กรณี ที่นายพร้อมพงศ์ออกมาแถลงข่าวคลิปลับการพบปะระหว่างนาย
เมื่อ วันที่ 3 พฤศจิกายน แหล่งข่าวจากเพื่อไทย (พท.) แจ้งว่า ในการประชุมกรรมการบริหาร (กก.บห.) พท. เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กก.บห.พรรคส่วนใหญ่แสดงความกังวลและไม่พอใจต่อกรณีดังกล่าว โดยบางรายเสนอให้พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ลาออกจากตำแหน่งโฆษกพรรค ซึ่งอยู่ในโครงสร้าง กก.บห.ตามข้อบังคับพรรค หากจะทำหน้าที่ต่อไป ควรอยู่ในรูปแบบโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคเหมือนกับนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อป้องกันการถูกร้องยุบพรรค บุคคลหนึ่งที่จะถูกพิจารณาเป็นโฆษกพรรคแทนคือ น.ส.จารุพรรณ กุลดิลก บุตรสาว พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รองหัวหน้า พท.
นอก จากนี้ นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา และนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้า พท. เนื่องจากหวั่นเกรงว่าอาจถูกยุบพรรคทำให้อาจถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งได้ ขณะที่ นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ ส.ส.สัดส่วน ก็มีแนวโน้มจะยื่นใบลาออกจากการเป็นรองหัวหน้าพรรคด้วยเหตุผลเดียวกัน
วัน เดียวกัน นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ประธานภาค กทม.กล่าวถึงกระแสข่าว ส.ส.พท.ทยอยลาออกจากกรรมการบริหารพรรค เพราะเกรงว่าจะถูกตัดสิทธิการเมือง หาก พท.ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคว่า ส.ส.หลายคนมีการพูดคุยกันบ้าง ไม่มั่นใจในตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และเกรงว่าเรื่องที่ถูกฝ่ายตรงข้ามยื่นให้ยุบ พท.เอาไว้จะถูกหยิบยกขึ้นมายุบ ที่สำคัญคือไม่มั่นใจเลยว่าในสถานการณ์การเมืองที่ประเทศไทยไม่มีความ ยุติธรรมและมาตรฐานของกระบวนการยุติธรรม ไม่มี ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งให้เพิกถอนสิทธิการเมืองของคณะกรรมการบริหาร พท.ชุดไหนจึงมีความกังวลมาก ส.ส.พท.ที่เป็นกรรมการบริหารพรรคพูดคุยกันและมีความเป็นห่วงว่าตุลาการศาล รัฐธรรมนูญจะสั่งยุบ พท.แล้วเลือกเพิกถอนสิทธิคณะกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบัน ที่มี ส.ส.เป็นกรรมการบริหารพรรคอยู่จำนวนมาก เลยคิดที่จะลาออก
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ส.ส.ขอนแก่น ในฐานะรองหัวหน้า พท. กล่าวว่า ยอม รับว่ามีพฤติกรรมหลายสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้กรรมการบริหารพรรคไม่สบายใจ โดยเฉพาะกรณีคลิปลับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเปรียบได้ว่าพระกอดสีกาอยู่ แต่มีเณรไปเห็นและไปเล่าให้คนอื่นฟัง แต่ปรากฏว่าเจ้าอาวาสกลับจับเณรสึก แทนที่เจ้าอาวาสจะไปสอบพระว่าทำอย่างนั้นจริงหรือไม่ ทั้งที่คลิปลับตุลาการนั้น พท.ไม่ได้เกี่ยวข้อง เลยไม่สบายใจเรื่องสองมาตรฐาน ต่อให้ พท.ไม่ผิดก็เล่นเราอยู่ดี เรื่องนี้จะมีการพูดคุยกันในอีกครั้งในหมู่ ส.ส.ที่เป็นกรรมการบริหารพรรคว่าจะทำอย่างไรต่อไป
ด้าน นายวัฒนา เตียงกูล นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยังไม่มีการลาออกใดๆ อย่างเป็นทางการ มีเพียงการพูดไปเท่านั้น เรื่องนี้ไม่มีประเด็นอะไรทั้งสิ้นในกรณีที่นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา และนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ ขอลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้า พท.นั้น อาจมีเหตุผลมาจากแต่ละคนมีภาระหน้าที่ของตัวเองจึงต้องการเปิดโอกาสให้คน อื่นมาทำหน้าที่ในกรรมการบริหารพรรคแทน ยืนยันไม่เกี่ยวกับความขัดแย้งใดๆ ภายในพรรค ขณะนี้ไม่มีคดีใดๆ ที่จะยุบ พท.ได้ ส่วนกรณีที่นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นฟ้องให้ยุบ พท.นั้นยังอีกยาวนาน เพิ่งเริ่มตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน ในส่วนของ พท.มีข้อต่อสู้อยู่จึงไม่น่ากังวลอะไร
นาย สุพล ฟองงาม ส.ส.อุบลราชธานีและเลขาธิการ พท. กล่าวว่า การลาออกถือเป็นสิทธิ ในส่วนของนายวิทยาให้เหตุผลว่าเนื่องจากมีงานมากเพราะต้องทำหน้าที่ประธาน วิปฝ่ายค้านด้วย เป็นเหตุผลที่ถูกต้องแล้ว ขณะที่นายสุรพงษ์ให้เหตุผลว่าการทำงานกับกรรมการบริหารพรรคซึ่งมีจำนวนมากก็ กังวลว่าบางคนจะออกไปพูดหรือแสดงออกโดยไม่คำนึงถึงกฎหมายพรรคการเมืองและ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองกรรมการบริหารชุดใหม่ จากนั้นได้ประชุมทำความเข้าใจให้กรรมการบริหารระมัดระวังการแสดงบทบาทไม่ให้ ผิดข้อกฎหมายเป็นเงื่อนไขยุบพรรค ส่วนใหญ่เข้าใจและสบายใจมากขึ้น แต่ความจริงแล้วคำร้องยุบ พท.ก็เกิดขึ้นก่อนที่ กกต.จะรับรองกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น