แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ช่างภาพเนชั่นพูดชัดครั้งแรก " เสียงปืนจากฝั่งทหาร... ทหารยิงผมเพราะใส่ปลอกแขนสื่อฯ""


เมื่อ วันที่ 20 พ.ย. นายไชยวัฒน์ พุ่มพวง ช่างภาพสำนักข่าวเนชั่น ซึ่งถูกยิงด้วยปืนทาโวร์ที่ต้นขาขวาจนกระดูกและเส้นเลือดแตก ขณะปฏิบัติหน้าที่ถ่ายภาพเหตุการณ์กระชับพื้นที่ บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้อาการดีขึ้น 70-80 เปอร์เซ็นต์ แต่อาการปวดยังมีอยู่ ไม่สามารถลงน้ำหนักที่ขาได้ และเกิดผลกระทบตามมาอีกคือขาขวาสั้นกว่าข้างซ้าย 1 นิ้ว ต้องอาศัยไม้เท้าช่วยพยุงขณะเดิน


นาย ไชยวัฒน์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้รักษาตัวอยู่ที่ร.พ.พญาไท 1 นาน 2 เดือน 15 วัน ได้รับการผ่าตัด 4 ครั้ง เพื่อเอากระดูกที่แตกออก และใส่เหล็กเป็นแกนในแทน เมื่อกลับมาพักรักษาตัวที่บ้านยังต้องไปพบแพทย์อีกเดือนละครั้ง เนื่องจากกระดูกบางส่วนยังไม่เชื่อมติดกัน และต้องกินวิตามินเสริมกระดูก นอกจากนี้ยังต้องทำกายภาพทุกวัน วันละ 3-4 ช.ม. ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ โดยแพทย์ระบุว่าต้องใช้เวลารักษาอีกอย่างน้อย 2 ปี

นาย ไชยวัฒน์ เล่าเหตุการณ์วันเกิดเหตุว่า ช่วงสายวันที่ 15 พ.ค. ตนและช่างภาพอีกคนตระเวนถ่ายภาพบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง และซอยรางน้ำ มีชาวบ้านเห็นเป็นช่างภาพสื่อมวลชนจึงเรียกขอร้องให้ช่วยนำศพที่ถูกยิงออกมา จากจุดเกิดเหตุ เพราะกลัวว่าถ้าเข้าไปเอาออกมาเองจะโดนทหารยิง ตนก็เข้าไปช่วยนำออกมาได้ ช่วงบ่ายหลังจากพักกินข้าวกันเรียบร้อย ก็ออกไปตระ เวนถ่ายภาพบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดงต่ออีก ขณะนั้นมีผู้ชุมนุมประมาณ 60 คนเริ่มมารวมตัวกันแล้ว และนำยางรถยนต์มาวางกั้นฝั่งปั๊มน้ำมันเชลล์ แต่ยังไม่มีเหตุรุน แรงอะไร

ช่าง ภาพเหยื่อปืนทาโวร์ กล่าวอีกว่า ขณะที่ตนเดินไปอีกทางหนึ่ง ได้ยินเสียงปืนยิงมาจากฝั่งของทหาร จึงหันกลับไปมอง ตอนแรกคิดว่าทหารจะยิงขู่เพียง 2-3 นัดแล้วหยุด แต่ปรากฏว่ายังระดมยิงใส่ฝั่งที่วางยางรถยนต์อย่างต่อเนื่อง ตนเดินถอยหลังไปด้วยพร้อมกับยกกล้องขึ้นถ่ายรูปคนที่ถูกยิงด้วย แต่ยังไม่ทันถ่ายก็ถูกยิงร่วงลงไป จึงถอยไปนั่งพิงหลังกับกำแพง และบอกเพื่อนช่างภาพที่อยู่ใกล้ๆ กันว่าถูกยิง ขณะนั้นขาขวารู้สึกชา มีเลือดไหล และหักพับไป ตนต้องกัดฟันจับขามาวางให้ตรงเหมือนเดิม แต่ก็ยังออกจากบริเวณนั้นไม่ได้ เพราะทหารยังระดมยิงเข้ามาไม่หยุด

นาย ไชยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ตนโทรศัพท์บอกเพื่อนช่างภาพสำนักข่าวเดียวกันว่าถูกยิง จากนั้นต้นสังกัดประสานไปยังศอฉ. ขอให้หยุดยิง แต่ทหารก็ยังไม่หยุด ยังระดมยิงอย่างหนักต่อไปอีกราวครึ่งชั่วโมง โดยเป็น การยิงมาจากฝั่งทหารเพียงฝ่ายเดียว เท่าที่เห็นผู้ชุมนุมมีเพียงมือเปล่า ยางรถยนต์ และกระบอกพลุเท่านั้น และก็เริ่มหนีแตกกระ จายกันไปแล้ว ภายหลังทราบว่าบริเวณเดียว กันนี้ มีผู้ชุมนุมไปเสียชีวิตที่ร.พ.อีก 3 ราย

"สาเหตุ ที่ผมถูกยิงทั้งๆ ที่สวมปลอกแขนแสดงตนว่าเป็นสื่อมวลชนชัดเจน อาจเป็นเพราะทหารไม่ต้องการให้ถ่ายภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น และจุดที่ผมยืนอยู่ก็อยู่คนละด้านกับผู้ชุมนุม กระสุนที่ยิงมาจึงไม่น่าจะเป็นลูกหลง เมื่อการยิงยุติ มีทหารเข้ามานำผมออกไป และสอบถามว่าเห็นผู้ชุมนุมมีปืนหรือไม่ ผมบอกว่าไม่เห็น" ช่างภาพเหยื่อปืนทาโวร์ กล่าว

นาย ไชยวัฒน์ กล่าวอีกว่า ขณะรักษา ตัว สำนักข่าวต้นสังกัดประสานกระทรวงสาธารณสุขให้ออกค่ารักษาให้ จากนั้นได้รับเงินช่วยเหลือจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อีก 1 แสนบาท ขณะนี้ตนเตรียมฟ้องร้องหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบปฏิบัติการกระชับพื้นที่ ครั้งนั้น โดยกำลังอยู่ในขั้นตอนปรึกษาผู้มีความรู้ทางกฎหมาย เพื่อดูว่าจะฟ้องร้องช่องทางใดได้บ้าง

เขียนโดย JJ_Sathon

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน