แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

“จรัญ” แจงคลิปฉาวจ้องทำลายศาล รธน. ด้าน "อภิสิทธิ์" แนะใช้ พ.ร.บ.คอมฯ เล่นงานมือโพส

Tue, 2010-11-02 02:41
“จรัญ ภักดีธนากุล” แจงคลิปฉาวเป็นการบวนการทำลายศาล รธน. ลั่นเอาผิดคนเผยแพร่ ย้ำศาลจะไม่ออกมาตอบโต้ ยัน9ตุลาการไม่ใช่โสเภณีซื้อขายได้ ด้านชุดคลี่คลายคดีเผยแพร่คลิปยุบพรรค ปชป.ทำหนังสือถึง ICT บล็อกคลิปเก่า-ใหม่ รวม 8 คลิป พร้อมเผยยังไม่ออกหมายจับ “พสิษฐ์”

"จรัญ" ออกหน้ายันคลิปล่าสุดเป็นกระบวนการโค่นล้มศาล รธน.

มติชนออนไลน์ รายงาน ว่า นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แถลงเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 1 พฤศจิกายน ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ถนนแจ้งวัฒนะ ถึงกรณีคลิปล่าสุดที่มีการสนทนาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวางแผนแก้เกมกรณีมี การกล่าวหาว่า ลักลอบนำข้อสอบการเข้าเป็นข้าราชการศาลรัฐธรรมนูญระดับ 3 ว่า ตนได้รับมอบหมายจากคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญให้มาแถลง ถึงเหตุการณ์ที่เกิดคลิปดังกล่าว ล่าสุด เป็นการลักลอบแอบบันทึกในศาลเผยแพร่ต่อสาธารณชน สร้างความเสื่อมเสียให้ศาลมากที่สุดเหตุการณ์หนึ่ง เปรียบเสมือนเป็นระเบิดที่ตามหลังลูกก่อนๆ ที่นำหน้ามาก่อนหน้านี้เพื่อทำลายล้างศาลรัฐธรรมนูญ จึงใช้ระเบิดลูกล่าสุดนี้ ระเบิดอีกครั้งเพราะลูกก่อนไม่รุนแรงพอ เพื่อบีบบังคับให้ดำเนินการตามความประสงค์ของคนที่ต้องการให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิพากษาคดีตามที่คนอยู่ในกระบวนการนี้มุ่งประสงค์ไว้เพื่อล่อให้คู่สนทนาติด กับ เหมือนที่ผู้กระทำเคยกระทำไว้ในคลิปชุดก่อนๆ เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้โดยการติดต่อที่จะข่มขู่ เพราะถ้าไม่ยอมทำตามคำพิพากษาคดี ตามที่กลุ่มคนกลุ่มนี้ต้องการก็จะเปิดเผยข้อมูลในลักษณะนี้เพื่อวางแผนติด กับดักเป็นระยะ

ยันไม่มีลูกหลานตัวเองสอบเข้าศาล ลั่นจะทำความจริงให้ปรากฏ

นายจรัญ กล่าวว่า โชคดีการวางแผนจัดทำข้อมูลเหล่านี้ได้เอาข้อมูลเท็จที่ทำลายล้างศาล โดยเฉพาะการกล่าวอ้างที่ตนได้ฝากให้ลูกเข้าไปเจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญนั้น ถือเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ กล่าวหาตนมีส่วนร่วมฉ้อฉลกระบวนการโกงข้อสอบเลยไปถึงว่าให้เอาลูกของตนรู้ ข้อสอบล่วงหน้าและทำให้สอบได้เข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ศาลระดับ 3 ที่มีการสอบเมื่อ 2 ปีก่อนล้วนแต่เป็นความเท็จทั้งสิ้น ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้พิสูจน์ได้ชัดในปัจจุบันไม่ยากเพราะมีหลักฐานยืนยัน

"ยืนยันได้ว่าไม่มีลูกหลานหรือคนที่เกี่ยวข้องกับผมได้รับการคัดเลือก มาเป็นข้าราชการในการสอบครั้งนั้นแล้วผมไม่เคยฝากฝังลูกหลานผม กับท่านอดีตเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ สำหรับคนที่วางแผนกับดักนี้พยายามพูดเชื่อมโยงให้มีข้อมูลบิดเบือนใส่ร้าย ป้ายสีตุลาการชัดเจน" นายจรัญกล่าว

นายจรัญ กล่าวว่า ทางตุลาการจำเป็นต้องทำความจริงให้ปรากฏ ก่อนที่ข้อมูลเท็จดังกล่าวเผยแพร่ออกสร้างเสื่อมศรัทธาของประชาชนซึ่งตนก็ ได้รับความเสียหายรุนแรงทั้งญาติ เพื่อนได้ทราบข่าวนี้ก็ฟังเหมือนจะหลงเชื่อตามข้อมูลเท็จนี้หมดแล้ว โชคดีที่ตนได้ชี้แจงยืนยันความจริง และขอเรียกร้องให้องค์กรสื่อ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กับการพิสูจน์ความจริงของบ้านเราช่วยทำความจริงนี้ให้ปรากฏก่อนจะทำข้อมูล เท็จไปขยายผล

"ผมมีลูก 4 คนเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ลูกของผมเดือดร้อน เพราะ ลูกของผม2คนจบแพทย์ อีกคนทำอาชีพทนายความ คนสุดท้องกำลังเรียนแพทย์อยู่และกำลังทำงานที่ รพ.ฉะเชิงเทรา ดังนั้นไม่เคยมีลูกผมคนไหนสมัครสอบเข้าเป็นข้าราชการซี 3 ที่ไหนเลย ผมจึงชี้แจงว่ามีกระบวนการที่จะใส่ร้ายเล่นงานผมเพื่อให้กระทบต่อคำพิพากษา คดีของศาล เรื่องที่เกิดขึ้นผมไม่คิดว่า ผมต้องลาออกจากตุลาการ เพราะกระบวนการที่เกิดขึ้นเป็นการใส่ร้ายป้ายสี แต่ขอให้ข้อเท็จจริงปรากฏจนได้ข้อยุติก่อนจึงค่อยดูว่ามีใครต้องเกี่ยวข้อง ในกระบวนการดังกล่าวอย่างไร" นายจรัญกล่าว

ชี้ศาลจะไม่ออกมาตอบโต้ผ่านสื่อ

นายจรัญ กล่าวว่า จากนี้ไปศาลจะดำเนินการให้เข้าสู่กฎหมายบ้านเมืองต่อไปเพราะถ้าหากพูดต่อไป ในสื่อประชาชนจะไม่มีวันทราบความจริงเป็นอย่างไร โดยเหตุนี้ มติของคณะตุลาการจึงออกมาไม่ควรไปตอบโต้ทางสื่อและข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ฝืน ความจริงใส่ความหมิ่นประมาทตุลาการโดยเฉพาะตน ทั้งผิดทั้งผู้ทำและผู้เผยแพร่ก็มีความผิดตามกฎหมาย ผิดทางพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ดังนั้นศาลรัฐธรรมนูญได้มอบหมายเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญให้ร้องทุกข์ ดำเนินคดีอาญากับคนที่เผยแพ่รข้อมูลเหล่านี้ตามกฎหมายต่อไปในช่วงบ่ายหรือ เย็นวันเดียวกันนี้

แจง 9 ตุลาการไม่ใช่โสเภณีซื้อขายได้

นายจรัญ กล่าวว่า ส่วนตุลาการ 2 ท่านที่เกี่ยวข้องกับคลิปที่เผยแพร่นั้น ท่านยืนยันว่ามีข้อมูลที่พร้อมจะพิสูจน์โดยตัวท่านเองแต่ตนไม่ทราบในลาย ละเอียด อีกทั้งที่ประชุมคณะตุลาการก็ยืนยันว่ามีข้อมูลที่สามารถชี้แจงได้ และแนวทางของคณะตุลาการจะไม่ออกมาต่อสู้คดีในสื่อเพราะไม่ชัดว่าถูกจริงแค่ ไหน แต่เราจะดำเนินกระบวนการทางกฎหมาย และไม่หวังจะแก้ข่าวหรือออกมาโต้วิวาทะทางสื่อ ทั้งนี้กระบวนการทั้งหมดเป็นการวางแผนจัดทำลักลอบบันทึกโดยคนที่เรามั่นใจ คนๆ เดียวกันก็วางแผนล่อให้นายวิรัช ร่มเย็น ส.ส.ระนอง พรรคปชป.มาติดกับโดยใช้วิธีการถามนำตุลาการ

"ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าคลิปชุดนี้มีการปิดบังข้อเท็จจริงหรือไม่ แต่เรารู้ว่าเป็นการเปิดคลิปเพื่อขจัดตุลาการออกจากองค์กรศาลทีละคนจนกว่าจะ หมดจากองค์คณะและจะนำไปสู่แผนโค่นล้มทำลายล้างศาลรัฐธรรมนูญ ยืนยันแทน 9 ตุลาการว่าทั้งหมดไม่มีใครขายตัวเป็นโสเภณีแม้แต่คนเดียว เพราะกระบวนการที่เกิดขึ้นนั้นเป็นไปเพื่อต้องการข่มขู่ให้ตุลาการสยบยอม เมื่อตุลาการไม่กลัวการข่มขู่จึงต้องทำลายล้างตุลาการ" นายจรัญกล่าว

นายจรัญ กล่าวว่า ส่วนการทำความจริงให้ปรากฏของศาลนั้นต่อคลิปดังกล่าวล่าสุดนั้น ศาลคงไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการชุดใหม่มาดำเนินการ เพราะขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนชุดที่สอบคลิปก่อนหน้านั้นก็ยังถูกทำลายเช่นกัน ดังนั้นศาลต้องใช้กระบวนการภายนอกศาลโดยเฉพาะกระบวนการยุติธรรมทางกฎหมาย เพื่อหาคนผิดมาลงโทษไม่ว่าจะผิดฐานใด

“อภิสิทธิ์” แนะใช้ พ.ร.บ.คอมฯ เล่นงานมือโพสคลิปฉาว

เนชั่นทันข่าว รายงาน ว่า วานนี้ (1 พ.ย.53) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การเผยแพร่คลิปที่ชื่อว่า “พฤติกรรมศาลรัฐธรรมนูญไทย” ที่เป็นการดิสเครดิตศาลรัฐธรรมนูญ ว่า เรามีพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งหน่วยงานต่างๆต้องทำหน้าที่ในการดูแลการบังคับใช้กฎหมายนี้อยู่ ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าเรื่องของการใช้เครือข่ายอินเตอร์เน็ตในการปล่อยข้อมูล ต่างๆ เป็นเรื่องที่กำกับดูแลยาก และต้องมีความระมัดระวัง เพราะเกี่ยวข้องกับสิทธิเสรีภาพด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ทางตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีการแจ้งความ ก็มีการดำเนินการกันไปตามกฎหมาย

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ตนคิดว่าแต่ละสถาบันต้องช่วยกันแก้ปัญหา ทางศาลฯก็ต้องมีท่าทีที่ชัดเจนในการชี้แจงตามข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้น และต้องให้ความมั่นใจให้ได้ว่าการตัดสินคดีนั้นเป็นไปตามเนื้อของคดี เพื่อไม่ให้ได้รับความกระทบกระเทือนอะไร แต่อะไรที่ส่งผลกระทบ เราก็ต้องมาทำ

เมื่อถามว่าดูเหมือนมีการพยายามนำประเด็นนี้มาเป็นเรื่องของการเมือง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงมีความพยายามที่จะลดความน่าเชื่อถือของศาล แต่ทั้งหมดอยู่ที่การอธิบาย ซึ่งสิ่งที่ตนย้ำมาตลอดคือเวลาที่เรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นศาลใดก็ตาม และในเรื่องนั้นๆส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางในทางการเมือง ก็ไม่มีอะไรที่ดีกว่าการอธิบายเหตุและผลที่เป็นที่มาของคำตัดสิน ซึ่งนี่เป็นจุดหลัก เพราะฉะนั้น ตนสังเกตว่าระยะหลัง คำพิพากษารือคำวินิจฉัยของหลายคดีมีความละเอียดมาก ซึ่งช่วยได้โดยอย่างน้อยที่สุดทำให้มีคำตอบสำหรับคนที่ไม่พอใจหรือไม่เห็น ด้วย

ต่อข้อถามว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ได้เตรียมคำชี้แจงในเรื่องนี้ อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีคลิปวีดีโอที่นายวิรัช ร่มเย็น ส.ส.ระนอง และคณะทำงานฝ่ายกฎหมายในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ถูกกล่าวหาว่าไปวิ่งเต้นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการล้มคดียุบพรรค ซึ่งมีนายเทอดพงศ์ ไชยนันทน์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน ได้สอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว คงจะส่งรายงานการสอบสวนมาให้ตนได้ภายใน 1-2 วันนี้


สั่งบล็อกอีก 3 คลิปยุบพรรค ปชป. - ยังไม่ออกหมายจับ “พสิษฐ์”

ASTVผู้จัดการออนไลน์ รายงาน ว่าวันเดียวกันนี้ (1 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก.ได้ประชุมพนักงานสืบสวนสอบสวนกองปราบปรามในคดีเผยแพร่คลิปยุบพรรคประ ชาธิปัตย์ของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ห้องมณีรินทร์ บช.ก. โดยใช้เวลาในการประชุมกว่า 1 ชั่วโมง

พล.ต.ต.ปัญญากล่าวภายหลังการประชุมว่า วันนี้ที่ประชุมได้พิจารณาในหลายเรื่องด้วยกัน เรื่องแรกที่ประชุมได้พิจารณาว่าได้มอบหมายให้กองบังคับการปราบปราม อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ทำหนังสือถึงกระทรวงไอซีทีเพื่อบล็อกคลิปทั้ง 8 คลิป คลิปเก่า 5 คลิป คลิปใหม่อีก 3 คลิป เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย บก.ปอท.ก็ได้ไปทำมาเรียบร้อยแล้ว อีกเรื่องที่ประชุมพิจารณาเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้เลขาธิการศาล รธน.มาแจ้งความร้องทุกข์ที่พนักงานสอบสวนกองปราบปรามเป็นการกล่าวหาเจ้าหนัก งานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เปิดเผยความลับราชการ ซึ่งได้พิจารณาเรื่องนี้เข้ามาในสำนวนการสอบสวน

พล.ต.ต.ปัญญากล่าวอีกว่า ประกอบกับพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จากร้านที่เกิดเหตุ ที่พบว่ามีการมาพบพูดจากันในลักษณะที่อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 198 และที่เกิดเหตุในศาลรัฐธรรมนูญที่ปรากฏในคลิป การรวบรวมพยานหลักฐานเดิมจะขออนุมัติจับกุมผู้กระทำผิด แต่เนื่องจากผู้เกี่ยวข้องในการกระทำผิดครั้งนิ้ เป็นตัวการ สนับสนุน เป็นเจ้าพนักงานตามที่เลขาฯ ศาลมาร้องทุกข์ไว้ ที่ประชุมมีมติให้ส่งเรื่องไปยังฝ่ายกฎหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติดูอีก ครั้งว่าเขาเป็นเจ้าพนักงานหรือไม่อย่างไร เพื่อพิจารณาส่งป.ป.ช.ภายใน 30 วันหรือไม่ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา

“ส่วนผู้ที่ปล่อยคลิป ทาง บก.ปอท.ได้ใช้ความพยายามในหลายส่วนด้วยกัน ตั้งแต่การตรวจสอบในประเทศ กับการประสานฝ่ายต่างประเทศของยูทิวบ์ และส่วนที่เกี่ยวข้องแต่ยังไม่ได้รับคำตอบ ซึ่งเราคงต้องทำเป็นทางการไป เราต้องรอความร่วมมือ แต่การได้มาของพยานหลักฐานส่วนหนึ่ง คือ การสืบสวน ซึ่งต้องหาอีกสักระยะ ถึงตอนนี้พยานหลักฐานที่มีพอจะออกหมายจับได้ แต่เมื่อเป็นเจ้าพนักงานก็ต้องส่ง ป.ป.ช.เพื่อดำเนินการในการแจ้งข้อหาดำเนินคดี” รอง ผบช.ก.กล่าว

พล.ต.ต.ปัญญากล่าวอีกว่า สำหรับคลิปที่มีการเผยแพร่เพิ่มนั้นที่ประชุมมติเป็นเรื่องที่ต่อเนื่องกัน ก็จะรวมมาทำเป็นคดีเดียวกันอยู่ในคณะทำงานชุดนี้ สำหรับคนที่จะออกหมายจับนั้นเป็นผู้ที่กระทำความผิดหลายส่วนด้วยกัน เป็นผู้รวบรวมเรื่องราว เป็นผู้กระทำผิดในการเอาข้อมูลต่างๆ มาสู่การกระทำผิด ซึ่งจากการดูเที่ยวบินเชื่อว่าน่าจะออกไปนอกประเทศแล้ว

ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีมีคลิปลับของคนในศาลรัฐธรรมนูญออกมาอีก 1 คลิปว่า การตรวจสอบเรื่องคลิปนี้ก็จะให้ คณะกรรมการตรวจสอบเรื่องคลิปชุดแรกของ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ที่ปรึกษา (สบ 10) เข้าไปดูแล รวมถึงประสานหน่วยที่เกี่ยวข้องกรณีที่มีคลิปลักษณะเช่นนี้เผยแพร่ทางอิน เทอร์เน็ต โดยตำรวจจะไปบังคับใช้กฎหมายกรณีที่การเผยแพร่เข้าข่ายความผิด


ที่มา: มติชนออนไลน์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ และเนชั่นทันข่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน