แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ศอฉ.สั่งห้ามบุคคลใดขาย-ครอบครองสินค้า "สร้างความแตกแยก"




ศอฉ.สั่งห้ามบุคคลใดขาย-ครอบครองสินค้า "สร้างความแตกแยก"
Fri, 2010-11-19 13:06

"ประยุทธ์" ลงนามคำสั่ง ศอฉ. ห้ามบุคคลใดครอบครอง ขายสินค้า สร้างความแตกแยก ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ออกคำสั่งยึดหรือายัด ผู้ใดฝ่าฝืนคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่น หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

(19 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 พ.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้มีคำสั่งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ 141/2553 เรื่อง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งยึด หรือ อายัด สินค้าหรือวัตถุอื่นใด ที่ก่อให้เกิดความแตกแยก

โดยมีรายละเอียดดัง นี้ "ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่ มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดปทุมธานี แล้วนั้น

เพื่อ ให้การดำเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ร้าย แรงมากขึ้นและเพื่อ เสริมสร้างให้เกิดความเชื่อมั่นต่อการดำเนินการของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยมุ่งนำสังคมกลับเข้าสู่ความสงบสุข จึงมีความจำเป็นที่หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ต้องออกคำสั่งห้ามและให้พนักงานเจ้าหน้าที่กระทำการใดๆ เท่าที่จำเป็น แก่การรักษาความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชน

อาศัยอำนาจ ตาม ข้อ 3 และข้อ 6 แห่งประกาศตามมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงออกคำสั่งดังนี้

ข้อ 1 ห้ามบุคคลใดมีไว้ในครอบครอง หรือ มีไว้เพื่อการจำหน่าย จ่าย แจก ซึ่งสินค้า เสื้อผ้า เครื่องอุปโภคบริโภค หรือวัตถุอื่นใด ที่มีการพิมพ์ เขียน วาดภาพ ถ่ายภาพ หรือวิธีอื่นใดที่ทำให้ปรากฏความหมายในลักษณะ ยั่วยุ ปลุกระดม สร้างความปั่นป่วน หรือก่อให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชนโดยทั่วไป หรือ เพื่อการกระทำหรือสนับสนุนการกระทำให้เกิดเหตุสถานการณ์ฉุกเฉิน

ข้อ 2 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่ง ยึดหรืออายัด สินค้า เสื้อผ้า เครื่องอุปโภคบริโภค หรือวัตถุอื่นใด ตามข้อ 1 โดยให้มีอำนาจกระทำการเท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชน

ข้อ 3 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ชั้นสัญญาบัตร หรือเทียบเท่าเป็นผู้ดำเนินการตามคำสั่งนี้

ข้อ 4 ผู้ใดฝ่าฝืนข้อห้ามตามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548

ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ.2553"
ลงนามโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน

เขียนโดย Go6 TV

http://www.go6tv.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน