Wed, 06/30/2010 - 07:24 | by astute | Report topic
ขอบคุณและขอบคุณท่านที่ยิงอาร์พีจี
โดย : อ่างขาง
____________________________________________________________
น้ำมัน 70ล้านลิตร ถ้าคิดตัวเลขกลมๆ ลิตรละ30บาท ก็จะตกเป็นเงิน 2100ล้านบาท
นั่นคือตัวเลขที่ กรมพลังงานทหารจะต้องตอบคำถามนี้ ว่าใครทำอะไรกับเงินก้อนมหึมาอันนี้
หลายท่านคงรู้เรื่องนี้ดี
โดยเฉพาะพวกที่มีญาติมิตรเป็นทหาร หรือตนเองรับราชการททหาร นายทหารผู้ใหญ่ระดับคุมกำลังทั้งหลาย ผบ.พัน ผบ.กรม ผบ.พล ผู้บัญชาการมลฑล กลุ่มคนพวกนี้จะมีคูปองน้ำมันเป็นกระ ตั๊ก เรียกว่าเมื่อตนเองปลดเกษียณไปแล้วหรือเสียชีวิตไปแล้ว ลูกเมียที่ยังคงอยู่ อีก10ปีก็ใช้น้ำมันพวกนี้ไม่หมด เป็นมรดกตกทอดกันไปเลย
น้ำมันที่เป็นคูปองเติมได้ตลอดชีวิตนี้ มันอยู่ที่ไหน มันก็อยู่ในปั้มน้ำมันทั่วไปนี่เอง ในคูปองนี้จะระบุให้เสร็จแต่ละคูปองเป็นจำนวนลิตร เช่นในคูปองระบุเป็นน้ำมันดีเซล 40ลิตร แต่บังเอิญรถของเราที่เข้าไปเติมใช้ น้ำมันเบนซิน เราจะขอเปลี่ยนจากน้ำมันโซล่าเป็นน้ำเบนซินก็ได้ โดยเทียบอัตราส่วนตามความเป็นจริง ณ.ขณะนั้น หรือหากวันใดขาดแคลนเงินสดขึ้นมาก็สามารถไปแลกเป็นเงินสดแทนก็ ย่อมได้อีก
ที่กล่าวมานี้ เป็นแค่หน่วยงานเล็กๆหน่วยหนึ่งใน หน่วยงานทหาร ที่มีค่ายทหารอยู่แทบจะทุกจังหวัดในประเทศไทยเท่านั้น ยังไม่รวมถึงระดับคีย์แมนบิ๊กๆในกองทัพ ที่มองเรื่องน้ำมันแค่นี้เป็นแค่ น้ำจิ้ม ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลย แบ่งๆกันไป
70ล้านลิตรที่ผมเขียนไว้ ในตอนต้นคืออะไร
หลายท่านคงเดาออกมันคือ น้ำมันที่หายไปจากคลังน้ำมันของกรมพลังงานทหาร และที่มีเรื่องนี้แดงขึ้นมาก็เพราะบังเอิญมีใครก็ไม่อาจทราบได้ ชี้เบาะแสให้ โดยการยิงจรวดอาร์พีจี เข้าไปในถังน้ำมันที่บรรจุ 10ล้านลิตร เมื่อถังทะลุ น้ำมันดันไม่มี และเมื่อสำรวจดู ผลปรากฏว่า น้ำมันนั้นหายไปจากถังถึง7ถัง รวมกันทั้งหมด 70ล้านลิตร
มีความพยายามจะออกมาบอกว่าน้ำมันนั้น ได้ถูกเบิกไปแล้ว เมื่อครั้งออกมาฆ่าประชาชนที่ราชประสงค์ แต่ข้อเท็จจริงมันไม่ใช่
เพราะ นี่คือคลังน้ำมันสำรองของกรมพลังงาน ทหาร กฎหมายระบุไว้ชัดเจนคลังน้ำมันสำรองนี้จะต้องเต็มเสมอ เป็นการสำรองน้ำมันเพื่อความมั่นคงของประเทศ เผื่อไว้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มิอาจคาดการณ์ได้เท่านั้น
ดังนั้นน้ำมันนี้จะถูกเบิกไปใช้ไม่ได้ เลยไม่ว่าเกิดเหตุการณ์ใดๆขึ้น นอกเสียจากว่าเกิดวิบัติครั้งใหญ่ จนไม่สามารถหาที่อื่นมาใช้ได้แล้วจึงสามารถนำน้ำมันนี้ออกมาใช้ และเมื่อนำมาใช้แล้วจะต้องรีบหากลับมาใช้คืนโดยด่วน
ความจริงเรื่องนี้มันตรวจสอบไม่ยาก น้ำมันนั้นหายไปไหน ใครเอาน้ำมันนี้ออกไป เอาไปทำอะไร
แค่ ตรวจสอบเส้นทางเดินของน้ำมัน มันง่ายกว่าการตรวจสอบเส้นทางของการเงิน ซะอีก แค่ตรวจดู บ/ช การเบิกจ่ายน้ำมัน แค่นั้น ก็จะพบอะไรแล้ว
ถ้าน้ำมันไม่มีการเบิกจ่ายแต่ ก็ไม่มีเหลือในถัง สรุปได้ทันทีเลยว่า หาย ไม่มากเรื่อง แต่ถ้าพบการเบิกจ่ายก็ตรวจสอบแค่คนอนุมัติก็จะพบเส้นทางคนทำผิด แล้ว
ดีเอสไอสามารถตรวจสอบเส้นทางการ เงินของคนเสื้อแดง สลับซับซ้อนมากมาย ยังสามารถเรียกมาตรวจสอบได้เกือบ100คน ทั้งจริงบ้างไม่จริงบ้าง เรียกตรวจสอบมันดะไป ถ้ามีมาตรฐานพอสำหรับประเทศนี้ และมีความกล้าพอสมกับราคาคุย ตรวจสอบกันจริงๆไปเลย ให้ดีเอสไอเข้ามาตรวจสอบพลังงาน ทหาร เล่าแจ้งแถลงไขออกมาทางทีวี เหมือนเช่นทำกับคนเสื้อแดง ตรวจสอบให้พบบอกกล่าวกับประชาชน ทำให้เหมือนกับว่าดีเอสไอ กินเงินเดือนที่มาจากประชาชนจริงๆ เป็นกลางพอที่จะเชื่อถือได้ ให้ผู้คนทั้งประเทศมีความหวังในกระบวนการ ยุติธรรมบ้าง
อย่าตรวจสอบกันแบบมักง่าย เฉกเช่นหมอพรทิพย์ตรวจสอบ เครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดจีที200 ที่เมื่อตรวจแล้วสังคมยังประณามไม่เลิกจนทุกวันนี้ เอาตัวเองมาขายกับเรื่องที่ยิ่งกว่าปัญญาอ่อน มองภาพก็นึกออกทันทีเห็นหน้าหมอพรทิพย์เหมือนเห็นนางพญาตอไม้ โปรดอย่าทำเยี่ยงนั้น อะไรผิดอะไรถูกกล้าๆหน่อย ทำผลงานให้ประจักษ์ เอาความเป็นนิติรัฐกลับคืนมา เอาศักดิ์ศรีของตนเองและสถาบันคืนมา ไม่ว่าใครหน้าไหนทุจริตจัดการให้หมด
Thanks: ฝากไฟล์รูปฝาก จดโดเมน
เรื่องแค่นี้ไม่ทราบว่าจะช่วยจัดการ ได้ไหม
สิ่งที่สังคมวิพากษ์ไม่ เลิก มีเหตุผลพอจะเชื่อได้ดังนี้
1.มันไม่เคยมีน้ำมันอยู่มานานแล้ว ทุกอย่างมันมีแต่ตัวเลข
2.น้ำมันถูกเอาไปหมุน ยังไม่ถึงเวลาครบรอบที่จะเอากลับคืนมา ในความหมายก็คือ
2.1 น้ำมันถูกขายออกไปแล้วในขณะที่ราคา น้ำมันในตลาดสูง และจะซื้อกลับคืนมาอีกทีในขณะที่ราคาน้ำมันถูกกว่านี้ บังเอิญเกิดเหตุซะก่อนน้ำมันจึงหมุนกลับมาไม่ทัน
2.2ซื้อขายน้ำมัน ล่วงหน้า มีแต่ตัวเลขไม่เคยมีน้ำมันจริงๆ
3.น้ำมันกลายเป็นทองแท่งไปชั่วขณะ ตั้งแต่ออกจากสิงคโปร์แล้ว
4.น้ำมันกลายเป็นดอกเบี้ยงอกเงยได้ ถ้าตัวน้ำมันเองไม่ได้อยู่ในถัง
เท็จจริงเป็น ประการใดอย่านิ่งเฉย หรือเงียบเป็นเป่าสาก เพราะสิ่งที่ประชาชนมองเห็นอยู่ในขณะนี้ก็คือ
ได้พบ แหล่งพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีกแล้ว สามารถใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องลงทุนสร้างโรงกลั่นน้ำมันเพิ่ม ตัวเลขเริ่มต้น 70ล้านลิตร เป็นเงิน2100 ล้านบาท
บ่อน้ำมันแหล่งใหญ่ของประเทศอยู่ตรงนี้ เอง เพียงเรียกคืนจากทหารที่สูญหายไปนำกลับมาคืนให้กับประชาชน เท่านั้น ประโยชน์ทั้งหมดก็จะตกอยู่กับประชาชนโดยแท้
ถ้ารัฐบาลโดยนายกฯที่ชื่ออภิสิทธิ์กล้า ทำ
ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณและขอบคุณท่าน ที่ยิงอาร์พีจี ในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง ท่านเป็นผู้มีคุณูปการอย่างมหาศาล กับประเทศชาติ ที่ท่านทำให้ประชาชนในประเทศนี้ได้พบขุมทรัพย์ใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น