งเสริม
นายสุริยะใส กล่าวว่า การออกหมายเรียก นายพงษ์พัฒน์ ครั้งนี้คล้ายกับกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ที่ถูกอัยการสูงสุดสั่งฟ้องข้อหาหมิ่นฯ กรณีเผยแพร่คำปราศรัยของดา ตอปริโด เป็นภาพสะท้อนความอ่อนแอของรัฐบาลและกลไกรัฐราชการว่าในที่สุดจะไม่สามารถ จัดการกับขบวนการล้มเจ้าได้ เพราะไม่สามารถสร้างแนวร่วมกับประชาชนหรือพสกนิกรที่มีความจงรักภักดีต่อพระ เจ้าอยู่หัว ซ้ำร้ายการพูดถึงพระปรีชาสามารถและพระราชกรณียกิจต่างๆ ของพระองค์ท่านจะทำได้ลำบากมากขึ้นเพราะผู้ที่พูดก็อาจกลัวถูกดำเนินคดี และอาจจะไม่กล้าออกมาต่อต้านขบวนการล้มเจ้าด้วยเช่นกัน
“วิธีการจัดการขบวนการล้มเจ้า รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ต้องดูที่เจตนาของผู้พูด เพราะถ้าเป็นการพูดในลักษณะเทิดทูนสถาบันควรจะส่งเสริม ไม่ใช่ให้เจ้าหน้าที่ไปไล่ออกหมายเรียกหรือหมายจับแบบนี้ แทนที่จะเอากำลังหรือเวลาไปดำเนินการกับกลุ่มคนหรือขบวนการล้มเจ้าที่ เคลื่อนไหวโจมตีสถาบันกันอย่างเปิดเผยและกว้างขวางในขณะนี้ ถ้านี่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ในการจัดการกับขบวนการล้มเจ้าก็ต้องบอกว่า รัฐบาลและเจ้าหน้าที่กลายเป็นแนวร่วมมุมกลับของขบวนการล้มเจ้าไปโดยไม่รู้ ตัว” นายสุริยะใส กล่าว
เลขาธิการการเมืองใหม่ กล่าวว่า การบังคับใช้กฎหมายไร้มาตรฐานแบบนี้ รัฐบาลต้องทบทวนและควรให้นโยบายกับเจ้าหน้าที่ ถึงหลักปฏิบัติที่เป็นธรรมและเป็นประโยชน์กับการปกป้องสถาบันอย่างถูกทิศถูก ทางกว่าที่เป็นอยู่ ไม่เช่นนั้นการจัดการกับขบวนการล้มเจ้าโดยรัฐบาลชุดนี้ก็คาดหวังไม่ได้อย่าง แน่นอน
นายกฯ แนะ ตร.หารือคณะที่ปรึกษาฯคดีหมิ่นหลังออกหมายเรียก “พงษ์พัฒน์”
ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนโยบายของรัฐบาลในการบังคับใช้กฎหมายหมิ่นสถาบัน แต่ล่าสุดตำรวจมีหมายเรียกนายพงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ดารานักแสดงชื่อดัง ฐานหมิ่นประมาทดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้แทนพระองค์ ในการพูดคำว่า “พ่อ” ในงานประกาศรางวัลนาฏราช เมื่อวันที่16พ.ค.2553ว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียดและการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่แน่ใจเรามีคณะที่ปรึกษาอยู่ซึ่งจะดูแลเรื่องนี้ได้ อย่างไรก็ตามยังไม่มีใครสรุปว่าเป็นความผิด แต่ต้องรอดูว่ากระบวนการที่เกิดขึ้นคืออะไร
ด้านนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงคณะที่ปรึกษาที่นายกฯระบุว่า หมายถึงคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านคดีความมั่นคงของรัฐที่เกี่ยวกับองค์พระมหา กษัตริย์ ที่นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งแต่งตั้งเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2552 ซึ่งมีปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน และตั้งปลัดกระทรวงจากทุกกระทรวงร่วมเป็นคณะกรรมการ มีอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นเลขานุการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านคดีความมั่นคงของรัฐ ที่เกี่ยวกับองค์พระมหากษัตริย์ นั้นมีหน้าที่ในการให้คำปรึกษาการดำเนินคดีความมั่งคงที่เกี่ยวกับ สถาบันพระมหากษัตริย์ แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดีเอสไอ และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เพื่อให้การดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ มีความรอบคอบ เป็นธรรมและเกิดความเหมาะสม โดยคณะกรรมการชุดนี้จะเป็นศูนย์รวมของข้อมูลเกี่ยวกับคดีหมิ่นพระบรมเดชานุ ภาพ เพื่อเป็นฐานข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ทำคดีความมั่นคงด้วยความชัดเจน แม่นยำมากขึ้น และป้องกันไม่ให้มีการนำคดีดังกล่าวมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง
ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก:
ตร.เตรียมเรียกพงษ์พัฒน์ให้ปากคำคดีหมิ่นฯ (โพสต์ทูเดย์, 21-7-2553)
http://bit.ly/b0zvf2
ชี้ ตร.กลายเป็นแนวร่วมขบวนการล้มเจ้า (เดลีนิวส์, 21-7-2553
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=8&contentID=79747
นายกฯ แนะ ตร.หารือคณะที่ปรึกษาฯคดีหมิ่นหลังออกหมายเรียก “พงษ์พัฒน์” (แนวหน้า, 21-7-2553)
http://www.naewna.com/news.asp?ID=220232
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น