เมื่อ วันที่ 20 พ.ย. นาย
นาย ไชยวัฒน์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้รักษาตัวอยู่ที่ร.พ.พญาไท 1 นาน 2 เดือน 15 วัน ได้รับการผ่าตัด 4 ครั้ง เพื่อเอากระดูกที่แตกออก และใส่เหล็กเป็นแกนในแทน เมื่อกลับมาพักรักษาตัวที่บ้านยังต้องไปพบแพทย์อีกเดือนละครั้ง เนื่องจากกระดูกบางส่วนยังไม่เชื่อมติดกัน และต้องกินวิตามินเสริมกระดูก นอกจากนี้ยังต้องทำกายภาพทุกวัน วันละ 3-4 ช.ม. ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ โดยแพทย์ระบุว่าต้องใช้เวลารักษาอีกอย่างน้อย 2 ปี
นาย ไชยวัฒน์ เล่าเหตุการณ์วันเกิดเหตุว่า ช่วงสายวันที่ 15 พ.ค. ตนและช่างภาพอีกคนตระเวนถ่ายภาพบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง และซอยรางน้ำ มีชาวบ้านเห็นเป็นช่างภาพสื่อมวลชนจึงเรียกขอร้องให้ช่วยนำศพที่ถูกยิงออกมา จากจุดเกิดเหตุ เพราะกลัวว่าถ้าเข้าไปเอาออกมาเองจะโดนทหารยิง ตนก็เข้าไปช่วยนำออกมาได้ ช่วงบ่ายหลังจากพักกินข้าวกันเรียบร้อย ก็ออกไปตระ เวนถ่ายภาพบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดงต่ออีก ขณะนั้นมีผู้ชุมนุมประมาณ 60 คนเริ่มมารวมตัวกันแล้ว และนำยางรถยนต์มาวางกั้นฝั่งปั๊มน้ำมันเชลล์ แต่ยังไม่มีเหตุรุน แรงอะไร
ช่าง ภาพเหยื่อปืนทาโวร์ กล่าวอีกว่า ขณะที่ตนเดินไปอีกทางหนึ่ง ได้ยินเสียงปืนยิงมาจากฝั่งของทหาร จึงหันกลับไปมอง ตอนแรกคิดว่าทหารจะยิงขู่เพียง 2-3 นัดแล้วหยุด แต่ปรากฏว่ายังระดมยิงใส่ฝั่งที่วางยางรถยนต์อย่างต่อเนื่อง ตนเดินถอยหลังไปด้วยพร้อมกับยกกล้องขึ้นถ่ายรูปคนที่ถูกยิงด้วย แต่ยังไม่ทันถ่ายก็ถูกยิงร่วงลงไป จึงถอยไปนั่งพิงหลังกับกำแพง และบอกเพื่อนช่างภาพที่อยู่ใกล้ๆ กันว่าถูกยิง ขณะนั้นขาขวารู้สึกชา มีเลือดไหล และหักพับไป ตนต้องกัดฟันจับขามาวางให้ตรงเหมือนเดิม แต่ก็ยังออกจากบริเวณนั้นไม่ได้ เพราะทหารยังระดมยิงเข้ามาไม่หยุด
นาย ไชยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ตนโทรศัพท์บอกเพื่อนช่างภาพสำนักข่าวเดียวกันว่าถูกยิง จากนั้นต้นสังกัดประสานไปยังศอฉ. ขอให้หยุดยิง แต่ทหารก็ยังไม่หยุด ยังระดมยิงอย่างหนักต่อไปอีกราวครึ่งชั่วโมง โดยเป็น การยิงมาจากฝั่งทหารเพียงฝ่ายเดียว เท่าที่เห็นผู้ชุมนุมมีเพียงมือเปล่า ยางรถยนต์ และกระบอกพลุเท่านั้น และก็เริ่มหนีแตกกระ จายกันไปแล้ว ภายหลังทราบว่าบริเวณเดียว กันนี้ มีผู้ชุมนุมไปเสียชีวิตที่ร.พ.อีก 3 ราย
"สาเหตุ ที่ผมถูกยิงทั้งๆ ที่สวมปลอกแขนแสดงตนว่าเป็นสื่อมวลชนชัดเจน อาจเป็นเพราะทหารไม่ต้องการให้ถ่ายภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น และจุดที่ผมยืนอยู่ก็อยู่คนละด้านกับผู้ชุมนุม กระสุนที่ยิงมาจึงไม่น่าจะเป็นลูกหลง เมื่อการยิงยุติ มีทหารเข้ามานำผมออกไป และสอบถามว่าเห็นผู้ชุมนุมมีปืนหรือไม่ ผมบอกว่าไม่เห็น" ช่างภาพเหยื่อปืนทาโวร์ กล่าว
นาย ไชยวัฒน์ กล่าวอีกว่า ขณะรักษา ตัว สำนักข่าวต้นสังกัดประสานกระทรวงสาธารณสุขให้ออกค่ารักษาให้ จากนั้นได้รับเงินช่วยเหลือจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อีก 1 แสนบาท ขณะนี้ตนเตรียมฟ้องร้องหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบปฏิบัติการกระชับพื้นที่ ครั้งนั้น โดยกำลังอยู่ในขั้นตอนปรึกษาผู้มีความรู้ทางกฎหมาย เพื่อดูว่าจะฟ้องร้องช่องทางใดได้บ้าง
เขียนโดย JJ_Sathon
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น